ออกสเต็ปโชว์ศักยภาพ !!! "สมคิด" ร่ายมนต์ ดึง “โอปป้า”ลงทุนไทย หวังทาบญี่ปุ่นเบียดจีน เล็งผันเงินเกาหลีลงทุนอีอีซี (รายละเอียด)

ถือเป็นไฮไลต์ของแขกบ้านแขกเมืองที่มาเยือนไทยในช่วงนี้เลย  สำหรับการมาของนายเพค อุน-กยู (H.E. Mr.Paik Un-gyu) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรมและพลังงาน สาธารณรัฐเกาหลี  ที่เที่ยวนี้มาเยือนไทยพร้อมผู้บริหารเครือ MK Groups   แถมหอบกลุ่มนักธุรกิจชาวเกาหลีใต้ กว่า 180 คน ที่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับหัวกะทิเกาหลีมาเพียบ  เป็นการเดินทางมาในโอกาสครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ งานนี้ทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ถึงขนาดต้องเปิดทำเนียบรัฐบาลต้อนรับแถมลงมาโอภาปราศรัยเชิญชวนนักลงทุนเกาหลีให้มาลงทุนในไทยเพื่อขยายการค้าการลงทุนให้มากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ไทยกับเกาหลีค้าขายกันน้อยนิดเกินไป มูลค่าการค้าของไทยกับเกาหลีอยู่ที่อันดับ 10  ส่วนไทยเป็นคู่ค้ากับเกาหลีอันดับ 15 ขณะที่โอปป้ามาลงทุนในไทยอันดับ 12 ทั้งๆที่ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศดีมากๆ  ติงเกาหลีที่เป็นคนไทยไปเที่ยวบ้านเขาถึง 5 แสนคนต่อปี ขณะที่พี่หลีมาเที่ยวไทย 1.5 ล้านคน แต่การค้าขายระหว่างกันกลับน้อยพึลึก

 

งานนี้ภาระเลยต้องตกเป็นหน้าที่ของ “กูรูเศรษฐกิจรถถัง” อย่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ  ที่ต้องทำทุกวิถีทางในการดึงทุนเกาหลี ว่าแล้วในงานสัมมนา Korea-thailand 60th Anniversary Of Diplomatic Relations: MAEKYUNG THAILAND FORUM  ณ โรงแรม สยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ นายสมคิดเลยออกลีลาร่ายมนต์ 7 ชั้นดึงเกาหลีมาลงทุนในไทยแบบปล่อยของเต็มแม็ก “ ประเทศไทยจะดูแลท่านเป็นอย่างดี หากท่านมาลงทุนในประเทศเรา เราจะให้บีโอไอ tailor made policy ให้กับท่าน  ท่านไม่ต้องกังวลรัฐบาลนี้ให้ความเป็นธรรมและเสมอภาคกับนักลงทุนทุกประเทศ ที่ผ่านมาท่านอาจไปลงทุนไปเวียดนามมาก ขอให้เลี้ยวมาทางนี้บ้างอย่าไปลงทุนที่นู้นหมด” รองนายกฯเปิดฟลอร์พร้อมเปิดประเด็นไม่ได้ลำเอียงเอาใจทุนญี่ปุ่นกับจีนอย่างเดียว แต่พร้อมอ้าแขนต้อนรับทุนเกาหลีและทุนประเทศอื่นๆที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทย 

 

เสร็จจากนั้นเจ้าตัวก็ร่าย “จุดเด่น-จุดแข็ง” ข้อดีของประเทศไทยที่ต่างชาติไม่ควรมองข้ามที่จะมาลงทุน “ ช่วงนี้เป็นโอกาสดีในการลงทุนในประเทศไทย สถานการณ์ทุกอย่างเหมาะสม ภาวะเศรษฐกิจต่างๆจะดีขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่า gdp ปีนี้จะทะลุ 4% แน่นอน ด้วยแรงหนุนส่งจากดัชนีผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรม การขยายตัวการส่งออก การลงทุนจากต่างประเทศ การท่องเที่ยว กรอบเงินเฟ้อต่ำ ทุนสำรองมากกว่า 2 แสนล้านเหรียญยูเอส  หนี้สาธารณะ 45% ความมีเสถียรภาพต่อเศรษฐกิจมหภาคอยู่อันดับ 9 ของ WEF  ขณะที่ WB และ IMF ก็พอใจที่เศรษฐกิจของเราดีขึ้น” รองนายกฯโปรยยาหอม 

 

สมคิดพูดในงานยกย่องอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์ของเกาหลีเป็นของดีที่ไทยต้องการให้มาลงทุนถ่ายทอดนวัตกรรมให้กับคนไทย ทั้ง รถยนต์ การบิน เหล็ก เทคโนโลยี ก่อสร้าง ปิโตรเคมี ฯลฯ  “ บอกได้เลยว่าเรื่องเทคโนโลยีท่านไม่เป็นสองรองใคร ขอให้ท่านเชื่อใจ วางใจ ไว้ใจ ถ้าเราร่วมมือกันเราจะบรรลุผลสำเร็จแน่นอน ถ้าเปรียบพวกท่านก็เหมือนผู้หญิงที่เราสนใจต้องการให้ท่านมาอยู่ประเทศไทยให้ได้ เพราะเราสองประเทศเหมือนคนรักที่รู้จักกันมายาวนาน” นายสมคิดระบุ

จากนั้นก็ออกสเต็ป “ขายของ” โชว์ศักยภาพประเทศไทย โดยระบุว่าไทยกำลังปฏิวัติโครงสร้างทางเศรษฐกิจไปสู่ยุค 4.0 โดยมีโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นตัวนำในการพลิกฟื้นประเทศที่จะมีการผุดเมกกะโปรเจกต์มากมายหลายล้านล้านบาท อาทิ รถไฟความเร็วสูง สนามบิน ท่าเรือ ศูนย์ซ่อมอากาศยาน โดยในอีอีซีพร้อมรองรับอุตสาหกรรมสมัยใหม่สำหรับการพัฒนาประเทศไทยไปสู่อนาคต  “ ตอนนี้ถือเป็นโอกาสดีของการลงทุนในประเทศไทย อีก4-5 ปีข้างหน้าเราจะมีการลงทุนเมกกะโปรเจกต์จำนวนมาก ซึ่งต้องใช้วัสดุ เทคโนโลยีจากพวกท่าน  นอกจากนี้เรายังถือเป็นประตูสู่ CLMVT เป็นศูนย์กลางทางธรรมชาติของอนุภูมิภาคนี้ที่มีคนอยู่ถึง 250 ล้านคนอย่างแท้จริง  ขณะเดียวกันเรามีการเชื่อมกับโครงการวันเบลท์วันโรดของจีน  และผมกำลังยุยงให้ญี่ปุ่นสร้างรถไฟจากดานังไปอินเดีย เพราะฉะนั้นท่านไม่ควรพลาดที่จะลงทุนในประเทศไทยในช่วงเวลานี้เป็นอันขาด” รองนายกฯระบุ 

 

ใช่จะขายของบนเวทีให้นักลงทุนเกาหลีชื่นใจในสาธารณะเท่านั้น หากแต่ในฟลอร์พบปะพูดคุยกับนักธุรกิจนอกรอบแบบเป็นกันเอง  นายสมคิดยังได้ให้ความมั่นใจและตอกย้ำเรื่องความเท่าเทียมและสิทธิประโยชน์ในการลงทุนที่นักลงทุนเกาหลีจะได้ทุกอย่าง ไม่น้อยหน้าญี่ปุ่นหรือจีนอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันเจ้าตัวก็รับปากจะไปดูแลเรื่องข้อกังวลในกฏหมายต่างๆที่เป็นอุปสรรคสำหรับการลงทุนให้กับนักลงทุนจากเกาหลี  ทั้งการถือหุ้นในบริษัทได้เกิน 49% การถือเวิร์คเพอร์มิตระยะยาว การเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นของทุนต่างชาติให้มากขึ้น เป็นต้น  ปิดท้ายนายสมคิดยังยืนอยากให้มีการฟื้นการประชุมความร่วมมือระหว่างไทยเกาหลีครั้งที่ 2 ให้เกิดขึ้นในเร็ววันนี้  รวมทั้งพร้อมเดินทางไปเกาหลีเพื่อเชื้อเชิญคนมาลงทุน 

 

พร้อมปล่อยมุกเรียกเสียงฮาตบท้าย “ ถ้าผมไปเกาหลีท่านต้องให้สื่อมาสัมภาษณ์ผมมากๆ จะได้รู้ว่าประเทศไทยมีดีอะไรให้ท่านมาลงทุน ขอมห้ต้อนรับผมให้เหมือนกับวงเค ป็อป เราจะได้รู้ว่าเราจะร่วมมือกับในอนาคตอย่างไร “ 

จากนี้ต้องติดตามใกล้ชิดว่ามนต์มายาของนายสมคิดจะสะกดให้ทุนโอปป้าเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นขนาดไหน