หลุด 24อดีตส.ส. เตรียมซบ"พลังประชารัฐ" เจตนาทำลาย"บิ๊กตู่" หรือเรียกราคาตัวเอง?

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

จากรณีที่มีการเผยแพร่โผอดีตส.ส และอดีต ส.ว.ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน และภาคเหนือ.ที่ได้เตรียมเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐจำนวนกว่า24ราย และยังได้ระบุอีกด้วยว่ากลุ่มดังกล่าวได้เข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐไปแล้วเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา หลุดออกมาต่อสาธารณชน

 

ที่น่าแปลกใจก็คือข่าวนี้หลุดออกมาได้อย่างไร หรือแท้ที่จริงแล้วมีคนตั้งใจ “แจก” ข่าวไปตามสื่อต่างๆ  จรกข้อสังเกตที่ว่า ไม่มีการปรากฏตัวตน หรือที่มาที่ไปของเจ้าของข่าวดังกล่าว  นั้นก็อาจจะหมายความว่ามีผู้เจตนาปล่อยข่าวเพื่อให้เกิดกระแสขึ้นมาใช่หรือไม่ ..แล้ววัตถุประสงค์ของการลงมือดังกล่าวจริงๆแล้วคืออะไรกันแน่

 

จะใช่..ความต้องการที่จะทำลายความน่าเชื่อถือ ของ“บิ๊กตู่  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  หรือ พรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ เป็นที่ทราบกันดีว่าพรรคนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะสนับสนุน “บิ๊กตู่” นั่งเก้าอี้ เบิ้ลตำแหน่งนายกฯต่อหลังเลือกตั้ง  อีกทั้งยังมีข่าวลือหนาหูว่าพรรคพลังประชารัฐจะมีการทาบทามให้ “บิ๊กตู่” เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค อีกด้วย  นั่นก็หมายความว่า “บิ๊กตู่” จะมีสิทธิ์ถูกเสนอชื่อเป็นนายกคนนอกได้อย่างถูกต้องตามรัฐธรรมูญทุกประการ

 

อีกทั้งด้วยชื่อพรรคเอง  ดันไปสอดคล้อง กับชื่อนโยบายประชารัฐ ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ขณะนี้ ภายใต้การนำของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ทำให้นำหนักเทมานายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รับตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค  ทั้งคู่ล้วนแต่เป็นมือดี คนสนิทของกุนซือสมคิด

อีกทั้งระยะหลังปรากฏข่าวการโยกย้ายพรรค ของบรรดาอดีตส.ส. เป็นจำนวนมาก ทำให้บรรดานักเลือกตั้งดาหน้าออกมาถล่มพรรคหนุน“บิ๊กตู่”แบบไม่ยั้ง ไม่ว่าจะเป็นพรรคเก่าพรรคแก่ หรือพรรคคนที่เรียกตัวเองว่า คนรุ่นใหม่ กับข้อกล่าวหา “พลังดูด” และความพยายามในการสืบข้ออำนาจ ที่นับวันความรุนแรงหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆที่ บิ๊กตู่ เองก็สงวนทีท่า กับเรื่องนี้มาโดยตลอด

 

อีกนัยหนึ่งเจตนาของผู้ปล่อยข่าวอาจเป็นเพราะต้องการปลุกแสสร้างราคาให้กับตัวเอง เพราะหากดูจากรายชื่ออดีตสส.เหล่านี้แล้ว..เรียกได้แทบจะตกยุคกันหมดแล้ว ซึ่งทั้ง24รายแบ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มากถึง 15จังหวัด

 จ.นครราชสีมา 

ได้แก่ นายภิรมย์ พลวิเศษ พรรคภูมิใจไทย คนสนิท นายเนวิน ชิดชอบ   และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  เป็นถึงอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

จ.ขอนแก่น 

ได้แก่ นายปัญญา ศรีปัญญา จากพรรคภูมิใจไทย  และนายประสงค์ ศรีวัฒน์ จากพรรคความหวังใหม่

จ.ศรีสะเกษ 

ได้แก่ นายอมรเทพ สมหมาย จากพรรคชาติไทยพัฒนา นายกล่ำคาน ปาทาน อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย  และนายพิทยา บุญเฉลียว พรรคมาตุภูมิ

จ.อุบลราชธานี 

ได้แก่นายวีระศักดิ์ จีนาภักดิ์ 

จ.สุรินทร์ 

ได้แก่นายยรรยง ร่วมพัฒนา  พรรคภูมิใจไทย

จ.อำนาจเจริญ 

ได้แก่นายวิเชียร อุดมศักดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองอํานาจเจริญ   เป็นอดีต ส.ส.อำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย ก่อนหนีไปซบพรรคเนวินสมัยที่แล้วลงในนามพรรคภูมิใจไทย นายชัยศรี กีฬา อดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชน  และนายบวรศักดิ์ คณาเสน อดีต ส.ว.

จ.หนองบัวลำภู 

ได้แก่นายสรชาติ สุวรรณพรหม พรรคภูมิใจไทย

จ.มหาสารคาม 

ได้แก่นายสุชาติ ศรีสังข์  พรรคภูมิใจไทย

จ.ร้อยเอ็ด 

ได้แก่นายเกษม มาลัยศรี  อดีตส.ว.

จ.หนองคาย 

ได้แก่นายสมคิด บาลไธสง อดีตพรรคเพื่อไทย

 จ.นครพนม 

ได้แก่นายอรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพย์สิทธิ์ เป็นอดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในยุคของนายบรรหาร ศิลปอาชา  ในปี พ.ศ. 2555 เขาพร้อมกับสมาชิกบ้านเลขที่ 111 อีกจำนวนมาก ได้สมัครเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย

จ.กาฬสินธุ์ 

ได้แก่ นายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง  พรรคไทยรักไทย

จ.บึงกาฬ

ได้แก่ นายยุทธพงษ์ แสงศรี  อดีตสังกัดพรรคพลังประชาชน

จ.ยโสธร 

ได้แก่นายวิสันต์ เดชเสน พรรคชาติไทยพัฒนา

จ.อุดรธานี 

ได้แก่ นพ.วิชัย ชัย จิตวนิชกุล เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย

จ.ชัยภูมิ 

ได้แก่นายวัฒนา แก้วศิริ  จาก พรรคมาตุภูมิ

 

ภาคเหนือมี 2จังหวัด

จ.เชียงราย

 ได้แก่นายบัวสอน ประชามอญ อดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย

จ.แม่ฮ่องสอน 

ได้แก่นายปัญญา จีนาภักดิ์ พรรคชาติพัฒนา