ถ้าจะด่าก็ด่าผม!! "บิ๊กตู่"ลั่นอย่าหมิ่นตำแหน่ง"นายกรัฐมนตรี" อันมีเกียรติ!!..ขอบคุณที่ทุกคน เข้าใจ!!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

  เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 7 มิ.ย.ที่ห้องประชุมรัฐสภา อาคารรัฐสภา 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวตอนท้ายในการแถลงนำเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ว่า เรื่องงบประมาณแต่ละภาคไม่ต้องมาขอเพิ่ม เพราะรัฐบาลได้เกลี่ยงบฯให้เท่ากันทุกภาคอย่างทั่วถึง ดูความต้องการแต่ละภาค สำหรับค่าใช้จ่ายประจำปี ส่ิงแรกที่ดูคือรายจ่ายประจำให้เป็นไปตามกฎหมาย นำไปสู่การปฏิรูปราชการที่ต้องมีการลดกำลังข้าราชการ ที่เวลานี้กำลังทำอยู่

 

แต่ลดทีเดียวไม่ได้ หลายอย่างต้องพิจารณาทั้งการแก้ไขการบรรจุ การเกษียณอายุ พิจารณาพนักงานลูกจ้างจะทำอย่างไรกับเขาที่อยากบรรจุเป็นข้าราชการ เพราะเขาอยากได้สวัสดิ การ ซึ่งมีการร้องเรียนจำนวนมากเพราะยังไม่ได้บรรจุท อย่างไรต้องหาวธีการที่เหมาะสม กำลังภาครัฐลดลงแต่ต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน คนใหม่ได้มีอนาคตในการบรรจุ ข้าราชการคนหนึ่งกว่าจะเกษียณราชการต้องใช้งบฯ 20 กว่าล้านบาท ดังนั้นต้องให้เกิดความพอเพียงในการใช้งบฯประมาณ ที่มีปัญหาคือในส่วนของสาธารณสุขต้องแก้ให้เขา ต้องมีแผนงานบรรจุมาก ตรงนี้ต้องช่วยตนคิด

  หลายคนบอกว่ารัฐบาลใช้งบประมาณเป็นหลายๆล้าน ก็ลองไปเทียบดูว่าส่ิงที่เพิ่มมาเอาไปทำอะไร เอาไปใช้เพื่ออะไร ก็เพื่อเอาไปแก้ไขทำงานในอดีตที่ยังค้างอยู่ และทำปัจจุบันให้พัฒนาขึ้น ดูแลผู้มีรายได้น้อยให้มากขึ้น และเป็นการลงทุนสู่อนาคต การทำแผนโครงการมีทั้งระยะสั้น กลางและระยะยาว ซึ่งโครงการระยะยาวต้องจ่ายเป็นงวดๆ จึงเป็นภาระผูกพันที่ต้องตามมา ส่ิงที่เพิ่มขึ้นมาใหม่คือกิจกรรมใหม่ๆ ตรงนี้มันเป็นสัดส่วน ไม่ใช่เงินปีนี้ใช้ปีนี้ต้องใช้พ่วงไปตลอด ไม่ใช่แค่ปีนี้ รวมถึงหนี้สาธารณะที่จำกัดตามพ.ร.บ.หนี้สาธารณะ 

 

 

  การทำงบประมาณไม่ใช่เรื่องง่าย ขอฝากไปถึงข้าราชการต้องทำให้ได้และถูกต้อง มีประสิทธิภาพไม่ทุจริต ไม่ต้องกลัวหากทำถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้ประเทศชาติได้รับผลประโยชน์ที่คุ้มค่า หลายคนเมื่อเห็นงบฯสูงก็บอกว่าจะมีการทุจริตอีก ตนถามว่าถ้าคิดอย่างนี้คงทำอะไรไม่ได้ แต่ต้องมองว่างบประมาณวันนี้ทำครบหรือเปล่า เหมาะสมหรือไม่ อันไหนที่ควรจะทำเพิ่ม อันไหนที่ควรจะลดก็ว่ากันไป ถ้าบอกว่ามีมากแล้วจะเกิดการทุจริตมันทำไม่ได้ทั้งหมดหรอก เพราะการทุจริตคืออีกขั้นตอนหนึ่ง ที่จะใช้กลไกในการตรวจสอบดำเนินการทุกวัน มีการชี้แจงมีการสอบถาม ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ มีเรื่องทั้งป.ป.ช.และสตง.ทักท้วงมาก็ตอบไป เมื่อตรวจสอบไม่พบรัฐบาลก็ทำต่อได้

