เพราะเหตุใด คนสนิท"เจ๊แดง"ถึงดับอนาถทางการเมือง ทั้งยึดทรัพย์ทั้งติดคุก!! อนาคตดับวุบ!?

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

หากย้อนเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายาที่ผ่านมา นาย สมชาย วงษ์สวัสดิ์ ผู้เป็นสามีจะออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงสถานะทางการเมืองของภรรยา เจ๊แดง นาง เยาวภาวงษ์สวัสดิ์  แกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย  และ แกนนำกลุ่มวังบัวบาน ที่มีอิทธิพล บารมีอยู่ภายในพรรคเพื่อไทยไม่เสื่อมคลาย ได้ขอวางมือทางการเมืองแล้ว และจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งอีก 

ด้วยความที่”เจ๊แดง”เป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ช่วงหลังมานี้แทบจะไม่มีภาพปรากฎเป็นข่าวมานานมากแล้วซึ่งเป็นปกติวิสัยของเจ๊แดงที่มักจะชอบทำอะไรอยู่เบื้องหลังเสมอๆ และด้วยความเป็นเจ้าแม่กลุ่มวังบัวบาน ทำให้”เจ๊แดง” มีเด็กในคาถาเพียบ!!

 

เพราะเหตุใด คนสนิท"เจ๊แดง"ถึงดับอนาถทางการเมือง ทั้งยึดทรัพย์ทั้งติดคุก!! อนาคตดับวุบ!?

 

อย่างล่าสุดที่ตกเป็ข่าวคราวคึกโครมเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่าน กับกรณีของ‘เกษม นิมมลรัตน์’ ในสมับที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่  ที่เพิ่งโดนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้ยึดทรัพย์สินของนายเกษม ตกเป็นของแผ่นดิน วงเงินประมาณ 21 ล้านบาท แบ่งเป็นที่ดิน 2 แปลง 11.8 ล้านบาท และหุ้นของนางดวงสุดา นิมมลรัตน์ (คู่สมรส) อีก 9.2 ล้านบาท จากคดีมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติเมื่อวันที่15 มิ.ย.ที่ผ่าน 

 

โดยสำนักข่าวอิศรา (https://www.isranews.org/isranews-scoop/66883-isranews-66822.html) ได้รายงานถึงเบื้องลึกเบื้องหลัง “คนขายที่ดินให้ ‘เกษม’ เผยได้รับเงินเป็นแคชเชียร์เช็ค” โดยระบุว่า

 

ผู้ขายที่ดินให้นายเกษม ให้การในชั้นคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. และเบิกความในชั้นศาลฎีกาฯ สรุปได้ว่า ไม่เคยรู้จักนายเกษมมาก่อน และไม่เคยทราบว่าเป็นผู้มีตำแหน่งทางการเมือง โดยการซื้อขายกระทำผ่านแคชเชียร์เช็ค ธนาคารกสิกรไทย สาขาแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2557 วงเงิน 11 ล้านบาท หลังจากนั้นนายเกษมได้โอนเป็นเงินสดให้อีก 8.6 แสนบาท

 

รายงานดังกล่าวยังระบุอีกด้วยว่า “สาวลึกพบ พนง.บ.ลูก ‘เจ๊แดง’ เป็นคนซื้อ”

คณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ตรวจสอบแคชเชียร์เช็คฉบับดังกล่าว จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาแจ้งวัฒนะ พบว่า มีการโอนแคชเชียร์เช็ค 2 ใบ นายยุทธศักดิ์ แก้วสาย ได้นำเงินสด 5 ล้านบาทมาซื้อแคชเชียร์เช็คฉบับดังกล่าว ฉบับเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2557 และโอนให้ผู้ขายที่ดินให้นายเกษม หลังจากนั้นนายยุทธศักดิ์ ได้นำเงินสดอีก 6 ล้านบาทซื้อแคชเชียร์เช็คอีกฉบับลงวันที่ 26 ธ.ค. 2557 ก่อนจะนำแคชเชียร์เช็คทั้งหมดรวม 11 ล้านบาท จ่ายให้กับผู้ขายที่ดินให้นายเกษม

 

 

