ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่าแวดวงการเมืองกลับมาเข้มข้นขึ้นเป็นพิเศษ ทั้งกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. นำทัพเดินทางเยือน อังกฤษ และฝรั่งเศส พร้อมๆกับการที่2 พี่น้องนายทักษิณ - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ได้เช็คอินฉลองวันเกิดครบ 51 ปี เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ของน้องสาวอย่างน.ส.ยิ่งลักษณ์

 ต่อมาได้มีการแชร์ คลิปวิดีโอ นาย ทักษิณ ขณะวิดีโอคอลส่งสัญญาณมายัง "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" และลูกพรรคส.ส.เมืองไทยอีกหลายคน  นายทักษิณได้แสดงให้เห็นว่ายังเป็นผู้ที่ยุ่งเกี่ยวและมีอิทธิพลที่สามารถครอบงำและชี้นำพรรคเพื่อไทยได้เหมือนเดิม แม้ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยในขณะนี้แล้ว 

 

เนื้อหาใจความว่า ตนกำลังจะบอกว่า เราจะชนะทุกเขตทางภาคอีสาน แล้วกำลังทวิตเตอร์ขอบคุณมากที่ออกไป ได้ฝึกเป็นคนเสียสละเป็นอย่างมากเพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นผู้แทน ผมได้บอกไปว่า  คนที่ออกจากพรรคไปมี 2 ประการ 

 ประการที่ 1.คนที่ออกไปเพื่อเก็บสตางค์ แล้วก็เลิกเล่นการเมือง เพราะว่า พวกนี้หน้าโง่จ่ายให้ ก็เก็บสตางค์ไปพักผ่อนซะ 

 

แล้วอีกประเภทหนึ่งก็คือ 2.เป็นคนที่มั่นใจในตัวเอง ลืมไปว่าคะแนนตัวเองแพ้คะแนนพรรคมาโดยตลอด มาเที่ยวนี้ดีแล้วจะได้เอาเด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาแทนเดี่ยวจ.เลย และที่โคราชหรือจ.นครราชสีมา ต้องมีคนรุ่นใหม่ขึ้นมาแทน ดีมากเลย เออ 

 

 

ด่วน!! เพื่อไทยงานเข้า!! ไม่ต้องรอให้ใครร้อง..สั่งสอบ คลิป"ทักษิณ"หวั่นครอบงำพรรค??โทษสูงถึงยุบพรรค?!

ต่อมาทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มากมายในสังคมขณะนี้ ล่าสุด  พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวกรณีมีคลิปวีดีโอดังกล่าว ระบุว่า ..

 

ได้มอบหมายให้ นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต.ซึ่งรับผิดชอบงานด้านพรรคการเมืองตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายมาตรา 28 มาตรา 29 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่กำหนดห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอม หรือมิให้ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการควบคุมครอบงำชี้นำกิจกรรมของพรรคในลักษณะที่ทำให้พรรค หรือสมาชิก ขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมแล้ว เนื่องจากตามกฎหมายใหม่ให้เป็นเรื่องความปรากฏต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ก็สามารถดำเนินการตรวจสอบได้เลยโดยไม่ต้องรอให้มีผู้ร้องเรียน ซึ่งกรณีดังกล่าวมีการนำเสนอผ่านสื่อต่าง ในฐานะนายทะเบียนฯจึงต้องเข้ามาดูแลหากการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงเบื้องต้นหากพบว่าเข้าข่ายมีมูลก็จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม นายทะเบียนพรรคการเมืองยอมรับว่า บทโทษของความผิดของการกระทำตามมาตรา 28 , 29 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ก็คือการเสนอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค ตามมาตรา 92 และมาตรา 93 ของกฎหมายเดียวกัน แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นของการตรวจสอบข้อเท็จจริง เส้นทางสำนักงาน กกต.ก็จะเร่งดำเนินการ จึงยังไม่อยากให้ตีความกันไปไกลถึงขนาดนั้น