- 25 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ถือว่าเป็นข่าวครึกโครมเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ หลวงปู่พุทธะอิสระ โดนจับสึกเนื่องจากโดนฟ้องหลายคดี แต่คดีที่เป็นที่น่าสนใจที่สุดนั่นคือ มาตรา 112 หรือ "ปลอมพระปรมาภิไธย" ในการจัดสร้างพระเครื่อง พระนาคปรก รุ่น "หนึ่งในปฐพี" ซึ่งหลวงปู่ เคยยื่นหลักฐานที่มีรายเซ็นของ นายแก้วขวัญ วัชโรทัย อดีตรองเลขาธิการพระราชวัง เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา
โดยล่าสุด ได้มีการสอบสวนพยานบุคคล พร้อมทั้งตรวจสอบไปยัง สำนักพุทธศาสนา ยืนยันตรงกันว่า ผู้ต้องหาไม่ได้รายงานขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ตามกฎระเบียบของมหาเถรสมาคม และจากการสอบสวนพยานบุคคลเจ้าหน้าที่ กรมราชเลขานุการในพระองค์ ยืนยันว่าผู้ต้องหาไม่ได้ขออนุญาตใช้พระปรมาภิไธย จึงเป็นเหตุให้ หลวงปู่พุทธะอิสระ ถูกสึกในคดีนี้นี่เอง
โดย พระนาคปรก รุ่น หนึ่งในปฐพี เป็นพระเครื่องที่ พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือหลวงปู่พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้ประกอบพิธีปลุกเสกขึ้น เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2552 โดยพระเครื่องรุ่นนี้มีลักษณะ ด้านหลังของพระเครื่อง มีพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. และ สก.อุดปรอท (จารนะอ่อนช้อย) และมีการใช้เลือด หรือประสะโลหิต ของหลวงปู่พุทธะอิสระ ในการจัดพิธีด้วย
ประสะโลหิต มาจากคำว่าประสิทธิประสาท หมายถึงทำให้สำเร็จประโยชน์จากศักดิ์สิทธิ์ 3 คือ กายศักดิ์สิทธิ์ จิตศักดิ์สิทธิ์ และธรรมศักดิ์สิทธิ์ ส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้มี 3 ศักดิ์สิทธิ์ ไปกระทบวัิตถุใด วัตถุนั้นก็จะศักดิ์สิทธิ์สมปรารถนา ซึ่งเป็นวิชาของพระโพธิสัตว์ที่ปรารถนาพุทธภูมิเท่านั้น
และนี่เป็นหนึ่งเหตุที่ทำให้ผู้ที่ไม่หวังดี เคยโจมตีเรื่องนี้ว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ ตั้งตนเป็นพระโพธิสัตว์ด้วยเช่นกัน
หลวงปู่พุทธะอิสระเองก็เคยเปิดเผยต่อรายการดัง รายการหนึ่งว่า เป้าหมายของท่านนั้น ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การเป็นสาวกในพุทธภูมิ หากแต่ต้องการเป็นพระพุทธ ซึ่งหมายถึงขณะนี้หลวงปู่พุทธะอิสระกำลังบำเพ็ญเพียร อยู่บนเส้นทางพระโพธิสัตว์นั่นเอง
ทั้งนี้ การประกาศความต้องการ หรือตั้งปณิธานนั้น สามารถกระทำได้ หากแต่จะทำสำเร็จหรือไม่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง
เพราะในอดีตที่ผ่านมา ก็มีการบันทึกไว้เช่นกัน ว่าบุคคลสำคัญของประเทศไทยหลายท่าน ก็มีความปราถนาเป็นพระพุทธเจ้า แต่บ้างก็ลาพุทธภูมิไปก่อน บ้างก็ยังบำเพ็ญเพียรต่อๆ ไป