ปลายทางแดงเผาเมือง! ไม่ตกนรกทั้งเป็น-ก็ตายคาคุก "นายดวง คนยืน-คนเผามุกดาหาร"เป็นตัวอย่างที่ต้องสังวรณ์-ตายแบบเดียวดายคาห้องขัง

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 หรือเมื่อ 8 ปีก่อน นับว่าสั่นสะเทือนความรู้สึกคนไทยที่ห่วงใยบ้านย่วงใยเมืองเป็นอย่างยิ่ง...เพราะคาดไม่ถึงว่า...จะมีคนบางคนอำมหิตถึงกับกล้ายุยงปลุกปั่นให้...คนไทยอีกบางคนที่ไม่รับรู้รับทราบข้อเท็จจริงใด ๆ มากนัก และพร้อมจะเชื่อตามแกนนำยุทุกอย่าง...ลงมือเผาบ้านเผาเมืองตัวเองได้ลงคอ

 

เรื่องนี้เป็นที่ประจักษ์แก่คนทั้งโลก เพราะมีการแพร่ภาพข่าวออกไปทุกมุมโลก ซึ่งก็เป็นห้วงยามเดียวกับที่ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดงประกาศยอมสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์และเข้ามอบตัว จากนั้นทั่วทั้งกรุงเทพฯ ก็ดังระงมไปด้วยเสียงปืน ประทัดยักษ์ และระเบิด  พร้อม ๆ กับมีเพลิงโหมไหม้ในจุดสำคัญ ๆ หลายจุดทั่วกรุงเทพฯ

 

แม้วานนี้แกนนำแดงอย่าง "นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" จะพยายามปัดผิด โดยหยิบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ยกฟ้อง "การ์ด นปช." 2 นายจากคดีเผาเซ็นทรัลเวิล์ด เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ไม่เพียงพอ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยมากล่าวอ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า...ไม่มีการเผาเกิดขึ้น.....เพียงแต่เมื่อหลักฐานไม่เพียงพอ...ศาลท่านก็เมตตา...ยกประโยชน์ให้

ทว่าในส่วนของต่างจังหวัด โดยเฉพาะทางภาคอีสานซึ่งถือเป็นฐานใหญ่ของคนเสื้อแดงในชนบท...กลับพบว่า....คำยั่วยุของแกนนำที่ส่งต่อมาเป็นทอด ๆ กลับทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ศาลากลางถึง 4 จังหวัดทั้ง อุดรธานี อุบลราชธานี ขอนแก่น และมุกดาหารขึ้นมาจริง โดยทั้งหมดเกิดจากการรวมตัวกันของคนเสื้อแดง หลังฟังคำยั่วยุจากแกนนำในท้องที่จากวิทยุชมชน ซึ่งก็ถ่ายทอดคำปราศรัยมาจากเวทีใหญ่ที่กรุงเทพฯ อีกต่อหนึ่ง ซึ่งทุกจังหวัดมวลชนแดงต่างอยู่ในอาการโกรธแค้น เพราะก่อนออกจากบ้านมารวมกันที่ศาลากลางต่างก็ฟังวิทยุชุมชน...ที่ปลุกระดมให้มารวมตัวกันที่ศาลากลางเป็นก่อนอื่น...ก่อนที่จะสั่งทำสิ่งหนึ่งใด...หากทางกรุงเทพฯ กำชับมาอีกทอด

 

 

“ขอให้เสื้อแดงซึ่งอยู่ต่างจังหวัด ฟังภารกิจดังต่อไปนี้ ให้ไปรวมตัวกันอยู่ที่ศาลากลาง รอเวลาให้มีการปราบเมื่อไหร่ตัดสินใจได้ทันที” นั่นคือคำพูดของ จตุพร พรหมพันธุ์ หนึ่งในแกนนำแดงที่ ปลุกเร้าเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลานับแต่ที่...เสื้อแดงทำม็อบใหญ่ปิดล้อมกรุงเทพฯ ช่วงเดือนมีนาคม 2553...จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เผาศาลากลางที่อีสานจริงในอีก 2 เดือนต่อมา

แต่ทว่าเอาเข้าจริง...เมื่อมีการชาวแดงภาคอีสานถูกจับ และพิพากษาจำคุกคดีดังกล่าวจากการยั่วยุของแกนนำที่รับลูกกันมาเป็นทอด ๆ พวกเขากลับถูกทอดทิ้งให้สู้คดีแต่เพียงลำพัง มีทนายจากส่วนกลางเดินทางมาดูแลบ้างเป็นครั้งคราว...และไม่ครบทุกคน

เรื่องของ "นายดวง คนยืน" ผู้ต้องขังคดีเผาศาลากลางมุกดาหาร ที่เสียชีวิตในเรือนจำเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับกรณีนี้ เพราะก่อนหน้าระหว่างต่อสู้คดีเขาถูกทอดทิ้งเกือบจะสิ้นเชิง กระทั่งมีเสียงโวยค่อนข้างหนาหูจน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแดง ถึงกับต้องโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" เพื่อขอบคุณผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ที่ฝากเงินสด 50,000 บาทผ่านแกนนำนปช. มอบให้ครอบครัว "นายดวง คนยืน" เพื่อแก้เกี้ยวกรณีนี้ในเวลาต่อมา

 

ปลายทางแดงเผาเมือง! ไม่ตกนรกทั้งเป็น-ก็ตายคาคุก "นายดวง คนยืน-คนเผามุกดาหาร"เป็นตัวอย่างที่ต้องสังวรณ์-ตายแบบเดียวดายคาห้องขัง

อย่างไรก็ตาม  "นายดวง" ไม่ใช่ "แดงเผาศาลากลาง" คนแรกที่ตายอย่างน่าอนาถใจ เพราะก่อนหน้า "นายประคอง ทองน้อย" หนึ่งในแก๊งเผาฯ ก็เสียชีวิตระหว่างที่คดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์มาก่อน...และโดดเดี่ยวเยี่ยงเดียวกับ "นายดวง" เช่นกัน...และว่าไปแล้ว...นี่ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่...ที่ "ชาวแดงซึ่งเป็นคนบ้าน ๆ รากหญ้าแท้ ๆ" และไม่รู้ตื้นลึกหนาบางในเกมการเมืองใหญ่ของ "นปช."  ที่กำลังเป็น "เบี้ย" เคลื่อนไหวให้พวกเขาอยู่ในขณะนี้...จำเป็นต้อง...ฉุกคิด และเก็บรับไว้เป็นบทเรียน...เพื่อตรึกตรองให้เกิดสติเช่นกัน