- 22 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ถือเป็นอีกปรากฎการณ์สำคัญซึ่งบ่งชี้ชัดว่า ภายใต้ความตั้งใจนำประเทศไทยเดินหน้าสู่การปฏิรูป และวันเวลาเลือกตั้งในปี 2562 ของ "พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. นับวันจะยิ่งผชิญกับความวุ่นวายในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะกับวิธีการโจมตีจากขั้วอำนาจเก่า ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รัฐประหารปี 2557 และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เลือกการหลบหนีออกจากประเทศไทย ไปพักอาศัยอยู่กับนายทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย เพื่อเลี่ยงเผชิญกระบวนการยุติธรรม จากการตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายเฉพาะตัวบุคคลกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท
ล่าสุดชัดเจนกับพื้นที่การสัมภาษณ์ผ่านนิตยสารไทมส์ ฉบับเดือนกรกฎาคม 2561 ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงหลายบทตอนที่มีลักษณะการนำข้อมูลการสัมภาษณ์ไปบิดเบือนด้วยการแทรกบทวิพากษ์วิจารณ์เข้าไปในรายละเอียดการสัมภาษณ์ดังกล่าว หลายข้อความแสดงเจตนาให้เห็นอย่างชัดเจนว่าต้องการโจมตีผู้นำของไทย ไม่ใช่การนำมุมมองข้อเท็จจริงจากการสัมภาษณ์ ไปนำเสนอเฉกเช่นกับจรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ควรจะเป็น...
อาทิเช่น ภายหลังการตั้งคำถามถึงอนาคตทางการเมือง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งตามสัญญาที่กำหนดไว้ในปี 2562 และย้ำว่าการตัดสินใจเข้ามาแก้ไขปัญหา ด้วยการรัฐประหารก็เพราะความรู้สึก ในฐานะนายทหารที่ต้องทุ่มเทชีวิตเพื่อชาติบ้านเมืองและสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นจึงไม่สามารถปล่อยช่วงเวลาปี 2557 นำไปสู่เหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติได้
.jpg?x-image-process=style/md-webp)
“นี่ไม่ใช่ 4 ปีเพื่อสร้างอำนาจ แต่เป็นเวลาแก้ปัญหา ก้าวข้ามอุปสรรคและสร้างความมั่นคง ความปลอดภัยเพื่อก้าวไปสู่อนาคต”
และต่อจากนี้ คือสิ่งเลวร้ายของนิตยสารไทมส์ ซึ่งเป็นสื่ออิทธิพลระดับโลก เมื่อปรากฏข้อความในเชิงวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ผู้นำของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อยกับบทสัมภาษณ์ อาทิเช่น การโจมตีประเทศไทยภายใต้การบริหารราชการแผ่นดินของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ยังมีอนาคตมืดมัวเนื่องจากมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง รวมถึงมีการจับกุมผู้ชุมนุมทางการเมือง มีการข่มขู่ผู้สื่อข่าว..
ทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องสามารถพิสูจน์ได้ว่า ปัจจุบันคนในประเทศไทยใช้ชีวิตอยู่กันอย่างสงบต่อเนื่องถึง 4 ปีเป็นครั้งแรก นับเนื่องจากปี 2544-2557 หรือจากยุครัฐบาลทักษิณมาจนถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งเกิดการชุมนุมทางการเมืองรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
ไม่เท่านั้นนิตยสารไทมส์ ยังกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่สนใจความต้องการประชาชน แล้วใช้วิธีการรายงานการแก้ปัญหาผ่านหน้าจอโทรทัศน์ และอีกหลายข้อมูลที่แสดงการใส่ร้ายป้ายสี พล.อ.ประยุทธ์อย่างชัดเจน ด้วยข้อเขียนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบทสัมภาษณ์ใด ๆ แต่มีรายละเอียดโน้มเอียงไปทางด้านกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อต้านคสช.และรวมถึงอดีตนักการเมือง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉพาะกับบุคคลที่กำลังต้องเผชิญกับคดีความตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม หลังจากถูกหมักหมมมานานในยุครัฐบาลที่อ้างเป็นประชิปไตยแต่ดำเนินนโยบายการเมือง เศรษฐกิจ เพื่อพวกพ้องและกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง
ประเด็นสำคัญยังใช้พื้นที่ของนิตยสารที่วางจำหน่ายทั่วโลก ใช้วิธีการสกปรกโดยการนำคำให้สัมภาษณ์ของพล.อ.ประยุทธ์เพียงบางส่วน ไปวิเคราะห์เลยเถิดถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากชาติประชาธิปไตยไปสู่ระบอบเผด็จการ โดยอ้างว่าเป็นผลสืบเนื่องจากมีการพลิกบทบทสัมพันธภาพจากกลุ่มพันธมิตรเดิมเช่นสหรัฐอเมริกา ไปผูกมิตรกับจีนเพิ่มมากขึ้น โดยการสั่งซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากจีนจำนวนมหาศาล และการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจอีกหลายโครงการ ขณะที่ผู้คนในสังคมไทยกำลังแสดงออกถึงความไม่พอใจรัฐบาลทหารเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่จุดวิกฤตได้ในไม่ช้า
ก่อนจะจบท้ายกลับมาที่บทสัมภาษณ์ของพล.อ.ประยุทธ์อีกครั้ง ด้วยคำยืนยันของพล.อ.ประยุทธ์ ว่า ไม่มีเจตนาที่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีในลักษณะดังกล่าว พร้อมย้ำว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิต .. โดยไม่มีการให้น้ำหนักกับสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์พยายามชี้แจงกับสากลโลก ว่าในช่วงต้นปี 2562 ประเทศไทยจะเกิดการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือธาตุแท้ของสื่อตะวันตกอย่างไทมส์ ซึ่งแสดงเจตนาร้ายต่อผู้นำไทยและความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย โดยใช้พื้นฐานข้อมูลจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลคสช.ที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอำนาจการเมืองเก่า เนื่องจากมีจุดยืนชัดเจนเรื่องการเร่งเร้าวันเลือกตั้ง เพื่อสร้างโอกาสให้กับกลุ่มเครือข่ายการเมืองในยุคระบอบทักษิณกลับคืนสู่อำนาจ เหมือนอย่างที่นายทักษิณพูดครั้งล่าสุดว่า ให้รัฐบาลคสช.เดินหน้าจัดการเลือกตั้ง และระบุว่ายังรอคอยโอกาสกลับประเทศไทย รวมถึงแสดงความมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับชัยชนะการเลือกตั้ง
อีกด้านหนึ่งพฤติกรรมของนิตยสารไทม์ที่วันนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นสื่อฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลคสช. ต้องไม่ลืมว่าในปี 2552 ไทมส์เคยถูกวิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับการยอมเป็นเครื่องมือให้กับนายทักษิณ พูดพาดพิง จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงของไทย ในช่วงเวลาการให้สัมภาษณ์ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แม้ว่าภายหลังนายทักษิณจะออกปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมอ้างว่าเป็นความเข้าใจผิดจากนิตยสารไทมส์ที่มีการบิดเบือนบทสัมภาษณ์ก็ตาม
