ไม่เหลือชิ้นดี?! "ผู้รู้" ขึงพืด"ร่านใหญ่-สุชาติ สวัสดิ์ศรี" ​อ้างเป็นสลิ่มกลับใจ ที่แท้​แหกตาทั้งเพ-ไม่สำเหนียกดันทุรังอาจโดนถอนหงอกตอนแก่

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

ดูเหมือน "สุชาติ สวัสดิ์ศรี" นักเขียนรุ่นใหญ่ปีกร่านของชาวแดง-ผู้พ่วงตำแหน่งศิลปินแห่งชาติ จะออกอาการคลั่งประชาธิปไตยหนักขึ้นทุกที หลังอ้างเป็น “อดีตสลิ่ม” มาก่อนและได้ “ประกาศความผิดพลาด” ทันทีที่ คสช.เข้ามายึดอำนาจรัฐบาบหนูปู...โดยเขาอาศัยคำอ้างนั้น เชิญชวน "คนเป่านกหวีด และ Bangkok Shutdown" (ตามสำนวนของเขา) ออกมายอมรับความผิดพลาด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในแวดวงศิลปะร่วมลงชื่อ "ปลดอาวุธ คสช."

 

กระทั่งถูกผู้รู้สารทิศรุมจวกไปยกใหญ่ กระนั้นเจ้าตัวยังไม่วาย ออกมาโหนเรื่อง "หอศิลป์ กทม." ที่ผู้ว่าฯ กทม. ยอมถอยแล้วทำนอง เรื่องหอศิลป์แก้ได้ต้องหันมาหนุน "กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง" ให้มีการจัดการเลือกตั้งโดยไวเท่านั้น ซึ่งก็เรียก "เสียงชยันโต" กลับมาอีกเป็นพะเรอเกวียน

 

ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชี "Prin Niamskul" ได้ออกมาพูดถึงสุชาติ ที่อ้างตัวเป็นว่าเป็นสลิ่มกลับใจ...โดยเชื่อมโยงให้เห็นถึงแก๊งลิเบอร่านแดง...ที่สุชาติสังกัดอยู่ ซึ่งก็ล้วนแต่อยู่ในข่าย "แดงหลอกแดง" ทั้งสิ้น โดย "Prin Niamskul" ระบุในช่วงท้าย ๆ ด้วยซ้ำว่า "ก็ขอให้ตาลุงสุชาติมาเสียตัวตอนแก่อย่างสนุกสนานก็แล้วกัน ไงๆ เดี๋ยวก็ได้โดนทั้งลิเบอร่านกะสลิ่มรุมด่าอยู่ดี เหอๆๆ"

 

ดังรายละเอียดที่ "Prin Niamskul" โพสต์ ไว้ คือ

 

พูดถึงสุชาติ สวัสดิ์ศรี ที่อ้างตัวเป็นสลิ่มกลับใจ เขาเป็นขบวนการ 6 ตุลาที่ออกมาช้าสักหน่อยเทียบกับเพื่อนร่วมขบวนการ 6 ตุลา 19 กลุ่มคน 19 ต่างกับคน 14 ตุลา 16 ตรงที่คนพวกนี้จะถือเสรีภาพนำความมั่นคง กลุ่มคนพวกนี้จะร่วมกับ พธม ในยุคปี 49 และเปลี่ยนมาเป็นเสื้อแดงยุคเริ่มแรกตอนปี 50 ที่เรียกว่า นปก ก่อนจะถูกทักกี้ยึด และเขาเป็นคนที่ลงนามขอให้ทักกี้เว้นวรรค

เหตุผลสำคัญที่สุชาติเปลี่ยนสีช้าน่าจะมาจากเพราะการเลือกตั้งปี 2550 คนตุลา 19 จะรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่เมื่อทักกี้เลือก ออหมัก มาเป็นแคนดิเดทนายก และในกาลต่อมาก็โดนกระตุ้นด้วยเหตุการณ์ 53 ที่พวกนี้จะรู้สึกว่าการปราบโจรเสื้อแดงเป็นการทำร้ายประชาชน แน่ละ เหตุการณ์มันคล้ายกับปี 2519 ที่นักศึกษาออกมาเรียกร้องล้มรัฐบาล ปชต แบบเอามันส์ จนทหารถือโอกาสล้มรัฐบาลแล้วยึดอำนาจรัฐแล้วปราบ นักศึกษา โดยสเกลของสุชาติ เขาย่อมจะมองเผด็จการทหารร้ายแรงกว่าเผด็จการรัฐสภา และร้ายแรงกว่าการคอรัปชั่นผูกขาดเชิงระบบ ในขณะที่คน 6 ตุลา 19 หลายส่วนจะออกมาล่วงหน้าดูดปากกะออหมักก่อนนานพอควร (บางคนที่สะอิดสะเอียนหน่อยก็เลือกแยกไปเป็นแดงสยามแทน) ส่วนคน 14 ตุลา 16 หลายคนที่ไม่ได้ออกมาตอน 6 ตุลา 19 ก็มักจะมองเทียบแบบหวั่นๆระหว่างเผด็จการทหารและเผด็จการรัฐสภา โดยเลือกเคลื่อนไหวตามความเหมาะสมมากกว่าจะฟันธงเปรี้ยงแบบพวก 6 ตุลา 19 (จึงเป็นธรรมชาติที่อดีตก๊วน พธม จะด่าทักกี้ แต่มีอัดมาร์คและลุงตู่ตามเงื่อนไขเป็นช่วงๆไป)

เขียนไว้ให้คนรุ่นหลังที่ไม่ทันและไม่เข้าใจนึกว่า สุชาติ ตอแหลอ้างตัวเองสลิ่มกลับใจ แบบที่เราเห็นควายแดงตอแหลให้จับได้บ่อยๆ

จุดยืนสุชาติน่าจะยุ่งยากพอควรเพราะเขาไม่ใช่ก๊วนล้มเจ้าแต่ดั้งเดิม กอปรด้วยว่า ก๊วนลิเบอร่าน ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่สลิ่มกลับใจแต่เป็นควายแดงชุบแป้งทอดมาเนียนกับลิเบอรั่ลล้มเจ้าเสียเยอะ จริงๆจุดยืนลิเบอรั่ลในยุคนี้มันก็อยู่ยากอยู่แล้ว เราจะเห็นลิเบอรั่ลเผลอๆก็โดนควายแดง (ลิเบอร่าน) ด่าเป็นสลิ่มบ่อยๆ สมเจียม หรือตาลุง JD ก็โดน เหตุการณ์ "อาจารย์ผู้เลือกข้าง" ในเพจดราม่าผมก็เข้าไปเล่นด้วยตอนนั้นเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน เช่นเดียวกับน้องผู้หญิงในม๊อบเสื้อขาวที่ขึ้นป้ายให้ล้มทักษิณด้วยวิธีปชตโดนเสื้อแดงชุบแป้งทอดด่า

ผมดูว่าปัจจุบันเราควรอัดพรรคการเมืองให้ reform ตัวเองมากกว่าจะเรียกร้องเลือกตั้งในชอตนี้ ส่วนที่ควรเรียกร้องกับทหารควรมีแค่ให้พรรคการเมืองจัดประชุมได้ จะได้เลือกหัวหน้าใหม่กันได้ การเรียกร้องเลือกตั้งแบบหน้ามืดตามัวมันไม่แก้ปัญหาที่คนไทยถูกจูงจมูกและพรรคการเมืองมาปั่นหัวเล่นจนเรามาลงเอยที่รัฐประหารรอบปัจจุบันอย่างที่ผมเคยเขียนไว้ตั้งแต่ก่อนรัฐประหารว่า นี่เป็นเกมที่พรรคการเมืองบีบให้รัฐประหาร ฝ่ายนึงขึ้นหลังเสือหวังได้คะแนนเสียงแล้วไม่มีทางลง อีกฝั่งต้องการล้างไพ่การบริหารประเทศจนฉิบหาย ก็ขอให้ตาลุงสุชาติมาเสียตัวตอนแก่อย่างสนุกสนานก็แล้วกัน ไงๆ เดี๋ยวก็ได้โดนทั้งลิเบอร่านกะสลิ่มรุมด่าอยู่ดี เหอๆๆ

สเตตัสนี้อิงนิยามสลิ่มแบบควายแดงปนๆกับคำผกาแอนด์สมเจียม จริงๆผมน่าจะใช้คำว่าสลิ่มเสื้อแดงแทนลิเบอร่านด้วยซ้ำนะเนี่ย

 

ไม่เหลือชิ้นดี?! "ผู้รู้" ขึงพืด"ร่านใหญ่-สุชาติ สวัสดิ์ศรี" ​อ้างเป็นสลิ่มกลับใจ ที่แท้​แหกตาทั้งเพ-ไม่สำเหนียกดันทุรังอาจโดนถอนหงอกตอนแก่

 

ขอบคุณข้อเขียน : "Prin Niamskul"