- 21 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 21 พฤษภาคม นายปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมประมงพื้นบ้านทุ่งน้อย ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์แกนนำกลุ่มประมงพื้นบ้านเข้มแข็งระดับประเทศ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในเฟซบุ๊คกลุ่มเรือประมงอวนลากทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย พบว่าที่ผ่านมาลูกเรือแรงงานต่างด้าวนิยมเซลฟี่ร่วมกับสัตว์ทะเลหายากหลายชนิดทั้งเต่าทะเล ฉลามหัวค้อน แต่หลังจากมีการเร่งดำเนินการตามกฎหมายกับเรือประมงที่ จ.ภูเก็ต นำฉลามวาฬขนาดใหญ่ที่ติดอวนขึ้นเรือ ทำให้กลุ่มเรืออวนลากได้ลบภาพสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธ์ออกจากเฟซบุ๊ค
ขณะที่กระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าไม่เหมาะสม ล่าสุดตนได้นำภาพแรงงานชาวเมียนมา ลูกเรือประมงนั่งทับซากฉลามหัวค้อนบนเรือประมงพาณิชย์ลำหนึ่ง ที่ออกจับสัตว์น้ำในทะเลฝั่งอันมัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าการจับสัตว์น้ำในทะเลไทย ยังมีการจับสัตว์ทะเลหายากเพื่อหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ
“ ปัจจุบันฉลามหัวค้อนยังไม่มีสถานะเป็นสัตว์คุ้มครอง ผู้จับไม่มีความผิดตามกฎหมาย และ ขณะนี้ทราบว่าหลายหน่วยงานอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์คุ้มครองตามอนุสัญญาไซเตส ใช้เวลานานกว่า 2 ปี แต่ยังไม่คืบหน้าเพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ ทำให้ปลาฉลามขนาดใหญ่หลายสายพันธ์มีคุณค่าเพียงเพื่อนำไปทำอาหารสัตว์ หลังจากถูกจับโดยเรืออวนลากและนำซากไปขายให้โรงงานปลาป่น สะท้อนความล้มเหลวในการจัดการปัญหาของหน่วยงานภาครัฐ หลังจากนักวิชาการยืนยันว่าฉลามหัวค้อนมีจำนวนลดลง 90 % ในระยะเวลาเพียง 10 ปี “ นายปิยะกล่าว
//////////////ภาพ-ปิยะ เทศแย้ม / ข่าว พอใจ จันทนา ข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ประจวบคีรีขันธ์