คลิป"นายใหญ่สาบส่งลิ่วล้อ"สะเทือนไกล? "มาร์ค" ขย่มซ้ำ"ชินวัตรครอบงำพรรค-นี่แหล่ะหนึ่งในปัญหาของ ปท.-แถมส่อไม่ยอมสำนึก"

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ดูเหมือนคลิปที่ "นายใหญ่เล่นบท CEO สาบส่งลิ่วล้อที่ทิ้งพรรค" เมื่อ 2 - 3 วันก่อน จะส่งผลสะเทือนไกลกว่าที่ใครหลายคน รวมทั้งเจ้าตัว...ซึ่งก็คือตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้อื้อฉาวเองจะคาดคะเนเอาไว้มากนัก เพราะนอกจากจะโดน "พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา" เลขาฯ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง สั่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อรายงานเบื้องต้นให้ กกต. ใหญ่รับทราบ เพราะเรื่องนี้สุ่มเสี่ยงว่า...จะเข้าข่ายที่ทางพรรคฯ ยินยอมให้บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคเข้ามาชี้นำ ครอบงำการดำเนินกิจกรรมของพรรค ตามที่ พ.ร.ป.พรรคการเมืองมาตรา 28, 29 ห้ามเอาไว้หรือไม่...และโทษนั้นอุกฉกรรจ์ถึงขั้น "ยุบพรรค" ตามที่หลายต่อหลายคนตั้งข้อสังเกตไว้

 

แม้ กกต. จะยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะการตั้งคณะกรรมการสอบสวนจะตั้งก็ต่อเมื่อข้อเท็จจริงที่ได้บ่งชี้ไปถึงขั้นว่า "พรรคมีการยินยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคเข้ามาชี้นำ ครอบงำ การดำเนินกิจกรรมของพรรคจริง"

 

ล่าสุดต่อกรณีนี้ "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือเป็นคู่ปรับตลบอดกาลของพรรคเพื่อไทย ออกมาให้ความเห็นอย่างน่าสนใจว่า เรื่องนี้ต้องดูต่อไปว่าจะเข้าข่ายการแทรกแซงครอบงำพรรคหรือไม่ ซึ่งต้องให้เป็นหน้าที่ของผู้รักษากฎหมายในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวมองกรณีที่เกิดขึ้นว่า ยังคงมีบางคน บางฝ่าย ที่ไม่ยอมรับว่า การที่ประเทศเดินเข้ามาสู่ปัญหาตรงนี้ เป็นสิ่งที่เราทุกฝ่ายต้องร่วมกันรับผิดชอบและร่วมกันทบทวน

 

“การที่ นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แสดงออกมานั้น ทำให้เห็นว่า พวกเขาไม่ได้คิดว่าการกระทำของเขาในอดีตมีส่วนในการก่อปัญหาให้ประเทศ ซึ่งตรงนี้ถือว่าอันตราย วันนี้ประเทศไทยต้องมีทางเลือกที่ดีกว่า  เราต้องมาติดตามต่อว่ามันจะเป็นอย่างที่เขาโฆษณาหรือคุยโม้หรือไม่ แต่ผมคิดว่าน่าเป็นห่วง หลายคนมาถามผมว่าจะจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคอื่นๆหรือไม่ ผมก็บอกว่าขอดูว่าพรรคเพื่อไทยได้เรียนรู้แล้วหรือไม่ ถ้าเขายังอยู่ภายใต้การครอบงำของครอบครัวชินวัตร ยังมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ของครอบครัวชินวัตรอยู่ มันจับมือกันไม่ได้” นายอภิสิทธิ์ ระบุ