งานนี้มีแหก!! "สมศักดิ์"ต้องเงิบหลังฉะคสช. แต่"ลูกท๊อป"กลับลั่น"ชาติไทยพัฒนา"พร้อมคุยการเมือง แถมเล็งเสนอปลดล็อคให้เร็ว!!

 

จากกรณีที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  เล็งนัดทุกพรรคการเมืองถกกำหนดวันเลือกตั้ง เพื่อเดินหน้าประเทศไทย เพราะถือเป็นวาระแห่งชาติ ในช่วงเดือน มิ.ย. จะเรียกทุกพรรคการเมืองมาพูดคุย และสอบถามทุกพรรคว่าจะมีแนวทางในการพัฒนาประเทศอย่างไร และเห็นว่าการเมืองไทยต่อไปฝ่ายค้านและรัฐบาลต้องเดินไปด้วยกัน เชื่อมต่อกันและสลายขั้ว เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนเท่าเทียมทั่วถึง

 

 

  ล่าสุด นายวราวุธ ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวตอบรับหากรัฐบาล เชิญพรรคการเมืองเข้าหารือเพื่อเตรียมพร้อมก่อนการจัดการเลือกตั้ง ช่วงเดือนมิถุนายนนี้ แต่จะนำประเด็นใดไปหารือด้วยนั้น ตนยังให้รายละเอียดไม่ได้ เพราะต้องหารือกันระหว่างสมาชิกพรรคอีกครั้ง

          ส่วนที่หลายฝ่ายระบุถึงช่วงเวลาการปลดล็อคคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  เพื่อให้พรรคทำกิจกรรมการเมืองและเตรียมความพร้อมได้ทันต่อการเลือกตั้งนั้น ตนมองว่าภายในเดือนมิถุนายนควรมีความชัดเจน

               

          "ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดให้พรรคทำกิจกรรมต่าง ๆ ไว้  ทั้งการจัดเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อหาผู้สมัคร ส.ส. หรือ ไพรมารี่โหวต ที่เกี่ยวข้องกับการหาสมาชิกพรรค ดังนั้นหากตามโรดแม็พเลือกตั้งจะเกิดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562  ควรต้องให้เวลาพรรคหาสมาชิกพรรคให้เพียงพอต่อการทำไพรมารี่โหวตด้วย  แต่หากว่าปลดล็อคล่าช้า พรรคการเมืองจะได้รับผลกระทบ" 

 

ก่อนหน้านี้ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเตรียมชุมนุมทางการเมืองใหญ่ครบรอบ 4 ปี รัฐประหาร วันที่ 22 พ.ค.นี้ ว่า คสช.และรัฐบาลควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะต้องไม่ลืมว่าความรู้สึกของกลุ่มคนที่ไม่ใช่เฉพาะคนหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ หรือกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเท่านั้น แต่เป็นความรู้สึกของคนทั้งโลกที่รู้สึกว่าเมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่แล้วสิทธิเสรีภาพน่าจะได้รับการคุ้มครอง หลายคนยังมีความเชื่อว่ารัฐธรรมนูญใหญ่กว่า มาตรา 44 ฉะนั้นหากฝืนความรู้สึกของคนทั้งโลก ฝืนความรู้สึกของความเป็นจริงที่ควรเกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตย จะเหมือนการเอาแพ้เอาชนะซึ่งไม่เกิดผลดี 

 

"ทุกอย่างถ้าปล่อยไปตามครรลอง ทั้งรัฐบาลและคสช.ซึ่งมีโรดแมปที่วางไว้แล้ว และที่สำคัญต้องรอคำตอบจากศาลรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และ พ.ร.ป.การได้มาซึ่งส.ว. หากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาอย่างไร แล้วแพ้ก็มีคำตอบที่ชอบธรรมว่าต้องรอให้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเสร็จสรรพตามรัฐธรรมนูญใหญ่ ถ้าชนะก็ดำเนินการให้เป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้ ซึ่งในพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.บอกอยู่แล้วว่าให้มีผลบังคับใช้นับไปอีก 60 วัน"