 

 

  อย่าให้ใครเอาไปใช้ประโยชน์ในการบิดเบือนที่มองว่ามีการทุจริตกันเหลือเกิน แน่นอนการทุจริตไม่ได้อยู่ที่ระบบ กฎหมาย แต่อยู่ที่คน การทำงานที่จะทำมีประสิทธิภาพอยู่ที่คนทั้งสิ้น ให้ความสำคัญ มีหลักคิดที่ถูกต้อง มีเหตุมีผล ไม่ใช้ความรู้สึก เท่านั้นทุกอย่างก็จะทำได้หมด ไม่อย่างนั้นเราต้องบังคับใช้กฎหมายไปเรื่อยๆ กฎหมายก็จะแรงขึ้น มันคืออันตรายการใช้กฎหมาย การใช้กฎหมายต้องไม่สร้างภาระ คือการทำอะไรที่ไม่ควรจะทำ ฉะนั้นกฎหมายที่ออกมาใหม่คือ ต้องอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และลดความขัดแย้งของเจ้าหน้าที่และประชาชน ไม่อย่างนั้นก็ชกกันตลอดเวลาเพราะมันสองทาง เจ้าหน้าที่ดีก็มี ประชาชนที่ดีก็มี ที่เคารพกฎหมาย เจ้าหน้าที่ขี้โกงก็มี เพราะเป็นคน อย่าโทษระเบียบแต่เพียงอย่างเดียว

 

 

  โครงการต่างๆที่เสนอมายังรัฐบาล ตนอ่านและดูทั้งหมด ไม่ใช่อนุมัติส่งเดช คนเป็นนายกฯต้องมีความซื่อสัตย์มีคุณธรรม ดูให้ทั่วถึงทุกกระทรวง ซึ่งตอนนี้ได้กำชับไปแล้วจะเสนออะไรขึ้นมาต้องสอดคล้องกับความต้องการของประเทศด้วย เพราะส่ิงที่เราทำในวันนี้เพื่ออนาคตของเด็กไม่ใช่เสนออะไรมาก็ได้ ถ้าเสนอมาแล้วไม่โยงการพัฒนาประเทศ ครม.ก็ไม่อนุมัติ ตนก็ไม่ให้ โดยเฉพาะเรื่องสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เส้นทางรถไฟต้องมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ทุกอย่างต้องมีการแข่งขันประมูลอย่างถูกต้อง ที่สำคัญจะต้องผ่านคณะกรรมการที่ตนตั้งขึ้นมาตามความเหมาะสม ไม่ใช่เสนออะไรมากก็ได้ ถ้าไม่เชื่อมโยงตนก็ไม่อนุมัติ ไม่เช่นนั้นตนก็ต้องมานั่งแก้ปัญหา 

 ทุกวันนี้ต้องใช้มาตรา 44 มาช่วยแก้ อย่างเช่น รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน การดำเนินการไม่ได้หวังเอื้อประโยชน์ให้ใคร ทุกอย่างต้องเข้ามาตามกติกาและกฎหมาย ที่ผ่านมาภาคเหนือเป็นอย่าง ภาคใต้เป็นอย่าง ภาคอีสานเป็นอย่างนี้ ไม่สามารถแสดงตัวเลขให้ชัดเจนได้อย่างที่รัฐบาลนี้ทำ วันนี้แสดงให้เห็นว่าทุกภาคได้เงินใกล้เคียงกัน มากน้อยตามลำดับ ต้องเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ เป็นครม.ของคนทั้งประเทศให้คนได้รับประโยชน์ ไม่ใช่ให้เฉพาะคนกลุ่มหรือพวกกันทำแบบนั้นไม่ได้ 

 

 

