เสนาธิการ ทร. ตรวจเยี่ยมติดตาม แก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย สัตหีบ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ 21 พ.ค.61 พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ เสนาธิการทหารเรือ และ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศรชล.) พร้อมด้วยผู้บริหารของ ศรชล. และศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) อาทิ พลเรือโท บรรจบ โพธิ์แดง ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ชองชาติทางทะเลเขต 1/ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1   ผู้แทนจากกรมประมง กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ตรวจเยี่ยมศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า - ออกเรือประมง (PIPO) ชลบุรี  เพื่อติดตามการดำเนินการตามแนวทางในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย รวมถึงรับฟังรายงานปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้อง และข้อเสนอแนะจากหัวหน้าศูนย์ PIPO ชลบุรี  พร้อมทั้งเยี่ยมชมการปฏิบัติงานในการตรวจเรือ ตรวจแรงงานภาคประมงของเจ้าหน้าที่ ณ  ท่าเทียบเรือสะพานปลาคณาศรีนุวัติ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และเดินทางเข้าตรวจเยี่ยมและรับทราบผลการปฏิบัติงานตลอดจนอุปสรรคข้อขัดข้องต่างๆ ของศูนย์ PIPO ชลบุรี ที่บางเสร่ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย

ทั้งนี้ ศปมผ. ได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับหลายหน่วยงาน ทั้งกองทัพเรือ กรมประมง กรมเจ้าท่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตำรวจน้ำ และอีกหลายหน่วยงาน ได้ควบคุมและบังคับใช้กฎหมายตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และอนุบัญญัติประกอบ ซึ่งกำหนดให้มีมาตรการต่างๆ ตั้งแต่การลงทะเบียนเรือ กำหนดเครื่องมือทำการประมงที่ไม่เป็นการทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำ และมาตรการทางด้านการคุ้มครองแรงงานภาคประมง เป็นต้น การบูรณาการของทุกหน่วยงาน ในการบังคับใช้กฎหมาย ตามแนวทางการแก้ปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายจะทำให้เกิดความมั่นใจถึงผลสำเร็จของการดำเนินงาน

พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า  สำหรับการทำงานของศูนย์ PIPO ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อ ศรชล. เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญมาก ทั้งในเรื่องของการตรวจเรือ การตรวจใบอนุญาตต่างๆ ทั้งของแรงงาน และเครื่องมือทำการประมง ก่อนที่จะออกเรือไปทำการประมง และการตรวจเรือประมงเมื่อเดินทางกลับเข้ามา ยังสะพานปลาเพื่อทำการขนถ่ายสัตว์น้ำ ซึ่งจะมีการตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่ง และมีการตรวจที่มาของสัตว์น้ำที่จับได้ว่ามาจากแหล่งประมงที่ถูกต้อง ตามที่ได้แจ้งไว้ การบูรณาการของหน่วยงานต่างๆ ที่กล่าวมามีการดำเนินการที่เข้มแข็ง มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการตรวจสอบ และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ความร่วมมือของผู้ประกอบการภาคประมง อันเป็นจุดสำคัญ นอกเหนือจากการบังคับใช้กฎหมายให้ได้ผล อันจะทำให้เกิดการทำงานอย่างเป็นระบบเพื่อการทำการประมงที่ยั่งยืนต่อไป

 

นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล  ทิพย์ศรี  ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ จ.ชลบุรีรายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก  สวนนงนุชพัทยา  จ.ชลบุรี