- 21 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เพจ : TNEW-บันเทิง
.
.
.
ถิอเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ที่สุดในชีวิต จนถึงกับต้องออกปากเองเลยว่า ทำใจไม่ได้จริงๆ สำหรับอดีตนักร้องสาว "น้ำหวาน พิมรา เจริญภักดี" หรือที่หลายคนคุ้นหูกันในชื่อ "น้ำหวาน ซาซ่า" หนึ่งสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังยุค 90's ที่หลายคนรู้จักกันดี หลังเจ้าตัวออกมาอัปเดตความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีที่ โดนชายหนุ่มนิรนามโพสต์ข้อความคุกคามในโลกโซเชียล นานถึง 5 ปี ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้สร้างความหวาดผวาให้กับเธอเป็นอย่างมาก
.
.
.
.
.
.
ล่าสุด สาวน้ำหวาน ก็ได้ออกมาเผยข้อมูลถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่เธอตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้มีโอกาสไกล่เกลี่ยกับคุณแม่ของชายหนุ่มคนดังกล่าว รวมถึงมีการส่งตัวคู่กรณีเข้ารับการรักษาในสถานบำบัด แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น เพราะเธอได้ระบุว่าทุกวันนี้ก็ยังคงโดนคุกคามอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเธอตัดสินใจแล้วว่าถ้าหากยังเป็นแบบนี้อยู่อีก ก็คงจะต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด
ความคืบหน้าหลังจากที่เราแจ้งความไป เป็นอย่างไรบ้าง ?
“สรุปว่าหลังจากที่วันนั้นเราไปที่ สน.ดอนเมือง ครั้งล่าสุด ตอนนี้มีภาค 3 แล้วค่ะ เพราะตอนที่เขาเข้าสถานบำบัด ช่วงนั้นอินสตาแกรมหวานก็จะเงียบสงบมาก ก็คิดว่าเขาน่าจะโอเคแล้ว ได้รับการรักษาแล้ว แต่ปรากฎว่าตอนนี้ คือเราก็เดาว่าน้องเขาน่าจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว เพราะว่าเขากลับมาคอมเมนต์เหมือนเดิม”
เราจะจัดการอย่างไรในรอบนี้ เพราะเขาก็ออกมาจากสถานบำบัดแล้ว ?
“น้องเขายอมเข้าสถานบำบัดไปตามที่เราได้คุยกันไปแล้ว แต่ว่าเอาแค่วันนั้นที่ออกจาก สน. คุณแม่เขาก็บอกว่าจะไม่ให้น้องเขามากวนอะไรอีก แต่พอพี่ๆ สื่อกลับไปและเราอยู่ต่อ ยังไม่ทันไปถึงไหนเลย น้องก็ส่งข้อความมาอีก ทีนี้เราก็เลยรอดูไปอีกสักพักหนึ่งว่า ถ้าน้องเขายังมาในรูปแบบเดิม และหนักขึ้น ก็อาจจะต้องดำเนินการอย่างจริงจังค่ะ”
ที่บอกว่าจะดำเนินการอย่างจริงจังถ้าเขาไม่ยังไม่หยุด คืออะไร ?
“เราก็ไม่รู้ หรือต้องไปดอนเมืองอีก ถ้าใครมีวิธีการอะไรก็อยากให้แนะนำด้วย บอกตามตรงคือเราต้องใช้คำว่าจนปัญญาแล้ว”
.
.
.
.
.
.
ที่บอกว่าจะดำเนินการอย่างจริงจังถ้าเขาไม่ยังไม่หยุด คืออะไร ?
“เราก็ไม่รู้ หรือต้องไปดอนเมืองอีก ถ้าใครมีวิธีการอะไรก็อยากให้แนะนำด้วย บอกตามตรงคือเราต้องใช้คำว่าจนปัญญาแล้ว”
เราได้ถามตำรวจไหมว่ามีวิธีจัดการอย่างไรได้บ้าง ?
“จริงๆ คำแนะนำจากพี่ๆ ตำรวจก็คือให้ทำใจอ่ะค่ะ แต่ว่าเราก็เหมือนทำใจไม่ได้ มันดูเป็นวิธีการพื้นบ้านเกินไป เราอยากได้วิธีการที่มันหาย เพราะว่าพอหลังจากเกิดเรื่องมีคนที่โดนเหมือนกันติดต่อมาเยอะมาก หลายคนเลย ก็มาบอกว่าเขาก็โดนเหมือนกัน จะทำยังไง เราก็บอกว่าเราเก็บเข้าสถานบำบัดแล้วค่ะ แต่แป๊บเดียวก็ออกมาอีกแล้ว”
เคยได้มีโอกาสได้คุยกับน้องเขาสองคนไหม ?
“ ก็อยากถามนะจริงๆ น้องอายุ 24 ปีเอง ทันซาซ่าด้วยเหรอ เพราะว่าเหมือนวันนั้นที่จะมาคุยกันที่ดอนเมือง ทางน้องเขาอาหารเป็นพิษ คุณแม่ก็เลยมาแทน เราก็เลยอยากจะรู้จริงๆ ว่าน้องเขาอยากได้อะไรจากเรา ถ้าอยากได้กำลังใจ หรือว่าอยากได้การพูดคุยก็ยินดี แต่ว่าขอให้มาในรูปแบบทางบวก ไม่เอา บาป บวม ปาด หั่น เชือด อะไรแบบนี้”
ตอนนี้เขาก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ เราคุยกับคุณแม่เขาไหมว่าต้องไปบำบัดเพิ่มเติม ?
“คุยผ่านคุณตำรวจค่ะ บอกว่าอยากให้น้องไปรักษาเพิ่มเติม เพราะมันเอาไม่อยู่แล้ว มันต้องเพิ่มระดับการรักษาขึ้นไป ซึ่งก็มีความเป็นไปได้นะ คิดว่าอีกไม่นานนี้จะไปปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลที่น้องรักษา คงต้องเป็นคนไปเอง เพราะคราวที่แล้วก็แนะนำคุณแม่เขาไปแล้วว่าไปตรงนี้ไหม ตรงนั้นไหม คือทุกคนก็พยายามช่วยน้องมาก”
กลัวเขาจะมาถึงเนื้อถึงตัวเราไหม ?
“กลัวค่ะ แต่ตอนนี้กลัวน้อยลง เพราะเราเห็นแล้วว่าเขาหน้าตาเป็นแบบนี้ เราระมัดระวังตัวได้ แต่เวลากลับบ้านดึกๆ คุณแม่ก็ยังต้องรอเปิดประตูอยู่ค่ะ เวลาหมาเห่าเราก็แบบตกใจนะว่าใครมาอ่ะ มีคนตามมาหรือเปล่า ซึ่งตัวคุณแม่น้องเขา บอกว่าน้องไม่เคยออกจากบ้านเลย แต่ก็เคยหลุดออกมาคำหนึ่งว่า "น้องมีออกไปซื้อน้ำ ซื้อขนมบ้าง" เราก็แบบ เอ๊ะ ตกลงน้องออกหรือไม่ออกคะคุณแม่ แม่ก็บอกว่าออกบ้าง ก็เลยกลัวว่าออกแล้วจะมาเยี่ยมเราที่บ้าน ก็มีกลัวเหมือนกัน”
.
.
.
ขอบคุณที่มา : itsmewaan