  "ผมหวังว่าวันหน้ารัฐบาลที่ท่านคาดหวังกันให้เขาทำให้ได้แบบนี้ แต่ไม่ใช่หมายความว่าผมทำดีเลิศ ประเสริฐศรีหรือดีที่สุด มันไม่ใช่ ผมเพียงริเร่ิมไว้ให้พวกท่าน ฉะนั้นเราควรเอาเวลานี้ก่อนไปสู่การเลือกตั้งมาคุยกันในเรื่องนี้จะได้หรือไม่ รัฐบาลไหน พรรคการเมืองไหน ที่จะเสนอแนวทางการทำงานมากกว่าที่จะมาบิดเบือนต่อว่า มันก็จะกลับไปที่เดิมหมด สร้างความเกลียดชังจนกระทั่งหาสาระไม่ได้ ตรงนี้ต้องฝากกันไว้ด้วย"นายกฯกล่าว

 

 

  ทั้งนี้ที่ผ่านมาประเทศไทยทะเลาะกันไม่เลิก ใครคิดว่าใช่บ้าง ทุกคนต้องการเหมือนกัน ต้องการดี อยากได้ เห็นประเทศอื่นร่ำรวย แสดงว่า คนไทยที่บริหารมันห่วย ทั้งๆที่มีศักยภาพเยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ คน สถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งการยิ้มแย้มแจ่มใสของคนประเทศอื่นไม่มี เป็นเจ้าภาพที่ดี แต่เรากำลังทำลายส่ิงเหล่านี้

 

เพราะการพูดกันไปมาโดยไม่มีเหตุผลหรือหลักการ โดยไม่คิดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งจากปากต่อปาก ในสื่อ ในโซเชียลมีเดีย แต่ส่ิงที่ดีๆก็มีเยอะ เราต้องเลือกเสพ ไม่ใช่อ่านแล้วเอาตามทั้งหมด บางเพจด่า บางเพจเชียร์ ความรู้ไม่มี หลักคิดไม่ได้ เป็นสถานการณ์ที่สร้างความขัดแย้ง นี้คือปัญหาประเทศที่เกิดมาหลายสิบปี มันต้องแก้กันในวันนี้ แก้ให้ได้ก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งต้องให้เป็นไปตามโรดแม็ปที่กำหนดไว้ ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งส้ิน 

 

 

  ทั้งนี้ขอให้ช่วยเรื่องการปฏิรูป ประเทศไทยมันยากตรงความขัดแย้ง ในต่างประเทศกลับไปชมเขานักหนาว่าเขาดี วันนี้บางประเทศยังเฆียนคนอยู่เลยไม่ขอเอ่ยนามว่าประเทศอะไร แต่คนเขาก็กลัว ถูกเฆียนแต่เรื่องกฎหมายประเทศไทยไม่กลัว เพราะประชาธิปไตยมันถูกหรือเปล่าแบบนี้ มันต้องคนรุ่นไร้ขีดจำกัดทำลายทุกอย่าง รื้อทุกอย่างได้ นี้หรือคนรุ่นใหม่ ทำส่ิงดีๆใหม่ๆแย่ไปหมด ฝากไว้ด้วยเรื่องนี้ 

 

 

  การใช้จ่ายเงินทุกรัฐบาลต้องแสดงความชัดเจนว่าต้องหาเงินมาจากไหน เสนอแผนงานกันมาต้องดูด้วยว่ารัฐบาลมีเงินเท่าไหร่ ดังนั้นการปฏิรูปถึงได้มองระยะยาว เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของประเทศ แต่ถ้ายุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปทำไม่ได้ ก็จบแบบนี้ฝากไว้ด้วยจะช่วยแก้ปัญหานี้อย่างไร ไม่อย่างนั้นรัฐบาลก็โดนทุกวัน รัฐบาลแก้ปัญหาทุจริตทุกวัน เรื่องทุจริตเราต้องช่วยกันดู แต่ไม่ใช่จับผิดจนทำอะไรไม่ได้ ก็จะไม่เกิดอะไรขึ้น กลายเป็นการเพิ่มภาระในปีต่อไป เพราะถ้าวันนี้ทำไมได้วันหน้าก็ทำไม่ได้อยู่ดี หลายโครงการทำแล้วถูกต่อต้าน 

 

 

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งนายกฯได้ชี้ไปถามยังกลุ่มนักศึกษาที่มาศึกษาดูงานการประชุมครั้งนี้ พร้อมกับถามว่า "อายุถึง 18 ปีหรือยัง"นักศึกษาต่างพากันพยักหน้า นายกฯจึงได้กล่าวว่า 18 แล้วใช่ไหม มีสิทธิเลือกตั้งแล้วไปเลือกให้ดี เพราะนั้นคืออนาคตของท่าน ไม่ใช่อนาคตของผม เพราะฉะนั้นการพัฒนาประเทศจะเอามาจากไหน ก็ต้องมาจากรัฐ รัฐวิสาหกิจ เงินกู้ จะให้ไปเก็บเอาตามถนนหรือไปบีบเอาที่ใคร มันมีแค่นี้ วันนี้ประชาชนเดือดร้อนเพราะภาษี แต่จะให้ทำอย่างไร เพราะทุกคนต้องการหมด เรื่องรัฐสวัสดิการอันนั้นก็ฟรี อันนี้ก็ฟรี ทั่วโลกชื่นชม ประชาชนได้ประโยชน์ แต่ได้ประโยชน์ได้ 100 %หรือยังก็ยังไม่ได้ ถ้าวันนี้ประชาชนเรียกร้องให้มากที่สุด ตนถามวาาจะเอาเงินจากไหน ประเทศจะล้มละลายหรือเปล่า 

 

 

  หลายคนบอกว่าไม่รวยเสียที เอื้อประโยชน์แต่คนรวย ก็คนที่รวยมากเขามีประกอบการมาก เขาล้มละลายเมื่อไหร่ก็แล้วแต่เขา และเขาก็เสี่ยงของเขาเอง แต่ถ้าเขาทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกลงโทษ เพราะต้นทุนไม่เท่ากัน อย่าไปบอกว่ารวยๆแล้วเป็นอย่างไง บอกว่าต้องรวยๆ "ชิโป้ง ชิปัง"เป็นไงก็ไปอยู่ต่างประเทศไง ดังนั้นเราต้องพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ วันหน้าก็อาจจะรวย

 

 

  วันนี้ประชาชนยังไม่ได้อะไร เพราะเขาเป็นหนี้โรงสี ขอให้โรงสี ลดดอกเบี้ยลงหน่อย เพราะการปลูกข้าต้องเอาเงินไปลงทุน ขายได้ราคาเท่าไหร่ก็ต้องขาย ประกาศราคาเท่าไหร่ก็ได้เท่าเดิม ตนกำลังให้รองนายกฯไปขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกร หนี้นอกระบบมาให้หมด ซึ่งต้องมีการเจรจา หากคิดดอกเบี้ยเกินตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ต้องไปเร่งเจรจาลดหนี้ให้เกษตร เรื่องหนี้นอกระบบหากว่ามี พลเรือนหรือทหาร ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องติดคุกให้หมด จะปล่อยไว้ทำไม รัฐบาลจะเคลียร์ตรงนี้ให้หมด เพื่อให้สะอาด เจ้าหน้าที่ที่ไม่ดีก็เอาออกไป 

 

 

  "ขอโทษที่เสียงดัง แต่ผมก็เป็นมนุษย์ แต่ตำแหน่งนายกฯก็คือตำแหน่ง ฉะนั้นจะมาหมิ่นตำแหน่งนายกฯไม่ได้ ถ้าจะด่าก็ด่าผมได้ แต่ถ้าผมเป็นนายกฯอยู่กรุณาระวังหน่อยแล้วกัน เพราะนายกฯเป็นตำแหน่งที่มีการเกียรติ ผมก็อยากรักษาตำแหน่งนี้ให้มีเกียรติไม่ใช่ไม่มีเกียรติ 

 

ขอบคุณที่เข้าใจผมทุกคน ขอบคุณครม.ของผมด้วยที่ทำงานอย่างสาหัส มันไม่ง่ายในการทำระหว่างที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้อยู่ ข้าราชการข้างล่างก็ต้องปรับตัว ซึ่งเขาก็ปรับตัวกันอย่างเต็มที่ เพราะเขาก็อยากจะทำ แต่ถ้าเราไม่ให้ความไว้วางใจซึ่งกัน คนดีก็จะหมดไป คนไม่มีดีก็จะเตรียมรอ วันข้างหน้าก็ออกมาใหม่"นายกฯกล่าว