ต้นตอปัญหา!! หนุ่มกู้ภัยฯเมืองคอนโพสต์พร้อมลาออกจากเครือข่าย 1669 หลังฝ่าฝืนคำสั่งช่วยคนเจ็บ-แฉปัญหาผลประโยชน์เงินค่าเคสช่วยคนเจ็บไม่เท่ากัน

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

หนุ่มกู้ภัย ฯเมืองคอนโพสต์พร้อมลาออกจากเครือข่าย 1669 หลังฝ่าฝืนคำสั่งช่วยผู้บาดเจ็บ-อดีตกู้ภัย ฯแฉปัญหาจากผลประโยชน์เงินค่าเคสช่วยคนเจ็บไม่เท่ากัน โดยกู้ภัย-กู้ชีพในเครือข่ายได้ค่าเคสครั้งละ 350-500 บาท แต่หากเป็นรถของโรงพยาบาลจะได้รับถึง 1,000 บาททำให้ศูนย์สั่งการให้ความสำคัญสั่งการห้ามกู้ภัย-กู้ชีพออกช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอ้างสั่งการให้รถพยาบาล รพ.ออกช่วยเหลือแล้ว แต่ล่าช้าเหมือนเรือเกลือ ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการช่วยเหลือผู้ประสบภัยบาดเจ็บ

                จากกรณีที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช (สังกัดหน่วยกู้ชีพ อบต.กรุงหยัน) แลญาติ ๆ ผู้บาดเจ็บกรณีล้มหาหักในวัดท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมและประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่หลังจากลูกชายของคนเจ็บมาขอความช่วยเหลือจากอาสาสมัครใต้เต็กตึ๊ง สังกัดหน่วยกู้ชีพ อบต.กรุงหยัน ที่ศูนย์กู้ภัยที่อยู่ห่างไป 600 เมตร จึงออกไปตรวจสอบช่วยเหลือพร้อมแจ้งเข้าศูนย์สั่งการ 1669 หรือศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน แต่ศูนย์สั่งการ 1669 กลับสั่งอาสาสมัครห้ามหน่วยกู้ชีพ อบต.กรุงหยันอออกตรวจสอบช่วยเหลือคนเจ็บ โดยอ้างว่าเหตุเดียวกันนี้มีชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์โทรแจ้งศูนย์ 1669 จ.นครศรีธรรมราช แล้วและศูนย์สั่งการ 1669 แจ้งมาว่าได้แจ้งให้รถ รพ.ทุ่งใหญ่ ออกไปตรวจสอบช่วยเหลือผู้บาดเจ็บแล้ว ดังนั้นรถกู้ชีพพ อบต.กรุงหยัน ไม่ต้องออกไปตรวจสอบและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 

 อย่างไรก็ตามรถกู้ชีพ อบต.กรุงหยัน เห็นว่าจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้นิดเดียว น่าจะเดินทางไปสนับสนุนให้ความช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นประกอบกับลูกชายของคนเจ็บขอร้องให้ไปรีบช่วยเหลือเนื่องจากแม่เจ็บมาก รถกู้ชีพ อบต.กรุงหยัน  จึงรีบเดินทางไปจรวจสอบช่วยเหลือโดยใช้เวลาไปถึงที่เกิดแหตุแค่ 3 นาที  พบคนเจ็บนอนรอขอความช่วยเหลือด้วยความเจ็บปวดร้องให้ครวญคราง ขาขวาบิดผิดรูป โดยคนเจ็บรู้สึกตัวดี เจ้าหน้าที่ประจำรถกู้ชีพ อบต.กรุงหยัน จึงเข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาลด้วยอุปกรณ์ครบถ้วนและที่ถูกต้องตามที่ผ่านการอบรมมาจนเสร็จสิ้น และรอรถพยาบาล รพ.ทุ่งใหญ่ที่ศูนย์ 1669 สั่งการให้มารับอยู่ 20 นาที แต่รถพยาบาลยังมาไม่ถึงทั้ง ๆ อยู่ห่างออกไปเพียง 1 กม.จึงตัดสินใจนำคนเจ็บส่ง รพ.ทุ่งใหญ่ เพราะเห็นแก้ประโยชน์ของผู้บาดเจ็บเป็นสำคัญ สร้างคมไม่พอใจให้กับศูนย์สั่งการ 1669 เป็นอย่างมาก เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.)ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ต้นตอปัญหา!! หนุ่มกู้ภัยฯเมืองคอนโพสต์พร้อมลาออกจากเครือข่าย 1669 หลังฝ่าฝืนคำสั่งช่วยคนเจ็บ-แฉปัญหาผลประโยชน์เงินค่าเคสช่วยคนเจ็บไม่เท่ากัน

