“โอเวอร์แอคชั่น” "แทนคุณ" จวกแหลก! "ตำรวจ" สร้างภาพ เหยียดหยามศักดิ์ความเป็น "พระ" หลังบุกจับ "พุทธะอิสระ" เตือน! ระวังเกิดเหตุบานปลาย?

“โอเวอร์แอคชั่น” "แทนคุณ" จวกแหลก! "ตำรวจ" สร้างภาพ เหยียดหยามศักดิ์ความเป็น "พระ" หลังบุกจับ "พุทธะอิสระ" เตือน! ระวังเกิดเหตุบานปลาย?

จากกรณีเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2561 หลังการพิจารณาคำร้องฝากขังของพนักงานกองปราบปราม ในคดีพระพุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีปล้นทรัพย์และเป็นหัวหน้าอังยี่ ซ่องโจร ซึ่งถูกพนักงานสอบสวนเข้าจับกุมตัวเข้าจับกุมตัวและนำตัวมาฝากขังเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาโดยพนักงานสอบสวนยื่นคัดค้านการประกันตัว ซึ่งศาลได้ใช้เวลาในการพิจารณาคำร้องฝากขังนานกว่า  4 ชั่วโมงล่าสุดศาลอนุญาต ตามคำร้องขอของพนักงานสอบสวนรับฝากครั้งพระพุทธะอิสระผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน พร้อมให้นำตัวไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ 

สืบเรื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น นายแทนคุณ  จิตต์อิสระ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่กองปราบปรามเข้าจับกุมอดีตพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม คากุฏิ โดยมีภาพคลิปเผยแพร่ใช้ค้อนแฮมเมอร์ของตำรวจกระทุ้งประตูกุฏิ ขณะจำวัดช่วงเช้ามืด ว่า ตนมองว่าตั้งข้อหาหนักหนาสาหัสไป ที่จริงแล้วในกระบวนการทางอาญาต้องดูเจตนา เข้าใจว่าหลวงปู่พุทธะอิสระไม่ได้ต้องการใช้ความรุนแรง หรือหวังให้เกิดการประทุษร้ายใครแต่อย่างใด ซึ่งในช่วงเวลานั้นเกิดสถานการณ์ที่วิกฤติ และเป็นช่วงที่ตื่นตระหนก จึงทำให้เกิดการระแวงและระวังกันไปหมด เนื่องจากมีคนที่เข้ามาก่อความวุ่นวายเป็นระยะๆทำให้สถานการณ์อ่อนไหว เมื่อพบผู้ที่มีลักษณะพิเศษคล้ายช่ำชอง การต่อสู้ แตกต่างจากชาวบ้านอาจทำให้แต่ละคนที่ต้องปกป้องผู้ชุมนุม และการ์ดอาจเกิดความตึงเครียด และระแวงเกินไปอาจทำสิ่งที่รุนแรง

นายแทนคุณ กล่าวอีกว่า ในมุมของผมต้องแยกแยะคนที่ทำผิดต้องให้เขารับผิด แต่จะหมายรวมไปถึงบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น หรือผู้ดูแล เช่น หลวงปู่พุทธะอิสระ ก็คงจะไม่ถูกต้องเท่าไร โดยส่วนตัวเข้าใจความรู้สึกของคนที่อาจจะคิดว่ามันไม่ใช่กิจของสงฆ์ ก็เห็นด้วย แต่เมื่อมาถึงจุดนั้นแล้วเราก็ต้องแยกแยะ
 

“สำหรับการการเข้าจับกุมหลวงปู่พุทธะอิสระคากุฏิครั้งนี้ต้องใช้คำว่าเจ็บปวดมากๆ เหมือน“โอเวอร์แอคชั่น” ต้องการแสดงศักดาของตำรวจ ต้องการเหยียดหยามศักดิ์ความเป็นมนุษย์และพระภิกษุ คนที่อัดคลิปก็เข้าใจว่าการเข้าจับกุมมีหลายวิธี สามารถออกหมายจับ และนิมนต์ตัวมาตามหมายจับ มองว่ากรณีนี้ควรมีพระวินัยธรมาเจรจาที่จะจับกุม และที่สำคัญท่านไม่ได้มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนีและก่อนหน้านี้ท่านก็พูดหลายครั้งแล้วว่าท่านพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเสมอ แต่เหตุการณ์ที่เข้าจับกุมเท่ากับตัดสินว่าท่านกระทำผิดแล้ว และกระทำผิดร้ายแรงด้วย ทำให้กลายเป็นว่าเกิดการเปรียบกับกรณีของพระที่ก่อความไม่สงบรูปอื่นแล้วไม่ได้จับกุม กรณีนี้อาจจะทำให้เกิดเหตุบานปลายกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว” นายแทนคุณ กล่าว

     
นายแทนคุณ กล่าวยืนยันว่า ในเมื่อศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ยังถือว่าหลวงปู่พุทธะอิสระยังเป็นผู้บริสุทธิ์ การกระทำดังกล่าวควรคำนึงความรู้สึกของศิษย์ยานุศิษย์ที่ศรัทธา และพุทธศาสนิกชนด้วย เราไม่ได้ปฏิเสธพระต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย แต่ที่เราปฏิเสธ คือ วิธีการที่รุนแรงต่อผู้กระทำผิด หรือ ผู้ที่ถูกกกล่าวหาว่ากระทำผิด รวมถึงกระบวนการยุติธรรมจะต้องให้ความยุติธรรมตั้งแต่ต้นทาง