ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

 

ใครแรงมาก็แรงตอบ!! โซเชียลรัวถล่ม "ครอบครัวกร่าง"ยกเหตุชอบเบ่งข่มขู่ ฟุ้งมีคนโทรให้กำลังใจ จ่อซวยซ้ำตร.เอาผิดตัวแม่โกหกจบนิติ มธ.!? (ชมคลิป)

 

ใครแรงมาก็แรงตอบ!! โซเชียลรัวถล่ม "ครอบครัวกร่าง"ยกเหตุชอบเบ่งข่มขู่ ฟุ้งมีคนโทรให้กำลังใจ จ่อซวยซ้ำตร.เอาผิดตัวแม่โกหกจบนิติ มธ.!? (ชมคลิป)

 

ใครแรงมาก็แรงตอบ!! โซเชียลรัวถล่ม "ครอบครัวกร่าง"ยกเหตุชอบเบ่งข่มขู่ ฟุ้งมีคนโทรให้กำลังใจ จ่อซวยซ้ำตร.เอาผิดตัวแม่โกหกจบนิติ มธ.!? (ชมคลิป)

 

 

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.มาบตาพุด ถูกดูหมิ่น และทำร้ายขณะออกใบสั่งผู้ทำผิดกฎจราจร ทราบชื่อต่อมาผู้ก่อเหตุชื่อ นายพะยอม แสงวันดี และ น.ส.หทัยรัตน์ สมถวิล  รวมทั้ง นายเอ (นามสมมุติ)  ลูกชาย ต่อมากลุ่มบุคคลทั้งหมดได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับตำรวจ สภ.มาบตาพุด ในข้อหาดูหมิ่นและต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ ขณะปฎิบัติหน้าที่ แต่ทั้ง 2 คนปฎิเสธข้อกล่าวหาว่าไม่ได้ทำ ส่วนลูกชาย ที่ชกเจ้าหน้าที่นั้น ทางตำรวจได้ดำเนินคดีไปแล้ว 3 ข้อหา คือ ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวาง และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ขณะปฎิบัติหน้าที่ (คลิกชมคลิปวิดีโอด้านล่าง)

 

 

 

(คลิปตัวที่1)

 

(คลิปตัวที่2)

 

 

ใครแรงมาก็แรงตอบ!! โซเชียลรัวถล่ม "ครอบครัวกร่าง"ยกเหตุชอบเบ่งข่มขู่ ฟุ้งมีคนโทรให้กำลังใจ จ่อซวยซ้ำตร.เอาผิดตัวแม่โกหกจบนิติ มธ.!? (ชมคลิป)

 

ต่อมา เหตุกรณีดังกล่าวบานปลาย กลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อมีการนำคลิปและภาพพฤติกรรมในอดีตของครอบครัวดังกล่าวออกมาแฉให้เห็นว่าที่ผ่านมามีการกระทำในลักษณะใกล้เคียงกันมาโดยตลอด กระทั่งมีการสัมภาษณ์ นายพยอม แสงวันดี และ นางสาวหทัยรัตน์ สมถวิล ปรากฎว่าทั้งสองกลับระบุว่าสิ่งที่ตนเองทำเป็นเรื่องถูกต้อง เพราะเป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม และครอบครัวของตนเป็นฝ่ายถูกกระทำมาโดยตลอด (คลิกอ่านข่าวประกอบ : เปิดใจครอบครัวสุดกร่าง ยันไม่ใช่พวกมิจฉาชีพค้าความเรียกเงิน ยอดแม่นักกม.พูดชัดถูกกระทำก่อน ต้องโวยเสียงดังเพราะตร.ไม่เป็นธรรม)

 

 

 

ใครแรงมาก็แรงตอบ!! โซเชียลรัวถล่ม "ครอบครัวกร่าง"ยกเหตุชอบเบ่งข่มขู่ ฟุ้งมีคนโทรให้กำลังใจ จ่อซวยซ้ำตร.เอาผิดตัวแม่โกหกจบนิติ มธ.!? (ชมคลิป)