ต้นตอปัญหา!! หนุ่มกู้ภัยฯเมืองคอนโพสต์พร้อมลาออกจากเครือข่าย 1669 หลังฝ่าฝืนคำสั่งช่วยคนเจ็บ-แฉปัญหาผลประโยชน์เงินค่าเคสช่วยคนเจ็บไม่เท่ากัน

ต้นตอปัญหา!! หนุ่มกู้ภัยฯเมืองคอนโพสต์พร้อมลาออกจากเครือข่าย 1669 หลังฝ่าฝืนคำสั่งช่วยคนเจ็บ-แฉปัญหาผลประโยชน์เงินค่าเคสช่วยคนเจ็บไม่เท่ากัน

(19 มิ.ย. ในเฟซบุ๊คของนายชาญวิทย์ บำรุงศรี อาสาสมัครมูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช (สังกัดหน่วยกู้ชีพ อบต.กรุงหยัน) ที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหกล้มหาหักได้โพสต์ข้อความว่า    “ เรื่องเมื่อวาน หากเหตุการณ์เมื่อวานที่ผมขัดคำสั่งศูนย์นเรนทร นครศรีฯ(ศูนย์รับแจ้งเหตุ-สั่งการ1669)ห้ามไม่ให้ออกช่วยเหลือรับคนเจ็บ ทำให้ระบบสั่งการ ระบบการแพทย์ฉุกเฉินของจังหวัดนครศรีธรรมราชเสียหาย หรือเสื่อมเสีย หากผู้มีอำนาจระดับสูงได้ลงความเห็นเป็นเช่นนั้นจิง #ผมพร้อมแสดงความรับผิดชอบถอนตัวพร้อมรถกู้ชีพออกจากระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ที่สังกัด อบต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ทันที ความจิงลำดับขั้นตอนผมทำตามทุกอย่างและเป็นความจิง แม้ไม่ได้เคสก็ตาม หลาย ๆ เหตุการณ์เกิดขึ้น ผู้ที่เกี่ยวข้องระดับสูงอาจจะไม่รู้ที่ผ่านมาผู้ปฎิบัติงานติดขัดอะรัย หลาย ๆ หน่วยงานที่ปฏิบัติคงจะพบเจอมาเช่นกันแต่เรียกร้องอะรัยไม่ใด้ อยากเห็นความถูกต้อง อยากเห็นระบบที่เป็นระบบจิง ไม่ใช่ใช้ระบบสั่งการตามความพึงพอใจ พวกพ้อง ของตัวเองเป็นหลัก สร้างเงื่อนไขให้คนเจ็บ หรือผู้ปฏิบัติใด้รับผลกระทบ อย่าลุแกอำนาจ หน้าที่เกินหลักจรรญาบัญ และความถูกต้อง” (นายชาญวิทย์ บำรุงศรี) 19/มิ.ย./2561

                ซึ่งต่อมานายชาญวิทย์ ได้ยืนยันกับสื่อมวลชนอีกว่า “ผมอยากเห็นความถูกต้องเกิดขึ้นกับระบบ ให้คนเจ็บคนป่วยได้รับประโยชน์มากที่สุด วอนสื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ด้วยนะคับ” โดยมีประชาชนชาวโลกโซเชี่ยลเข้ามาชม แชร์ และแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง พร้อมเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจในระดับประเทศสั่งการแก้ไขการปฏิบัติเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพบนพื้นฐานของผลประโยชน์ประชาชน (คนเจ็บ)อย่างแท้จริง อย่าให้เรื่องเงินค่าเคส (ส่งคนเจ็บ)มาเป็นตัวกำหนดบดบังการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งทำให้ผ็บาดเจ็บ คนป่วยเสียประโยชน์และอาจจะนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะทำให้เสียชีวิต พิการหรือทุพลภาพได้

