- 05 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ความคืบหน้าการติดตามตัว พระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา หรือ อดีตพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีเงินทอนวัด หลังพบเบาะแสว่าอดีตพระพรหมเมธีหลบหนีไปยังประเทศเยอรมนี และถูกกักตัวไว้
ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะได้เดินทางไปยังประเทศเยอรมนีเพื่อรับตัวอดีตพระพรหมเมธี
ต่อมามีรายงานข่าวว่า อดีตพระพรหมเมธี เดินทางไปถึงประเทศเยอรมนี ได้ยื่นเรื่องขอลี้ภัย ทาง ตม.เยอรมนี จึงได้ส่งคำขอลี้ภัยดังกล่าว ไปยังสำนักงานดูแลผู้อพยพและผู้ลี้ภัยแห่งสหพันธ์สาธรณรัฐเยอรมนี (BAMF) และขั้นตอนต่อไปจะต้องมีการสัมภาษณ์ สอบประวัติ และซักถามรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่ยื่นคำขอลี้ภัยโดยกระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน
ทำให้คณะของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังไม่ได้พบตัวกับ อดีตพระพรหมเมธี เนื่องจากเหตุผลเพื่อคุ้มครองสิทธิและเพื่อความปลอดภัยของผู้ยื่นคำขอลี้ภัย
โดยได้รับความคุ้มครองตามกฎเกณฑ์ว่าด้วยผู้ลี้ภัยทันที และมีความเป็นไปได้ว่าตำรวจไทยไม่สามารถนำตัว อดีตพระพรหมเมธี กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้ตามกำหนดเดิม
ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม.ถึงการที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เดินทางไปติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธีดังกล่าว ว่า ผบ.ตร. ยังไม่ได้รายงานในเรื่องนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของเยอรมันขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดยขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน แต่เราขอร้องให้ช่วยพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เยอรมันก็รับทราบที่จะไปดำเนินการ ส่วนผลออกมาอย่างไรค่อยมาว่ากันอีกที
อย่างไรก็ตามทางการเยอรมันไม่ได้ห้ามที่จะให้เข้าพบ แต่เป็นความประสงค์ของอดีตพระพรหมเมธี ที่ไม่ต้องการพบกับผบ.ตร. ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวมีคนไทยที่อยู่เบื้องหลังในการพาอดีตพระพรหมเมธีหลบหนี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสอบสวนอยู่
เมื่อถามถึงการขอลี้ภัยของอดีตพระพรหมเมธี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ได้ขอ ส่วนที่มีข้อสงสัยว่า มีหลายประเทศที่หลบหนีได้ เหตุใดจึงไปที่ประเทศเยอรมันนั้น ก็เพราะเขามีกฎหมายให้ลี้ภัยได้ อดีตพระพรหมเมธีได้วางแผนไว้แล้ว
เมื่อถามว่า หากพระพรหมเมธีไม่ต้องการพบผบ.ตร.จะมอบหมายให้คนอื่นไปดำเนินการแทนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาไม่ขอพบคนไทย โดยจะให้การดำเนินการทุกอย่างผ่านทางเยอรมันเท่านั้น ซึ่งทางไทยได้ยื่นข้อมูลให้กับทางเยอรมันไปแล้วว่ามีความผิดตามกฎหมายไทยอย่างไรบ้างเพื่อให้ทางเยอรมันนำไปพิจารณา เพราะที่ผ่านมาก็มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันมาตลอด ถือว่าเยอรมันกับไทยเป็นมิตรที่ดีต่อกัน และเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
เมื่อถามย้ำว่า ทางเยอรมันจะเข้าใจข้อมูลที่เราส่งให้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เราไม่ใช่เยอรมันซะด้วยสิ” ทั้งนี้ ที่ผ่านมาก็คุยกันรู้เรื่อง แต่เบื้องหลังจะเป็นอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง เหมือนคุยกับสื่อ ก็รู้เรื่อง ลับหลังก็ด่าตน
ขณะเดียวกัน มีความเคลื่อไหวจาก นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และอดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ระบุว่า..
อลัชชีเหิม ประลองกำลัง
1 หลบหนีการจับกุมได้ทันท่วงที ประหนึ่งว่ามีพรายกระซิบ
2 หลบหนีตามช่องทางธรรมชาติอีกแล้ว
3 การหนีไปที่เยอรมัน ย่อมเกี่ยวข้องกับเครือข่ายธรรมกาย และมีการเตรียมการอย่างดีในเรื่องการขอลี้ภัยแสดงว่ามีมือดีเตรียมการจัดการให้
ต่อไปนี้คงได้เห็นการประลองกำลัง ระหว่าง เครือข่ายอลัชชี กับรัฐบาลว่าใครจะมีน้ำยามากกว่ากัน