ต้องให้ซ้ายด้วยกันจวก-จึงรู้ว่าจอมปลอม? "ซ้ายใหญ่-ใจ"กระซวก "ธนาธร" ที่แท้แค่นักสร้างภาพให้ดูดี-แก่นคิดกลวงเปล่า เตือนแรงงานระวังถูกหลอกใช้

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

ต้องให้ซ้ายด้วยกันจวก...จึงรู้ใครจริงใครเท็จ...และจะรู้ว่า...จอมปลอมแค่ไหน?! "ซ้ายใหญ่-ใจ  อี้งภากรณ์" ลูกชาย อ.ป๋วย กระซวก "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ช่วงหลังออกมานำเสนอนโยบายสาธารณะในหลาย ๆ ประเด็น ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 การเสนอให้ยกเลิกพิธีไหว้ครู เพราะเขามองว่า มันล้าหลังคร่ำครึ ขณะที่ก่อนหน้า...ธนาธรก็พยายามเปิดประเด็นเรื่องแรงงาน และนำเสนอความเห็นไปหลายอย่าง...ในทำนอง...."ธุรกิจต้องได้กำไรก่อนอื่น ถ้าบริษัทหนึ่งขึ้นค่าแรงหรือเพิ่มสวัสดิการ ก็จะแข่งกับคู่แข่งไม่ได้ ดังนั้นต้องทำทั้งประเทศ"

เหนืออื่นใดก็คือ เขามองว่า "แรงงานไม่มีความรู้ ดังนั้น จึงเปลี่ยนชนชั้น และยกระดับตนเองไม่ได้" (ประโยคข้างต้นเป็นข้อสังเกตที่ ใจ ระบุไว้) ซึ่งว่าไปแล้ว...แนวคิดเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการ...เหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เลยสักนิด...เพราะแค่คำว่า "แรงงานไม่มีความรู้ จึงเปลี่ยนชนชั้น และยกระดับตนเองไม่ได้" นั่นชัดในตนเองจนไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมอยู่แล้ว

เสียดาย "พวกก้าวหน้า-อับปัญญา" ทั้งหลายมองเรื่องนี้ไม่ออก ทั้งที่พยายามโหมประโคม...แบบก้องโลกว่า...พวกข้าคือ...กลุ่มคนที่คำนึกถึงสิทธิมนุษยชนเป็นก่อนอื่น...แถมยังบ้องตื้นอวย "กระฎุมพีแสร้งเป็นไพร่" รายนี้แบบสุดลิ่ม ทั้งที่ผู้สันทัดกรณีหลายคนก็ออกมาฟันธงแล้วว่า..."ธนาธร" เป็นได้แค่ "ซ้ายไร้เดียงสา" เพราะเขาฉาบฉวย และผิวเผินในทุกเรื่องที่พูด

แม้แต่ "นายใจ อึ้งภากรณ์" บุตรชายของ อ.ป๋วย ผู้ล่วงลับ ซึ่งถือว่าเป็นคนกันเองแบบชั้นใน ๆ  ยังต้องออกมาสอนมวย  และถลกความจอมปลอมของ "ธนาธร" ในเรื่องนี้ โดย "ใจ" เผยแพร่ความเห็นนี้  ผ่าน turnleftthai.wordpress.com โดยระบุรายละเยดว่า


"เมื่อวันก่อน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้คุยกับ สุนทร บุญยอด และคุณบัวลอง เรื่องแรงงาน  แต่ส่วนใหญ่เป็นการสร้างภาพเท่านั้น และข้อเสนอไปไม่ไกลพอ จะขออธิบายเพิ่ม

ธนาธรพูดว่าธุรกิจต้องได้กำไรก่อนอื่น ถ้าบรษัทหนึ่งขึ้นค่าแรงหรือเพิ่มสวัสดิการ ก็จะแข่งกับคู่แข่งไม่ได้ ดังนั้นต้องทำทั้งประเทศ … แต่คำถามที่ตามมาคือเรื่องการแข่งขันกับต่างประเทศ ถ้าประเทศคู่แข่งของไทยกดค่าแรงและสวัสดิการ มันจะกลายเป็นข้ออ้างในการกดค่าแรงและสวัสดิการของคนงานไทยใช่ไหม? เพราะข้ออ้างของพวกเสรีนิยมกลไกตลาดแบบนี้ใช้กันทั่วโลก

ธนาธรบอกว่าต้องบังคับใช้ 40 ชม.ต่อสัปดาห์! แต่40 ชม.ต่อสัปดาห์มันมากเกินไปและแรงงานสากลเรียกร้อง 35 ชม.ต่อสัปดาห์มานานแล้ว ควรหยุดทั้งเสาร์อาทิตย์และเงินเดือนสำหรับการทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ควรจะพอสสำหรับวิถีชีวิตที่ดี

ธนาธรมองว่าแรงงานไม่มีความรู้ และเปลี่ยนชนชั้น ยกระกับตนเองไม่ได้ พูดตามสูตรพวกกลไกตลาด สร้างภาพว่าคนทำงานควรพยายามเป็นนายทุนน้อย และใครที่ทำไม่ได้ก็ต้องโทษตนเอง จริงๆ แล้วในโลกจริงชนชั้นกรรมาชีพทั้งชนชั้นแปรสภาพไปเป็นชนชั้นกลางไม่ได้ เราควรเรียกร้องให้สภาพความเป็นอยู่ของลูกจ้างทุกคนดีพอที่จะมีวิถีชีวิตที่ดี ผ่านการขึ้นค่าแรง ลดชั่วโมงการทำงาน เพิ่มวันลาพักร้อน และสร้างรัฐสวัสดิการต่างหาก คนทำงานธรรมดาจะได้ไปเที่ยวต่างประเทศเหมือนธนาธร

ธนาธรพูดถึงสวัสดิการค่าเลี้ยงดูบุตร สถานรับเลี้ยงเด็กก่อนเข้าอนุบาลในทุกชุมชน และการลดภาษีให้คนจน แต่ไม่แตะ “รัฐสวัสดิการ” แบบถ้วนหน้าผ่านการเก็บภาษีในอัตราสูงเป็นพิเศษจากคนรวยและกลุ่มทุน นอกจากนี้ข้อเสนอให้นำคนสูงวัยมาเลี้ยงลูกหลานในสถานรับเลี้ยงเด็ก เหมือนกับการบังคับให้คนชราต้องทำงานต่อโดยไม่สามารถเกษียณได้ ใช่หรือไม่? ต้องดูเงื่อนไขและรายละเอียด

ข้อเสนอให้รัฐมนตรีแรงงานเป็นตัวแทนแรงงานเคยถูกนำมาใช้ในฟิลิปปินส์และลาตินอเมริกา และถูกนำมาใช้เพื่อหลอกใช้แรงงานและควบคุมการเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงานต่างหาก ไม่ใช่ว่าขบวนการแรงงานจะมีอำนาจคุมรัฐบาลแต่อย่างใด

ที่สำคัญคือธนาธรไม่แตะการเปลี่ยนแปลงหรือปฏิรูปกฏหมายแรงงาน เพื่อเพิ่มสิทธิกับสหภาพแรงงานในการเคลื่อนไหวและนัดหยุดงาน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่อาจสร้างความเข้มแข็งให้กับขบวนการแรงงาน

ไม่มีการพูดถึงการต้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งทำลายสภาพการจ้างของพนักงาน อีกด้วย

สุนทร บุญยอด หวังว่าแรงงานจะกำหนดนโยบายให้พรรค  แต่ธนาธรกลับพูดถึงทีมนักวิชาการ ที่จะเสนอนโยบายต่างหาก เช่นในเรื่องสวัสดิการ

สรุปแล้วเป็นการสร้างภาพเพื่อดูดี

ขบวนการแรงงานต้องสร้างพรรคของตนเองจากล่างสู่บน เพื่อไม่ให้ถูกนักการเมืองนายทุนหลอกใช้"