ต้นตอปัญหา!! หนุ่มกู้ภัยฯเมืองคอนโพสต์พร้อมลาออกจากเครือข่าย 1669 หลังฝ่าฝืนคำสั่งช่วยคนเจ็บ-แฉปัญหาผลประโยชน์เงินค่าเคสช่วยคนเจ็บไม่เท่ากัน

ต้นตอปัญหา!! หนุ่มกู้ภัยฯเมืองคอนโพสต์พร้อมลาออกจากเครือข่าย 1669 หลังฝ่าฝืนคำสั่งช่วยคนเจ็บ-แฉปัญหาผลประโยชน์เงินค่าเคสช่วยคนเจ็บไม่เท่ากัน

ต้นตอปัญหา!! หนุ่มกู้ภัยฯเมืองคอนโพสต์พร้อมลาออกจากเครือข่าย 1669 หลังฝ่าฝืนคำสั่งช่วยคนเจ็บ-แฉปัญหาผลประโยชน์เงินค่าเคสช่วยคนเจ็บไม่เท่ากัน

ต้นตอปัญหา!! หนุ่มกู้ภัยฯเมืองคอนโพสต์พร้อมลาออกจากเครือข่าย 1669 หลังฝ่าฝืนคำสั่งช่วยคนเจ็บ-แฉปัญหาผลประโยชน์เงินค่าเคสช่วยคนเจ็บไม่เท่ากัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้นายไพฑูรย์ อินทศิลา อุปนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในอดีตสมัยที่ตนเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ จ.นครศรีธรรมราช ประมาณ พ.ศ. 2533 ยังไม่มีศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน ยังไม่มีงบประมาณหรือเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง กลุ่มเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกู้ภัย ที่ออกปฏิบัติหน้าที่มีหัวใจและจิตสาธารณะที่ต้องการช่วยเหลือสาธารณะภัยอย่างแท้จริง ซึ่งในปัจจุบันยังมีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่มีจิตสาธารณะที่แท้จริงอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ปัญหามันเกิดขึ้นเพราะระบบสั่งการของ 1669 ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินหรือศูนย์นเรนทร ที่ประจำอยู่ในโรงพยาบาลศูนย์ทุกจังหวัด มีรถพยาบาลของโรงพยาบาลทุกแห่งเป็นหลัก และมีรถกู้ภัยของเทบาล อบต.หรือของเอกชนที่ขึ้นทะเบียนร่วมปฏิบัติหน้าที่เป็นเครือข่ายในทุกพื้นที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งดูจากรูปแบบแล้วน่าจะทำให้ประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผู้บาดเจ็บต่าง ๆ มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

    “แต่มันเกิดปัญหาตรงที่รถของ รพ.ทุกแห่งมีขีดจำกัดในการออกปฏิบัติหน้าที่  ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ในภาคสนามส่วนใหญ่ 80-90 เปอร์เซ็นต์จะเป็นรถอาสาสมัครกู้ภัยในเครือข่ายโดยคนกลุ่มนี้จะมีศักยภาพมากกว่าเพราะและสังกัดจะมีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครครอบคลุมพื้นที่แทบทุกตารางนิ้วพื้นที่ รู้จักเส้นทางในจุดที่เกิดเหตุ  และปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีตลอด 24 ชม. ในปัจจุบันเมื่อออกปฏิบัติหน้าที่ในทุกเคสผู้ที่ออกปฏิบัติหน้าที่หรือ ว.4 จะแจ้งให้ศูนย์นเรนทร หรือศูนย์สั่งการ 1669 ทราบ ปัญหามันอยู่ที่ค่าตอบแทนที่ทางราชการกำหนดให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละเคส  โดยศูนย์นเรนทร 1669 ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วประเทศจะให้แต่ละจังหวัดประชุมเพื่อกำหนดมาตรการเป็นเกณฑ์มาตรฐานในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยกันอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง  และเท่าที่ได้รับรายงานทุกครั้งในการประชุมจะหยิบยกกรณีการปฏิบัติหน้าที่ของรถพยาบาลของแต่ละ รพ.ซึ่งออกปฏิบัติล่าช้ากว่าของอาสาสมัครต่าง ๆ  แต่ศูนย์สั่งการ 1669 มักจะให้ความสำคัญกับรถกู้ภัยหรือรถพยาบาลของโรงพยาบาลเป็นหลัก เนื่องจากมีค่าตอบแทนสูงกว่ารถกู้ภัยหรือรถพยาบาลของมูลนิธิหรือองค์กรอื่น ๆ แต่ในขณะที่การปฏิบัติหน้าที่ล่าล้าส่วนใหญ่รถกูภัยมูลนิธิ ฯต่าง ๆ จะเดินทางไปช่วยเหลือ ปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุเสร็จแล้ว แต่ต้องรอรถพยาบาลของโรงพยาบาลที่ศูนย์ 1669 สั่งการให้มารับตัวส่ง รพ.ต่าง ๆ หลายครั้งต้องรอเป็นเวลานาน ทำให้ประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์หรือญาติผู้บาดเจ็บจะมองว่าเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิ  ฯต่าง ๆ ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ยอมนำคนเจ็บส่ง รพ.อย่างทันทีทันใดเสี่ยงต่อการสูญเสียของผู้ประสบภัยหรือผู้บาดเจ็บได้”

 อดีตกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ กลบ่าวอีกว่า ตัวปัญหาอยู่ที่ค่าเคสในการปฏิบัติ โดยอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ปฏิบัติที่มีประสิทธิ-ภาพสุงสุด แต่ถูกกำหนดให้เป็นแค่ผู้ปฏิบัติขั้นต้นหรือขั้นกลาง  ซึ่งมีเลขปฏิบัติการ ค่าเคส 350 บาท ขั้นกลาง 500 บาท ส่วนทีม รถพยาบาลของ รพ.นั้นได้กำหนดเป็นทีมขั้นสูงมีค่าเคสสูงถึง 1,000 บาท  ทำให้ตัวเงินค่าเคสในการปฏิบัติกลายเป็นตัวถ่วงประสิทธิภาพในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ” เรื่องนี้กกระทรวงสาธารณะสุข และศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินควรหาทางแก้ไขปัญหา โดยยกเลิกขั้นค่าเคสให้มีค่าเคสเท่ากันทั้งหมด และให้รถกู้ภัย รถพยาบาลในเครือข่าย 1669 ที่อยู่ใกล้พื้นที่หรือที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุได้รวดเร็วที่สุดเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่รีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเป็นผู้นำผู้บาดเจ็บส่ง รพ. ส่วนรถกู้ภัย หรือรถพยาบาลอื่น ๆ ที่อาจจะมาร่วมในการปฏิบัติหน้าที่ก็เป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือให้เกิดประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น หากทำได้อย่างนี้จะเกิดประสิทธิภาพบนพื้นฐานผลประโยชน์ของประชาชนเพิ่มมากขึ้น “นายไพฑูรย์ กล่าวในที่สุด.

ต้นตอปัญหา!! หนุ่มกู้ภัยฯเมืองคอนโพสต์พร้อมลาออกจากเครือข่าย 1669 หลังฝ่าฝืนคำสั่งช่วยคนเจ็บ-แฉปัญหาผลประโยชน์เงินค่าเคสช่วยคนเจ็บไม่เท่ากัน

ต้นตอปัญหา!! หนุ่มกู้ภัยฯเมืองคอนโพสต์พร้อมลาออกจากเครือข่าย 1669 หลังฝ่าฝืนคำสั่งช่วยคนเจ็บ-แฉปัญหาผลประโยชน์เงินค่าเคสช่วยคนเจ็บไม่เท่ากัน

ต้นตอปัญหา!! หนุ่มกู้ภัยฯเมืองคอนโพสต์พร้อมลาออกจากเครือข่าย 1669 หลังฝ่าฝืนคำสั่งช่วยคนเจ็บ-แฉปัญหาผลประโยชน์เงินค่าเคสช่วยคนเจ็บไม่เท่ากัน

ต้นตอปัญหา!! หนุ่มกู้ภัยฯเมืองคอนโพสต์พร้อมลาออกจากเครือข่าย 1669 หลังฝ่าฝืนคำสั่งช่วยคนเจ็บ-แฉปัญหาผลประโยชน์เงินค่าเคสช่วยคนเจ็บไม่เท่ากัน

ขอบคุณภาพ/นายชาญวิทย์ บำรุงศรี อาสาสมัครมูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช (สังกัดหน่วยกู้ชีพ อบต.กรุงหยัน)

ข่าว/ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช