ทรงห่วงคนติดถ้ำหลวง  “ในหลวงรัชกาลที่ 10”  ทรงแนะนำให้จัดระบบในเรื่องนี้ให้ดี “พล.อ.อนุพงษ์” รับใส่เกล้าฯ ว่าจะจัดให้เรียบร้อยมากขึ้น

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th


เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้(27 มิ.ย. 61) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ กล่าวถึงการช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ว่า เจ้าหน้าที่กำลังทำงานอย่างต่อเนื่องทั้งสองส่วน คือ การดำน้ำเข้าไป เป็นระยะเพื่อที่จะใช้เชือกวางหมายแนว ชุดต่อไปจะได้ไม่ต้องคลำทางเพื่อที่จะเข้าไปให้ได้ แต่ต้องขอเรียนว่าระดับน้ำยังสูงขึ้น และยังมีน้ำที่ซึมอยู่ในภูเขาที่มีลงมามากขึ้น กับอีกส่วนหนึ่งคือ หาช่องทางเข้าจากเขาด้านนอก แต่ขณะนี้สภาพอากาศด้านนอกภูเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยหมอก แม้แต่เวลาเที่ยงหรือบ่ายเฮลิคอปเตอร์ก็ไม่สามารถบินได้ ต้องใช้วิธีการเดินเท้าขึ้นไป เราได้ส่งชุดเดินเท้าขึ้นไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ทุกภาคส่วนหาช่องทางที่จะลงไป โดยสิ่งที่บอกเหตุอย่างหนึ่งคือ มีการไหลของอากาศภายในถ้ำ ดังนั้น เชื่อว่าน่าจะมีช่อง ซึ่งขณะนี้ต้องการเข้าไปให้ถึงตัวเด็กให้ได้ก่อนแล้วจะออกมาอย่างไรค่อยหาทางกันอีกทีหนึ่ง

 

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า สำหรับเครื่องสูบน้ำที่นำเข้าไปภายในถ้ำทั้งหมดจะเป็นเครื่องไฟฟ้า และมีจำนวนเยอะมาก ไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยตัว ซึ่งเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมาเราต้องเสียเวลาทั้งวันในการเดินสายไฟเข้าไปให้ถึงบริเวณพื้นที่ตามระยะ 3 กิโลเมตร และยังต้องหาที่ที่จะสามารถรองรับน้ำได้ ส่วนเครื่องสูบน้ำที่อยู่ด้านนอกตามหลักการที่ทำคือ มุ่งหวังในการพร่องน้ำ เพื่อลดระดับน้ำในเขา เราทำทุกวิถีทางโดยไม่ปฏิเสธทุกช่องทาง เพื่อให้คนข้างในสามารถทำงานได้ ทุกคนต่างตั้งความหวังว่า เด็กๆ ยังปลอดภัยแน่นอน เพราะเขาเข้าไปประจำ อีกทั้งเป็นคนแข็งแรงและยังมีการเตรียมการ เพื่อนที่อยู่ข้างนอกสามารถเขียนแผนที่ได้ละเอียดมากกว่าคนที่เข้าไปดู เราต้องเร่งเข้าไปช่วย เชื่อว่าน่าจะมีข่าวดี

 

รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่าทุกคนเอาใจช่วยเด็กและครอบครัวถือเป็นสิ่งดีของสังคมไทย ซึ่งเป็นนิสัยของสังคมไทยหากมีภัยเราจะรักกันได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องการทำงานตรงนี้ ตนได้รับข่าวจากราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาว่าทรงแนะนำให้จัดระบบในเรื่องนี้ให้ดี ซึ่งตนรับใส่เกล้าฯ ว่าจะจัดให้เรียบร้อยมากขึ้น หลังจากที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามทำอยู่แล้ว แต่อาจเกิดความสับสนบ้าง โดยจะได้ขอร้องผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เข้าพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้สะดวก

 

“ทุกคนทำงานเต็มที่อย่างไม่ย่อท้อ ทำงานแข่งกับเวลา ทุกคนเอาใจช่วย เอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ทำงาน สื่อที่เข้าไปในพื้นที่ก็ดีที่พูดและวิจารณ์ข้อเท็จจริงที่ได้เห็น”พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว