#จากผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่า เปิดภาพสุดสลด! อวนลากปลาจับ "ฉลามหัวค้อน" สัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธ์ เพื่อหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ..

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

วันที่  21  พฤษภาคม  นายปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมประมงพื้นบ้านทุ่งน้อย  ต.เขาแดง อ.กุยบุรี  จ.ประจวบคีรีขันธ์แกนนำกลุ่มประมงพื้นบ้านเข้มแข็งระดับประเทศ    เปิดเผยว่า  จากการตรวจสอบในเฟซบุ๊คกลุ่มเรือประมงอวนลากทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย  พบว่าที่ผ่านมาลูกเรือแรงงานต่างด้าวนิยมเซลฟี่ร่วมกับสัตว์ทะเลหายากหลายชนิดทั้งเต่าทะเล ฉลามหัวค้อน แต่หลังจากมีการเร่งดำเนินการตามกฎหมายกับเรือประมงที่ จ.ภูเก็ต นำฉลามวาฬขนาดใหญ่ที่ติดอวนขึ้นเรือ  ทำให้กลุ่มเรืออวนลากได้ลบภาพสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธ์ออกจากเฟซบุ๊ค 

 

#จากผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่า เปิดภาพสุดสลด! อวนลากปลาจับ "ฉลามหัวค้อน" สัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธ์ เพื่อหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ..

 

ขณะที่กระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าไม่เหมาะสม  ล่าสุดตนได้นำภาพแรงงานชาวเมียนมา ลูกเรือประมงนั่งทับซากฉลามหัวค้อนบนเรือประมงพาณิชย์ลำหนึ่ง ที่ออกจับสัตว์น้ำในทะเลฝั่งอันมัน   เพื่อแสดงให้เห็นว่าการจับสัตว์น้ำในทะเลไทย ยังมีการจับสัตว์ทะเลหายากเพื่อหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ

 

 

 

“ ปัจจุบันฉลามหัวค้อนยังไม่มีสถานะเป็นสัตว์คุ้มครอง ผู้จับไม่มีความผิดตามกฎหมาย  และ  ขณะนี้ทราบว่าหลายหน่วยงานอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์คุ้มครองตามอนุสัญญาไซเตส ใช้เวลานานกว่า  2 ปี แต่ยังไม่คืบหน้าเพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้    ทำให้ปลาฉลามขนาดใหญ่หลายสายพันธ์มีคุณค่าเพียงเพื่อนำไปทำอาหารสัตว์ หลังจากถูกจับโดยเรืออวนลากและนำซากไปขายให้โรงงานปลาป่น   สะท้อนความล้มเหลวในการจัดการปัญหาของหน่วยงานภาครัฐ หลังจากนักวิชาการยืนยันว่าฉลามหัวค้อนมีจำนวนลดลง 90 % ในระยะเวลาเพียง 10 ปี “  นายปิยะกล่าว

//////////////ภาพ-ปิยะ เทศแย้ม / ข่าว พอใจ จันทนา ข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

#จากผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่า เปิดภาพสุดสลด! อวนลากปลาจับ "ฉลามหัวค้อน" สัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธ์ เพื่อหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ..