เปลือยความฉ้อฉล"พท.-นายใหญ่"? ชนวนเหตุ รปห. 4 ปีก่อน-หวงอำนาจจนทหารทนไม่ไหว ไม่นับความเลวร้ายที่ลิ่วล้อกระทำต่อ "กปปส."ไม่เว้นวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 


วันนี้ซึ่งก็คือวันที่ 21 พ.ค. 2561 เมื่อ 4 ปีก่อนอาจยังไม่ใช่วันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ประกาศยึดอำนาจจากรัฐบาลรักษาการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้หมดความชอบธรรมบริหารประเทศจากการชี้มูลของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีย้าย "นายถวิล เปลี่ยนศรี" เลขาธิการ สมช.โดยมิชอบ

เพราะวันรัฐประหารจริง ๆ คือช่วงเวลา 16.30 น. ของวันที่ 22 พ.ค. 2557 หรือพรุ่งนี้ของเมื่อ 4 ปีก่อน จากนั้นจึงตั้ง "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" (คสช.) ขึ้นมาดูแลประเทศในช่วงแรก ก่อนจะมีการจัดตั้งรัฐบาลโดย พล.อ..ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่ง หลังเป็นหัวหน้า คณะ คสช.อย่างเดียวมาระยะหนึ่ง

กระนั้นโดยตารางเวลา วันนี้คือวันที่ 21 หรือแม้แต่ 20 พ.ค.2557 ก่อนจะมีการรัฐประหาร วัน 2 วันนั้น นับว่าเป็นห้วงยามที่มีนัยยะสำคัญทางการเมืองของไทยอย่างยิ่งวันหนึ่งทีเดียว...เพราะผู้ที่สนใจในบ้านในเมืองต่างรู้ดีว่า ก่อนยึดอำนาจนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ ประกาศกฎอัยการศึก "เพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์ที่ประเมินว่ามีแนวโน้มจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงสูญเสียเลือดเนื้อจากการกระทำของคนบางกลุ่ม" รวมทั้ง
เรียกแกนนำคู่ขัดแย้งทางการเมืองที่สุดคุกรุ่นในเวลานั้น ทั้ง แกนนำ กปปส. แกนนำ นปช. รวมทั้ง "พรรคเพื่อไทย" ซึ่งเป็นรัฐบาลรักษาการ และถือเป็นคู่ขัดแย้งหลักมาหารือเพื่อร่วมกันหาทางออกถึง 2 วันซ้อนๆ

 

เหนืออื่นใดก็คือ ในวันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้ทางเลือกแก่ "พรรคเพื่อไทย" ซึ่งเป็นรัฐบาลรักษาการเอาไว้ด้วย...โดยเสนอเงื่อนไข 3 ข้อ ไปยังพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย 1. ให้ ครม.ลาออกทั้งคณะ 2. ตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลขึ้นมา และ 3. ให้ "นปช." และ "กปปส." ยุติการชุมนุมทั้งคู่

แต่หลังแกนนำพรรคเพื่อไทย นำข้อเสนอดังกล่าวไปพูดคุยกับ นายทักษิณ ชินวัตร (ซึ่งเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย - และคนคุมบังเหียนรัฐบาลตัวจริง) กลับได้รับการปฏิเสธทั้งหมด  พร้อมทั้งให้พรรคต่อสู้อย่างถึงที่สุดและผลักดันเลือกตั้งให้เร็วที่สุด แถมนายทักษิณ ยังพยายามจะขี่กองทัพตามลักษณะเฉพาะตัวของเขา โดยเสนอเงื่อนไขกลับไปยังกองทัพเสียด้วยว่า "ควรจะมีการนิรโทษกรรมทุกฝ่ายพร้อมกันให้หมด และตระกูลชินวัตรก็พร้อมที่จะวางมือทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน" ทักษิณ ระบุ

 

....ความหวงในอำนาจของ "นายใหญ่ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย" นั่นเองเป็นเหตุให้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผอ. กอ.รส. ตัดสินใจประกาศยึดอำนาจในช่วงเวลา 16.30 น. ของวันที่ 22 พ.ค. 2557 ซึ่งถือเป็นการวันพูดคุยในวันที่ 2 หลังจากให้การบ้านพรรคเพื่อไทยไป 3 ข้อก่อนหน้า
 
โดยวินาทีก่อนยึดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้สอบถาม "นายชัยเกษม นิติสิริ" รมว.ยุติธรรมในฐานะหัวหน้าคณะฝ่ายรัฐบาลอีกครั้งว่า "ตกลงรัฐบาลยืนยันจะไม่ลาออกทั้งรายบุคคล และทั้งคณะใช่หรือไม่" ซึ่งนายชัยเกษม ระบุว่า "นาทีนี้ไม่ลาออก" ทำให้ "บิ๊กตู่"  ประกาศกร้าวในนาทีต่อมาว่า “ถ้างั้นตั้งแต่นาทีนี้ ผมตัดสินใจยึดอำนาจการปกครอง พวกคุณอยู่ตรงนี้ อย่าไปไหน”....ทุกอย่างจบ

ว่ากันด้วยหัวใจที่เป็นธรรม ความหวงในอำนาจของพรรคเพื่อไทย...กระทั่งนำมาสู่การรัฐประหารนั้น...ไม่ค่อยมีใคร่พูดถึงมากนัก...เพราะหากวันนั้นทางพรรคเพื่อไทยทำตามที่  พล.อ.ประยุทธ์ ร้องขอการเมืองคงเปลี่ยนไปอีกทางหนึ่ง และจุดจบของรัฐบาล "หนูปู" คงไม่ถูกยันจนหล่นจากเก้าอี้เช่นนั้น...แต่เมื่อเลือกที่จะกอดอำนาจไว้...ก็ย่อมรับผลกรรม...แห่งความมัวเมาในตัณหานั้นไป

ความจริงร่องรอยการหวงอำนาจ และสั่งสู้ของทักษิณต่อกรณีนี้...มีเค้าลางให้เห็นอยู่พอควร เพราะก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่วัน "ลิ่วล้อจากอีสาน" ยังบินไปขอแนวทางการต่อสู้กับ กปปส. จากปากทักษิณถึงฮ่องกง และเขาเองก็ลั่นปากว่า "ศึกนี้สู้ไม่ถอย"  

พร้อม ๆ กับที่เขาได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @ThaksinLive เมื่อรู้ว่าตนลุแก่อำนาจ และหลิ่วตาให้ลิ่วล้อกระทำความเลวร้ายต่อ "ม็อบ กปปส." แค่ไหน หลัง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ ประกาศกฎอัยการศึก "เพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์ที่ประเมินว่ามีแนวโน้มจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง" อย่างที่กล่าว โดยทักษิณระบุว่า "การประกาศกฎอัยการศึกถือเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ สำหรับผู้ติดตามสถานการณ์การเมืองไทยตลอดช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ผมหวังว่าจะไม่มีฝ่ายใดก่อให้เกิดการลิดรอนสิทธิมนุษยชน และบ่อนทำลายกระบวนการทางประชาธิปไตยมากยิ่งไปกว่านี้ ซึ่งยิ่งซ้ำเติมให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยถูกบ่อนทำลายในสายตาของชาวโลก"

คำทวีตของทักษิณทำให้หลายคนถึงกับอดสมเพชไม่ได้ เพราะนอกจากเขาจะหวงอำนาจอย่างหนักแล้ว คำทวีตดังกล่าวโดยเฉพาะประโยคที่ว่า "การประกาศกฎอัยการศึกถือเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ สำหรับผู้ติดตามสถานการณ์การเมืองไทยตลอดช่วงที่ผ่านมา" ยังทำให้เขากลายเป็นผู้ใหญ่เลี้ยงแกะไปโดยมิพักต้องสงสัยใด ๆ ...เพราะอย่างที่บอก ก่อนหน้าเขาสั่งให้ลิ่วล้อรับมือกับ กปปส. เท่านั้น ไม่คิดว่าอาการเหิมอำนาจของพวกตน...จะพาสถานการณ์ลื่นไถลไปสู่...การประกาศกฎอัยการศึกจากทหาร...ก่อนจะจบลงด้วยการ "รัฐประหาร"...ด้วยเหตุผลเดียวกัน

 

....เสียดายเรื่องนี้มีไม่มากคนที่รู้...ยิ่งกว่านั้น...กลับมีคนบางกลุ่ม...ซึ่งก็คือคนเสื้อแดง....ทุกปีกทุกเฉด...กลับยังมองว่า...ทักษิณคือเทพเจ้าประชาธิปไตย...และพรรคเพื่อไทยคือตัวแทนของฝั่งประชาธิปไตย...แม้หลายครั้ง...คนเสื้อแดงเองจะจับโกหก...อาการเหิมอำนาจ...และทอดทิ้งคนเสื้อแดงของทักษิณ...ได้ด้วยตัวเองก็ตาม