ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

วันนี้(27 พ.ค.61)ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ พาไปดูวิถีชีวิต ชาวบ้านในชนบท  ที่มีอาชีพหลักคือการทำนา และเลี้ยงควาย  เป็นอาชีพเสริม  โดยเฉพาะวิถีการเลี้ยงควายของชาวบ้านนารุ่ง ต.นารุ่ง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ซึ่งแต่ละครอบครัวจะพากันเลี้ยงควาย และเลี้ยงวัว เป็นฝูงละ10-30 ตัว แล้วแต่กำลังทุนทรัพย์ ในการซื้อแม่พันธุ์ควาย  มาขยายพันธุ์ และนำลุกควายมาเลี้ยง สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ปัจจุบันกลับ พบว่า ควายถูก น้ำมันแพง

น้ำตา!! “คนเลี้ยงควาย” ราคาตกต่ำสุด  ยุคน้ำมันแพง  ทำนาก็หวังเทวดาช่วย

น้ำตา!! “คนเลี้ยงควาย” ราคาตกต่ำสุด  ยุคน้ำมันแพง  ทำนาก็หวังเทวดาช่วย

น้ำตา!! “คนเลี้ยงควาย” ราคาตกต่ำสุด  ยุคน้ำมันแพง  ทำนาก็หวังเทวดาช่วย

แต่วิถีชีวิตชนบท ที่หมู่บ้านนารุ่ง ก็ต้องดำรงอยู่ อย่าปากกัด ตีนถีบ เพื่อความอยู่รอด ตั้งแต่เช้าตรู่ก็จะพากันไล่ต้อนออกจากคอก ไปปล่อยเลี้ยงไว้กลางทุ่งท้องไร่ท้องนา เพื่อให้ควายหาแทะเล็มหญ้า เล่นน้ำโคลน พอตกเย็นก็จะพากันไล่ต้อนเข้าคอก ขี้ควาย ก็เอาไปทำปุ๋ยก็สามารถทำให้มีอยู่มีกินได้อย่างสบาย แต่ปัจจุบันกลับพบว่า ราคาขายตกต่ำสุด ครึ่งต่อครึ่ง

น้ำตา!! “คนเลี้ยงควาย” ราคาตกต่ำสุด  ยุคน้ำมันแพง  ทำนาก็หวังเทวดาช่วย

น้ำตา!! “คนเลี้ยงควาย” ราคาตกต่ำสุด  ยุคน้ำมันแพง  ทำนาก็หวังเทวดาช่วย

น้ำตา!! “คนเลี้ยงควาย” ราคาตกต่ำสุด  ยุคน้ำมันแพง  ทำนาก็หวังเทวดาช่วย

นางสำราญ  ดัชถุยาวัตร อายุ 48 ปี 44 บ้านนารุ่ง ต.นารุ่ง องศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ กล่าวว่า เลี้ยง 6 ตัว ตัวผู้ 1 ตัว ตัวเมีย 5 ตัว ควายคลอดลูกปีละ 1 ตัวหรือบางปีไม่ได้ลูกเลย ทุกวันนี้ราคาควายถูกมากๆ เลี้ยง 3 ปี ถึงจะได้ขาย เมื่อก่อนจะขายได้ประมาณตัวละ หมื่นกว่าบาท ปัจจุบันขายได้ตัวละราคา 5,000 บาท ราคาถูกลงกว่าเท่าตัว วัวก็ราคาตกเหมือนกัน ตนทำนา 9 ไร่  อย่างควายสาวแม่ลูกอ่อน ตอนซื้อมาราคาแพงถึง 22,500 บาท ถ้าราคาควายยังตกต่ำแบบนี้ ปีนี้ทำนาก็ต้องอาศัยรอฝนฟ้าอากาศ และราคาข้าวก็ไม่แน่นอน  แถมน้ำมันแพง คนและครอบครัว คงไม่มีปัญญาใช้หนี้เขาแน่นอน

น้ำตา!! “คนเลี้ยงควาย” ราคาตกต่ำสุด  ยุคน้ำมันแพง  ทำนาก็หวังเทวดาช่วย

น้ำตา!! “คนเลี้ยงควาย” ราคาตกต่ำสุด  ยุคน้ำมันแพง  ทำนาก็หวังเทวดาช่วย

น้ำตา!! “คนเลี้ยงควาย” ราคาตกต่ำสุด  ยุคน้ำมันแพง  ทำนาก็หวังเทวดาช่วย