 

ล่าสุด นอกเหนือจะปรากฎตัวให้สัมภาษณ์ยืนยันความถูกต้องในสิ่งที่กระทำมาแล้ว  ครอบครัวนี้ยังไปออกรายการทีวี "ต่างคนต่างคิด" ทางช่องอมรินทร์ทีวี พูดชัดเจนถึงการต่อสู้เรียกร้องความชอบธรรม  โดยเฉพาะน.ส.หทัยรัตน์  ซึ่งเล่าถึงเหตุการณ์รุนแรงที่จ.ระยอง ว่าครอบครัวตนเองไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างมีการกล่าวหาในโลกโซเชียล  แต่ทุกครั้งที่รุนแรงก็เนื่องจากการไม่ได้รับความเป็นธรรม  ซึ่งกับกรณีที่ระยองก็เช่นกันเป็นเหตุแค่จอดรถผิดที่ผิดทาง ถึงขั้นเรียกกำลังเสริมใหญ่โต

 

ใครแรงมาก็แรงตอบ!! โซเชียลรัวถล่ม "ครอบครัวกร่าง"ยกเหตุชอบเบ่งข่มขู่ ฟุ้งมีคนโทรให้กำลังใจ จ่อซวยซ้ำตร.เอาผิดตัวแม่โกหกจบนิติ มธ.!? (ชมคลิป)

 

 

ขณะที่นายพยอม ยอมรับว่า ตนเองมีความไม่ชอบเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการส่วนตัว ยิ่งกรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองแสดงพฤติการณ์ไม่เหมาะสมก่อน  มีการพูดจาก้าวร้าว  ระหว่างการตรวจค้น   ทำให้ตนยิ่งเพิ่มความไม่พอใจจนถึงขั้นเดินปรี่เข้าไปโวยวายตามที่ปรากฎในคลิป  ส่วนอารมณ์ของลูกที่สังคมมองว่าชอบความรุนแรง  ก็เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อตนทะเลาะเขาก็จะรู้สึกโมโหตามพ่อแม่ไปด้วย ไม่ใช่เราไปส่งเสริมให้เขามีนิสัยแบบนั้น

 

ใครแรงมาก็แรงตอบ!! โซเชียลรัวถล่ม "ครอบครัวกร่าง"ยกเหตุชอบเบ่งข่มขู่ ฟุ้งมีคนโทรให้กำลังใจ จ่อซวยซ้ำตร.เอาผิดตัวแม่โกหกจบนิติ มธ.!? (ชมคลิป)

 

 

ส่วนข้อคำถามหากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม  ทำไมไม่นำคลิปภาพที่ถ่ายไว้มาแสดงเป็นหลักฐานต่อสังคม  เพราะทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์รุนแรง ก็จะเห็นมีการยกมือถือถ่ายคลิปตลอด  ทางด้านน.ส.หทัยรัตน์  อ้างว่าช่วงชลมุนโทรศัพท์ได้ร่วงพื้นจึงไม่สามารถเก็บบันทึกภาพมาชี้แจงได้  รวมถึงยังถูกมือเจ้าหน้าที่ตำรวจบีบคอด้วย

นอกจากนี้น.ส.หทัยรัตน์  ยังยอมรับว่าตนเองไม่ได้เรียนจบนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ตามที่กล่าวอ้างในโลกโซเชียลทุกๆครั้ง   เพียงแต่สนใจและศึกษาเรื่องข้อกฎหมายเท่านั้น

 

 

ใครแรงมาก็แรงตอบ!! โซเชียลรัวถล่ม "ครอบครัวกร่าง"ยกเหตุชอบเบ่งข่มขู่ ฟุ้งมีคนโทรให้กำลังใจ จ่อซวยซ้ำตร.เอาผิดตัวแม่โกหกจบนิติ มธ.!? (ชมคลิป)

ภาพจากคลิปวิดีโอก่อเหตุเก่า

 

 


สำหรับเหตุการณ์อื่น ๆ ที่มีการนำออกแฉในโลกโซเชียล ทั้งนายพะยอมและน.ส.หทัยรัตน์ ระบุว่าข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นไปตามที่มีการกล่าวหา โดยเฉพาะเรื่องการตบทรัพย์หรือกรรโชกทรัพย์ อย่างเช่นที่จ.ตาก ซึ่งมีการกล่าวโทษอีกฝ่ายว่าขับรถเหยียบเท้า ทั้งสองอ้างตนเองมีคลิปยืนยันความถูกต้อง ไม่มีการเรียกเงินเรียกทองแต่อย่างใด ส่วนการไม่ตามเจ้าทุกข์ไปโรงพักเพื่อพิสูจน์ความจริง ก็เพราะเป็นเรื่องเสียเวลา เนื่องจากไปทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ถึงแม้พวกตนจะเป็นฝ่ายถูกก็ตาม  โดยทุกวันนี้มีคนโทรศัพท์เข้ามาทั้งต่อว่าและให้กำลังใจตลอดเวลา  จึงอยากให้สังคมเข้าใจเราบ้าง


อย่างไรก็ตามภายหลังที่มีการกล่าวอ้างของครอบครัว  ซึ่งกำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับพฤติการณ์ไม่ปกติ  ว่ากรณีที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจระยอง เพราะเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อน ทางด้าน พ.ต.อ.อรรฆพงษ์  สุนทรวิภาค ผกก.สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ยืนยัน ว่า ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่มีการแจ้งข้อกล่าวหา และต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยศาลจะเป็นผู้พิจารณาเองว่าฝ่ายใดผิดถูกและจะมีบทลงโทษหรือไม่สถานใด

 

 

ใครแรงมาก็แรงตอบ!! โซเชียลรัวถล่ม "ครอบครัวกร่าง"ยกเหตุชอบเบ่งข่มขู่ ฟุ้งมีคนโทรให้กำลังใจ จ่อซวยซ้ำตร.เอาผิดตัวแม่โกหกจบนิติ มธ.!? (ชมคลิป)

 

 

"กรณีอีกฝ่ายอ้างว่า ลูกชายไม่ได้ตั้งใจลงมือต่อยตำรวจ  ต้องย้อนกลับไปดูคลิปที่มีการเผยแพร่ แล้วให้สังคมตัดสินใจ ว่า ตั้งใจหรือไม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่าต้องดำเนินคดีตามหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมด  และหากกลุ่มผู้ต้องหาบริสุทธิ์ใจ  ควรจะขอโทษตำรวจที่ถูกเปิดหมวกแล้วต่อยเข้าที่หางตา ทำให้เลือดฝอยแตก ตั้งแต่วันแรกที่มีการแจ้งความ แต่นี่เวลาผ่านล่วงเลยมาหลายวันแล้ว กลับไม่พูดขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจสักคำ ยังคิดว่าฝั่งตัวเองถูกมาโดยตลอด"
 

ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่าจบ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่สุดท้ายยอมรับว่า ไม่ได้เรียนนั้น เรื่องนี้หากมีเจ้าทุกข์   เช่น  คนที่จบคณะนิติศาสตร์  สมาคมนิติศาสตร์ หรือ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนที่กล่าวอ้างหรือน.ส.หทัยรัตน์ ก็จะต้องถูกดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ด้วย

 

ใครแรงมาก็แรงตอบ!! โซเชียลรัวถล่ม "ครอบครัวกร่าง"ยกเหตุชอบเบ่งข่มขู่ ฟุ้งมีคนโทรให้กำลังใจ จ่อซวยซ้ำตร.เอาผิดตัวแม่โกหกจบนิติ มธ.!? (ชมคลิป)

 

 

ชมคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ที่นี่ (คลิก)

 

 

 

 


ขอบคุณ : รายการต่างคนต่างคิด , FB เสกสม แจ้งจิต, Red Skull Phatthalung , หวังเจริญ สุพจน์