- 19 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 มิถุนายน 2561 อำนวยการโดยนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่/นายโชคดี อมรวัฒน์,นายนิพันธ์ บุญหลวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่,นายวิเชียร อนุสาสนนันท์ ปลัดจังหวัดแพร่,นายวีระ พวงภู่ มอบหมายให้นายนิกร ยะกะจาย ป้องกันจังหวัดแพร่ จัดชุดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่/ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่ นำโดยสิบเอกพนม สมนึก ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดแพร่,ฝ่ายความมั่นคงอำเภอสอง,สมาชิก อส.ร้อย.บก.บร.อส.จ.แพร่/สมาชิก อส.อ.สอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.1 (แม่ปุง),เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สอง,เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปทส.ภาค 5, ต.ช.ด.32 (พะเยา),เจ้าหน้าที่ทหาร ม.พัน.12 พล.ม.1 เข้าตรวจยึดไม้บริเวณ ห้วยก้างปลา ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สอง หมู่ที่ 5 ต.เตาปูน อ.สอง จ.แพร่เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 มิถุนายน 2561 อำนวยการโดยนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่/นายโชคดี อมรวัฒน์,นายนิพันธ์ บุญหลวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่,นายวิเชียร อนุสาสนนันท์ ปลัดจังหวัดแพร่,นายวีระ พวงภู่ มอบหมายให้นายนิกร ยะกะจาย ป้องกันจังหวัดแพร่ จัดชุดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่/ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่ นำโดยสิบเอกพนม สมนึก ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดแพร่,ฝ่ายความมั่นคงอำเภอสอง,สมาชิก อส.ร้อย.บก.บร.อส.จ.แพร่/สมาชิก อส.อ.สอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.1 (แม่ปุง),เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สอง,เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปทส.ภาค 5, ต.ช.ด.32 (พะเยา),เจ้าหน้าที่ทหาร ม.พัน.12 พล.ม.1 เข้าตรวจยึดไม้บริเวณ ห้วยก้างปลา ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สอง หมู่ที่ 5 ต.เตาปูน อ.สอง จ.แพร่
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฯ นำกำลังเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุซึ่งเป็นป่าลึก ต้องใช้เวลายาวนาน เพื่อตรวจยึดไม้ดังกล่าว พอไปถึงที่เกิดเหตุไม่พบผู้กระทำผิดแต่อย่างใด เหลือแต่ไม้ที่วางเรียงรายเต็มพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้นำของกลาง ประกอบด้วย 1.ไม้สักท่อน จำนวน 9 ท่อน ปริมาตร 1.78 ลบ.ม. ค่าเสียหายรัฐ 106,800 บาท 2.ไม้ประดู่ท่อน จำนวน 3 ท่อน ปริมาตร 1.09 ลบ.ม. ค่าเสียหายของรัฐ 38,150 บาท 3.เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่องส่งพนักงานสอบสวน สภ.สอง เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
จากการเข้าจับกุมขบวนการไม้เถื่อนในพื้นที่ต่าง ๆ มักจะไม่พบผู้กระทำผิดแต่อย่างใด ครั้งนี้ก็เช่นกันไม่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษแต่อย่างใด ซึ่งในเรื่องดังกล่าว ทางฝ่ายภาคประชาคมเห็นว่า ทางเจ้าหน้าที่จะต้องปรับกระบวนการในการทำงาน เพื่อให้ได้ตัวการที่กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ มีการหาข่าวในเชิงว่า ผู้กระทำผิดเป็นใครกันแน่ หรือว่ามีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังหรือไม่
ภาพ/ข่าว ธีรพงษ์ ธงออน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดแพร่