แฉลึก..ทุกความสัมพันธ์!!ขบวนการโกงเงินทอนวัดสระเกศ โยงใยใครเป็นใครในขบวนการนี้!??

ประเด็นร้อนสำหรับวันนนี้ คงหนี้ไม่พ้นการเปิดโปงการทุจริตเงินทอนวัด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจกองปราบปราม นำโดย พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปรามนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย พร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้น นิมนต์พระชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องเฉพาะกรณีการทุจริตเงินทอนวัด ประกอบด้วย 

วัดสามพระยา ,วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร  และวัดสัมพันธวงศาราม 

ที่น่าสนใจที่สุดคือการเข้าตรวจค้นที่วัดสระเกศ พร้อมนิมนต์พระผู้ใหญ่ 2 รูป เข้ามาสอบปากคำเพิ่ม

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบบัญชีเงินฝากของพระพรหมสิทธิเจ้าอาวาสวัดสระเกศรวม 10 บัญชี มีเงินรวมทั้งหมดกว่า 130 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ ตำรวจได้มีการอายัดเงินจำนวนดังกล่าวไว้แล้ว 

 

ด้านลูกศิษย์บางส่วนได้ทยอยเดินทางมาติดตามความคืบหน้า ขณะที่สื่อมวลชนจำนวนมากได้ปักหลักรอความชัดเจนจากผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

 

และสำหรับรายชื่อพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ที่ถูกออกหมายจับ ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน จำนวน 4 รูปมี

1.พระพรหมสิทธิ "ธงชัย สุขโข" เจ้าอาวาสวัดสระเกศ และเจ้าคณะภาค10 โดยมีกระแสข่าวออกมาหนาหูว่าอาจหลบหนีไปต่างประเทศ

2. พระศรีคุณาภร หรือพระมหาบุญทวี คำมา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ

3.พระครูสิริวิหาร การ สมจิตร จันทร์ศรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ 

4.พระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือ เจ้าคุณเทอด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ 

 

ส่วนรายชื่อ ฆราวาส จำนวน 4 ราย ที่เกี่ยวข้องกับคดีเงินทอดวัด มีดังนี้

1.น.ส.นุชรา สิทธินอก แม่บ้านที่รับโอนเงินจากวัดสระเกศ 

2.น.ส.ฆิมคำพร นิพนธ์พิทยา มารดาของ ร.ท.ฐิติทัศน์ นิพนธ์พิทยา

3.นายธีระพงษ์ (ไม่ทราบนามสกุล) 

4.นายทวิช สังข์อยู่ 

 

และ จากการตรวจค้นบ้านพักในครั้งนั้นพบเอกสารใบเสร็จค่าใช้จ่ายต่างๆ ของบริษัท  ดี ดี ทวีคูณ ร่วมกับวัดสระเกศ โดยมีลักษณะ คล้ายกับการออกใบเสร็จย้อนหลังเนื่องจากรายการดังกล่าวมีผลิตและออกอากาศไปตั้งเมื่อปี 2558 ซึ่งเป็นงบประมาณที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติโอนเงินอบรบเผยแพร่พระพุทธศาสนามาให้วัดแห่งนี้ เมื่อปี2559 และให้กระจ่ายงบประมาณดังกล่าวไปยังวัดอื่นๆทั่วประเทศอีก12แห่ง แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กลับไม่พบว่ามีการโอนเงินไปวัดอื่นๆเลยแม้แต่วัดเดียว

โดย ฆราวาสทั้ง 4คน เข้าไปเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ดีดีทวีคูณ ที่รับจ้างผลิตสื่อให้กับทางวัดสระเกศ ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ ปปง.ได้บุกไปตรวจค้นบ้านพักอาศัย ที่แจ้งจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทฯ ดีดีทวีคูณ เมื่อวันที่16 พ.ค. ที่ผ่าน โดยมี ร.ท.ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทยแสดงตัวเป็นเจ้า และ ที่ปรากฎชื่อ น.ส.นุชรา สิทธินอก  ผู้ได้รับโอนเงินจำนวน 25 ล้านบาท จากพระชั้นผู้ใหญ่  น.ส.นุชรา เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น บริษัทฯ ดีดีทวีคูณ 

 

 

อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบเชิงลึกของ สำนักข่าวอิศรา พบว่า เจ้าของ หจก. ดี ดี ทวีคูณ ตัวจริง คือ แม่ ของ ร.ต.ฐิติทัตน์ ส่วน น.ส.นุชรา มีสถานะเป็นเพียงนอมินีเท่านั้น เนื่องจากมีอาชีพขายลูกชิ้นอยู่ที่ตลาดสี่มุมเมือง แต่มารับทำงานเสริมเป็นแม่บ้าน ช่วยเลี้ยงดูบุตรหลานให้กับเจ้าของบ้าน โดยที่มาของเงิน25 ล้านบาท  น.ส.นุชรา ยอมรับว่าเป็นผู้รับเงินที่โอนมาจากทางวัดและมีการเบิกเงินออกมาจริง เนื่องจากคนในบ้านคนหนึ่งที่สนิทสนมกับตนเองได้มาขอให้ช่วยเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งหลังจากที่มีเงินเข้ามาแล้วก็จะไปทำการถอนออกให้

 

 

และสำหรับความสัมพันธ์ ระหว่างจากการตรวจสอบพบว่า ร.ต.ฐิติทัตน์  บวชที่วัดสระเกศ ในช่วงเดือน มิ.ย.2559 และมีพระพรหมสิทธิ หรือเจ้าคุณธงชัย เป็นพระอุปัชฌย์ และมีพระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือ เจ้าคุณเทอด เป็นพระพี่เลี้ยง ซึ่งทั้งสองรูปได้ถูกออกหมายจับในครั้งนี้ด้วย 

 

 

นอกจากนี้ ร.ท.ฐิติทัตน์ ยังเป็นหลานชายของ นายปรีชา นิพนธ์พิทยา อดีต ส.ว.จังหวัดนครปฐม และเป็นน้องชายของ น.ส.ฑัมมพร นิพนธ์พิทยา เจ้าของ หจก. ดี ดี ทวีคูณ ที่มีข่าวว่ามีความสนิทสนมกับพระผู้ใหญ่วัดดังที่กำลังตกเป็นข่าว เคยเดินทางไปต่างประเทศในโครงการของ พศ.มาแล้ว และยังมีกระแสว่า น.ส.ฑัมมพร มีความสนิทสนมกับ นายบุญเลิศ โสภา เจ้าหน้าที่ พศ. ที่กำลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเงินทอนวัดล็อตที่ 2 เช่นกัน 

 

 

นอกจากนี้ยังมีชื่อของ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ถูกนำมาเชื่อมโยงกับเรื่องนี้ด้วย เพราะ ร.ท.ฐิติทัตน์ เคยเป็นเลขานุการผู้ว่าฯ สตง. ที่สำคัญ  เพิ่งได้รับบรรจุเป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร  เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2559 ที่ผ่านมา  แจ้งวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยเกริก สาขาการสื่อสารการท่องเที่ยวและบันเทิง เข้าสมัคร  เคยผ่านหลักสูตรรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ รุ่น 25  ของศรภ.กอง 8  ได้รับเงินเดือน 19,600 บาท  ก่อนที่ในช่วงเดือน ต.ค.2560 จะถูกขอตัวมาช่วยงานที่ สน.เสธ ทหาร  แต่ก็มีข่าวว่า ร.ต.ฐิติทัตน์ มักจะไปปรากฎตัวที่วัดสระเกศ เนื่องจากเป็นคนสนิทเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เข้านอกออกในวัดอยู่เป็นประจำ 

 

 

และในระยะหลังมานี้ นายพิศิษฐ์ คือคนหนึ่งที่มักออกมาให้ข่าวในเชิงปกป้องพระผู้ใหญ่ที่ถูกแจ้งความในคดีเงินทอนวัด ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายพิศิษฐ์ เคยเป็นบุคคลสำคัญในการปราบการทุจริตต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการใช้งบประมาณของวัด ย้อนกลับไปสมัยพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ หรือ "สมเด็จเกี่ยว" อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ "พิศิษฐ์" ได้เข้าไปตรวจสอบการใช้งบประมาณดังกล่าวว่ามีความไม่ชอบมาพากล จนเป็นเหตุให้พระพรหมดิลก หรือ (เจ้าคุณเอื้อน) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร สั่งพักงาน พระพรหมสุธี หรือ "เจ้าคุณเสนาะ" แล้วแต่งตั้ง พระพรหมสิทธิ หรือ "เจ้าคุณธงชัย" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ แทนจนถึงปัจจุบัน 

 

 

อีกทั้งสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรรมการ มส.ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มอบพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชแต่งตั้ง กรรมการ มส.รูปใหม่ ดำรงตำแหน่งกรรมการ มส.แทนเจ้าคุณเสนาะอีกด้วย

 

 

 ขอบคุณ ข้อมูลบางส่วนสำนักข่าวอิศรา