ผู้บริหารในธนาคารกสิกรไทย สาขาแจ้งวัฒนะ ให้การในชั้นคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ว่า นายยุทธศักดิ์ เข้ามาทำธุรกรรมทางการเงินที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาแจ้งวัฒนะ บ่อยครั้ง ทราบว่านายยุทธศักดิ์เป็นพนักงานของบริษัทนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แต่จำชื่อบริษัทไม่ได้ 

คณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ได้เรียกนายยุทธศักดิ์ มาให้ถ้อยคำหลายครั้ง แต่นายยุทธศักดิ์ ส่งแค่หนังสือชี้แจงกลับมาว่าขอเลื่อน และไม่เคยมาให้ถ้อยคำต่อคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. แต่อย่างใด

 

คณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. จึงตรวจสอบประวัตินายยุทธศักดิ์จากประกันสังคม พบว่า เมื่อปี 2556 นายยุทธศักดิ์ เคยทำงานที่บริษัท ยานัท จำกัด โดยบริษัทดังกล่าว ปรากฏชื่อของนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ บุตรชายของนางเยาวภา และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นกรรมการ ก่อนที่จะลาออกจากบริษัทดังกล่าวในปี 2559

 

ข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ใช้เป็นหลักฐานคือ ไม่ปรากฏว่า นายยุทธศักดิ์ เป็นลูกจ้างนายเกษมแต่อย่างใด และไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดกับนายเกษม ถึงขนาดที่ต้องรับมอบเงิน 11 ล้านบาทจากนายเกษม เพื่อซื้อแคชเชียร์เช็ค 2 ครั้ง นำไปชำระที่ดิน 2 แปลงดังกล่าว 

 

ขณะเดียวกันนายเกษม และนางดวงสุดา มีภูมิลำเนาอยู่ จ.เชียงใหม่ และมีเงินฝากหลายบัญชีอยู่ที่ธนาคารใน จ.เชียงใหม่ ดังนั้นการซื้อแคชเชียร์เช็คผ่านธนาคารในกรุงเทพฯ จึงเป็นข้อพิรุธ

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายเกษมโดนยึดทรัพย์ ในคดีร่ำรวยผิดปกติ ก่อนหน้านี้ช่วงปี 2560 ศาลฎีกาฯเคยพิพากษาให้ยึดทรัพย์สินของนายเกษม และนางดวงสุดา ตกเป็นของแผ่นดินมาแล้วกว่า 168 ล้านบาท 

 

อีกทั้งนายเกษมยังถูกศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา ฐานจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ 

 

อย่างไรก็ตามเด็กในคาถาเจ๊แดง ที่มีอันเป็นไปทางการเมือง ไม่มีมีแต่‘เกษม นิมมลรัตน์’  ที่โดนเต็มๆทั้งจำคุกและยึดทรัพย์ คงหนี้ เจ้าของวลีเด็ด”กูพูดไม่ได้” นั้นคือ“บุญทรง เตริยาภิรมย์ “สมาชิกกลุ่มวังบัวบานที่มีความสนิทสนมกับเจ๊แดง  เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หนึ่งในหมากมหากาพย์การทุจริตโครงการรับเจ้านำข้าว ในยุคครม.ยิ่งลักษณ์ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำ ที่ได้สร้างความเสียหายหลายแสนล้านบาท ที่กำลังชดใช้กรรมอยู่ในคุกนานถึง42 ปี

 

และบุญทรง ผู้นี้คือคนที่มีสัมพัน์อันดี ทั้งทางธุรกิจ และการเมืองกับเจ๊แดง แต่จะเป็นเพราะความบังเอิญหรือไม่ประการใด  เพราะเหตุคนสนิท รอบกายเจ๊แดงทั้ง 2 คนได้กล่าวมานั้น  แต่ละดับอนาถทางการเมืองทั้งนั้น ไม่ติดคุกหัวโตก็โดนยึดทรัพย์

 

ดังนั้นต้องขอเรียนแบบภาษาวัยรุ่นสมัยนี้ ที่ว่า “เข้าแก๊งไหน..หัวหน้าตามหมด” มาใช้ แต่ขอเปลี่ยน “เป็นหัวหน้าแก๊งไหน...ลูกน้อยตายหมด” ได้หรือไม่??

 

 

 

ขอบคุณข้อมูล บางส่วนจากสำนักข่างอิศรา