ผู้ว่ากาฬสินธุ์สั่งปูพรมฉีดวัคซีนรัศมี 5 กม.รอบจุดหนุ่มช่างไฟป่วยโรคพิษสุนัขบ้า สร้างขวัญกำลังใจให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต (คลิป)

จากกรณีนายอานนท์ ภูชะนาม อายุ 42 ปี ชาวบ้านหัวงัว ม.8 ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า ทำให้ชาวบ้านหลายรายหวาดผวาเกรงว่าจะติดเชื้อ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นพ.ประวิตร ศรีบุญรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ นายผดุงศักดิ์ อิ่มเอิบ นายอำเภอยางตลาด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ สาธารณสุขอำเภอยางตลาด และเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์เข้าเยี่ยมให้กำลังใจมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวนางสมจิตร นระแสน อายุ 62 ปี มารดานายอานนท์ ภูชะนาม อายุ 42 ปี ที่เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งญาติได้ตั้งศพไว้บำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 95 ม.8 บ้านหัวงัว ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ และจะเคลื่อนศพไปทำพิธีทำการฌาปนกิจในวันนี้ พร้อมทั้งทำการรณรงค์แจกเอกสารประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงและเฝ้าระวังโรค

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์นั้น ปัจจุบันมีพื้นที่เสี่ยงอยู่จำนวน 8 อำเภอ จากทั้งหมด 18 อำเภอ เนื่องจากมีบางช่วงที่วัคซีนป้องกันโรคขาดตลาด อาจจะทำให้การรณรงค์ฉีดวัคซีนไม่ต่อเนื่อง จึงทำให้โรคมีอยู่ ทั้งนี้หลังเกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ 1 รายนั้น ตนได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ สำนักงานปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินเพื่อติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์และดำเนินการป้องกันทันที
นายไกรสร กล่าวต่อว่า ในส่วนของพื้นที่ 8 อำเภอที่พบการแพร่ระบาดและเป็นพื้นที่เฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้านั้น จะต้องดำเนินการเอกซเรย์ปูพรมครั้งใหญ่ จะต้องขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงทุกตัว โดยเฉพาะสุนัข และแมว จะต้องฉีดวัคซีน 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าที่บ้านหัวงัว ต.ยางตลาด อ.ยางตลาดนั้น จะต้องค้นหาและทำการฉีดวัคซีนในพื้นที่รัศมี 5 กม.รอบจุดเกิดโรคจำนวน 11 หมู่บ้าน พร้อมกับรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
“แต่สิ่งที่อยากฝากถึงประชาชนคืออย่าได้ตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ จึงต้องมีสติเมื่อประสบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการหวั่นเกรงว่าเชื้อพิษสุนัขบ้าจะติดจากคนสู่คน ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นไปได้ยากมาก และโอกาสที่จะติดจากคนสู่คนนั้นมีน้อย ยกเว้นผู้ที่มีบาดแผลแล้วไปถูกน้ำลายคนป่วย ซึ่งจะต้องสัมผัสและคลุกคลีจริงๆจึงจะติดได้ ทั้งนี้สิ่งที่ประชาชนควรตระหนักมากที่สุดคือ หากครอบครัวใดมีสุนัขและแมว จะต้องนำไปฉีดวัคซีนทุกตัว อย่างได้ปล่อยปะละเลย และเมื่อหากถูกสุนัข หรือแมวกัด ข่วน เลียบาดแผล จะต้องไปฉีดวัคซีน และควรรีบไปพบแพทย์ทันที อย่างได้เผลอหรือประมาท เพราะอาจจะทำให้เสียชีวิตได้” นายไกรสรกล่าว

ด้านนพ.ประวิตร ศรีบุญรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับออกให้ความรู้เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าแก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเกิดโรค โดยเฉพาะมีเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ แม้ที่ผ่านมาจะมีการรงค์ให้ความรู้มาโดยตลอด เมื่อเกิดเหตุลักษณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารสุขก็ยังคงลงพื้นที่เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ เพื่อไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะการแพร่ระบาดของโรคจากคนสู่คนนั้นเกิดขึ้นได้ยากมาก และเท่าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ไม่พบว่ามีโอกาสเกิดขึ้น ซึ่งประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนกรณีที่หลายคนเข้าใจว่าหากถูกสุนัข และแมวกัด นั้นจะเอาเหล้าขาว 40 ดีกรีมาล้างแผล ซึ่งจะสามรถฆ่าเชื้อโรคได้นั้น เป็นการเข้าใจไม่ถูกต้อง เพราะแอลกอฮอล์ในเหล้าขาวมีประมาณดีกรีไม่สูงที่จะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ ซึ่งทางที่ดีควรที่จะไปพบแพทย์ทำการฉีดวัคซีนจะดีที่สุด
อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงประชาชนให้ยึดหลัก “คาถา 5 ย.” ได้แก่ 1.อย่าเหยียบ บริเวณลำตัว ขา หรือหางของสัตว์ 2.อย่าแยก สัตว์ที่กำลังกัดกัน 3.อย่าแหย่ สัตว์เพราะอาจโดนข่วนหรือกัดได้ 4.อย่าหยิบ อาหารขณะสัตว์กำลังกิน 5.อย่ายุ่ง กับสัตว์ที่ไม่รู้จักคุ้นเคย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการรับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า

ชมพิศ  ปิ่นเมือง  ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.กาฬสินธุ์