- 05 ก.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่า อะคาเดมี่ จำนวน 12 คน และโค้ชอีก 1 คน สูญหายภายในถ้ำหลวง เขตวนอุทยานถ้ำหลวง–ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่เย็นวันที่ 23 มิ.ย. 61 โดยนักดำน้ำได้มีการพบตัวผู้สูญหายในคืนวันที่ 2 ก.ค. 61 โดยทุกคนปลอดภัยรอความช่วยเหลืออยู่บริเวณเนินนมสาว เลยจุดพัทยาบีชไปประมาณ 400 เมตรนั้น
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (4 ก.ค. 61) นาวาโทไชยนันท์ พีระณรงค์ อายุ 60 ปี อดีตมนุษย์กบหน่วยซีล ที่ได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานครั้งนี้ โดยเพิ่งได้เดินทางกลับมายังกรุงเทพฯ เมื่อคืนนี้ (3 ก.ค. 61) โดย นาวาโทไชยนันท์ ได้เปิดเผยกับทีมข่าวรายการทุบโต๊ะข่าวว่า ปัจจุบันตนเกษียณอายุราชการแล้ว ซึ่งตนเกษียณก่อนกำหนดมาได้ประมาณ 2 ปี ปัจจุบันทำสวนอยู่ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์
นาวาโทไชยนันท์ กล่าวต่อว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นตนก็ได้ติดตามข่าวอยู่ตลอดเวลา โดยจะมีการแจ้งข่าวสารในกลุ่มไลน์ของหน่วยซีล ซึ่งตนก็มีความคิดที่จะเข้าไปช่วยอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเมื่อวันเสาร์ที่ 30 มิ.ย. 61 น้องที่เป็นมนุษย์กบโทรศัพท์เข้ามาหาบอกว่าอยากให้ตนเข้ามาช่วยเป็นกำลังใจและช่วยในการวางแผน ตนเองไม่ลังเลที่จะตอบตกลงและออกเดินทางด้วยเครื่องบินไปยังจังหวัดเชียงใหม่ในคืนวันนั้นเลยโดยที่ไม่ได้บอกใคร และคิดเสมอว่าหากไม่เจอตัวผู้สูญหายจะไม่กลับภูมิลำเนา
จากนั้นในวันรุ่งขึ้น ตนก็เริ่มลงพื้นที่ปฏิบัติงาน ซึ่งเมื่อตนเข้าไปเห็นสถานการณ์จริงก็ทำให้ทราบเหตุผลว่าทำไมการดำเนินงานถึงต้องใช้เวลา เนื่องจากภายในถ้ำมีกระแสน้ำแรงและมีโขดหินที่ค่อนข้างอันตราย ทำให้มนุษย์กบทุกคนต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง ยอมรับว่ากดดันที่ต้องแบกรับความคาดหวังของคนในสังคม แต่เมื่อได้เข้าไปปฏิบัติงานก็ต้องทำทุกอย่างอย่างมีสติ และทำให้ทุกนาทีมีคุณค่าที่สุด การทำงานก็มีการแบ่งหน้าที่การทำงานกันเป็นส่วนไป โดยมีการทำงานอย่างระมัดระวังให้มีความปลอดภัย
นาวาโทไชยนันท์ เผยอีกว่า ในวันที่มีการพบเจอผู้สูญหาย ตนปฏิบัติงานอยู่ที่โถงสาม ซึ่งตนคาดไว้แล้วว่าหากไปถึงบริเวณดังกล่าวต้องพบผู้สูญหายอย่างแน่นอน หรือหากไม่พบก็น่าจะเป็นคำตอบได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากเป็นจุดที่อยู่สูงที่สุดซึ่งตนมั่นใจว่าผู้สูญหายจะต้องอยู่ในบริเวณนี้ โดยเมื่อทีมนักดำน้ำจากประเทศอังกฤษกลับออกมาที่โถงสามแล้วแจ้งว่าพบตัวผู้สูญหายทั้ง 13 คนแล้ว ในเวลาประมาณ 21.00 น. ทุกคนในโถงสามต่างก็ดีใจกระโดดโลดเต้นกัน ตนก็ดีใจแต่ไม่ได้กระโดดโลดเต้นด้วย เนื่องจากตนรู้สึกมั่นใจมาโดยตลอดว่าเด็กต้องรอด หลังจากนั้นก็มีการสั่งการให้ชุดแพทย์เตรียมตัวเข้าไปยังบริเวณที่เด็กอยู่ทันที
ทั้งนี้ ตนมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนไทยได้บทเรียนและได้เห็นถึงความสามัคคีของคนในสังคม ซึ่งตนมองว่าปฏิบัติการครั้งนี้ไม่ได้มีแต่หน่วยซีล แต่มันสำเร็จลงได้ด้วยความร่วมมือกันของทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกคน ซึ่งตนมองว่าทุกคนควรได้รับคำชื่นชมเช่นเดียวกัน
ขอบคุณ รายการทุบโต๊ะข่าว อัมรินทร์ทีวี HD34