ความจริงสุดช็อค !!! งานวิจัยเผย "นม" คือ ปัจจัยหลักของ "มะเร็ง" คนไทยเสี่ยงสูงถึง 99 % !!!

ในชีวิตประจำวันที่ยุ่งเยิงอยู่นี้ ทำให้ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นกลายเป็นเช้าที่ต้องรีบเร่ง คนรุ่นใหม่จึงนิยมหัน มาดื่มนมเพื่อสุขภาพและคลายความหิวไปช่วงหนึ่ง เนื่องเมืองไทยในรอบ 20 ปี ที่ผ่านมานี้ ได้มีการ รณรงค์ให้ดื่มนมวันละ 2 แก้ว เพื่อสุขภาพและโดยเฉพาะในเด็กเติบโตเพื่อนำแคลเซียมในนมไปใช้ ในการสร้างกระดูก เราทุกคนก็เชื่ออย่างนั้นมาตลอด แต่ถ้าในวันนี้มีใครสักคนเดินเข้ามาบอกคุณว่า นมที่คุณดื่มอยู่นั้นเป็นตัวการอย่างดีในการก่อให้เกิดมะเร็งล่ะ !?!

นพ.ตนุพล วิรุฬหการุณ ผู้อำนวยการ Bangkok Royal Life Anti-Aging Center โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้พูดเกี่ยวกับการกินนมของคนไทย ว่าการกินมากๆ เป็นประโยชน์ หรือ เป็นโทษ หรือไม่อย่างไร 

ทางด้าน นพ.ตนุพล ได้เปิดเผยว่า คนเอเซีย เป็นภาวะ Lactoes intolerance หรือ ลำไส้ไม่มีน้ำย่อยเพื่อย่อยนม ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงมาก แสดงให้เห็นว่าคนเอเซียส่วนใหญ่แพ้นม ดังนั้นถ้าคนเอเซีย ที่แพ้นมแต่ไปกินนมจะมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ลมเยอะ แก๊สเยอะ ปวดหัวไมเกรน ปวดประจำเดือน ถุงน้ำรังไข่ คัดจมูก จามบ่อย ไซนัส ใต้ตาคล้ำ น้ำเหลืองไม่ดี ถ้าเป็นเด็กตัวเตี้ยๆ ยิ่งกินยิ่งเตี้ย แต่ถ้าไปกินปลา ไก่ ซึ่งเป็นแคลเซียมจากแหล่งอื่นความสูงจะสูงขึ้น แต่พอกลับกินนมก็เตี้ยอีก ตาคล้ำอีก พอโตเป็นสาวก็เป็นสิว เป็นหนองอีก พอเป็นวัยผู้ใหญ่ท้องอืด พุงป่องแต่น้ำหนักไม่ขึ้น ท้องผูกบ้าง ท้องเสียบ้าง พอเริ่มเครียดก็เป็นไมเกรนอีก น้ำหนักขึ้นง่าย อ้วนง่าย ผมร่วง

และเมื่อกินไปเรื่อยๆจนอายุ 60 กว่า ก่อให้เกิดเซลมะเร็ง มีการวิจัยของ ม.ฮาเวิร์ด ได้ระบุไว้ว่า คนที่แพ้นม และยังกินนม จะก่อให้เกิดมะเร็งลำไส้ได้สูงมากขึ้น ก่อให้เกิดมะเร็งเต้านมมากขึ้น และก่อให้เกิดมะเร็งปอดมากขึ้น และสุดท้ายก่อให้เกิดมะเร็งต่อมลูกหมากมากขึ้น

ซึ่ง นพ.ตนุพล ได้ทำวิจัยไว้ชิ้นหนึ่งยังไม่ได้ตีพิมพ์ เก็บข้อมูลมา 9 ปีแล้ว ใช้คนไทยวิจัย 5,000 คน เจาะเลือดและตรวจพันธุกรรมพบว่ามีภูมิแพ้นมหรือลำไส้ไม่ย่อยนมหรือ “Lactoes intolerance” ใน 5,000 คน สูงถึง 99 เปอร์เซ็นต์ สรุปก็คือเกือบทุกคนในประเทศไทยเป็นโรค Lactoes intolerance