- 13 ก.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีที่เด็กๆ เเละโค้ชทีมฟุตบอล หมูป่าอะคาเดมี่ จำนวน 13 ราย หายตัวเข้าไปในถ้ำหลวงนางนอน อ.เเม่สาย จ. เชียงราย ตั้งเเต่กลางดึกวันที่ 23 มิ.ย.2561 มีการระดมกำลังค้นหาเด็ก ๆกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 2 ก.ค. พบเด็กๆ ทั้ง13 คนปลอดภัยในถ้ำหลวง จากนั้นได้มีการช่วยนำเด็กๆ ออกมาจากถ้ำอาศัยความช่วยเหลือจากมืออาชีพต่างประเทศ โดยจบภารกิจช่วยเหลือในวันที่ 3 คือ 10 ก.ค. เด็กๆ หมูป่าออกมาครบ 13 รายอย่างปลอดภัยต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำทั้งหมดไปส่งยังโรงพยาบาลเชียงรายฯนั้น
ซึ่งในภารกิจครั้งนี้ ทำให้ทั่วโลกได้รู้จักวีรบุรุษและฮีโร่ถ้ำหลวงอย่าง "จ่าแซม" ที่สละชีพในครั้งนี้ ขณะนำถังอากาศเข้าไปเรียงในถ้ำ นอกจากนี้ยังมีนักดำน้ำอีกหลายชีวิต ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ รวมไปถึงนักดำน้ำชาวอังกฤษอย่าง นายริชาร์ด สแตนตัน และนายจอห์น โวลันเธน ที่เป็นผู้ดำน้ำไปจนถึงเนินนมสาวในวันที่ 2 ก.ค. 2561 และพบกับทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต และหลังจากภารกิจสิ้นสุดลง ทั้งคู่เตรียมเดินทางกลับ ท่ามกลางเสียงชื่นชมจากคนไทย และคนทั่วโลก ที่ยกย่องว่าเขาคือฮีโร่ที่ช่วยเหลือเด็กๆ แม้ตัวเขาเองจะปฏิเสธว่า ไม่ใช่ฮีโร่ และไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใดๆ เลยนั้น
และล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพ ก่อนที่ทีมนักดำน้ำชาวอังกฤษจะเดินทางกลับประเทศ หลังที่ช่วยชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ติดในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ออกมาได้อย่างปลอดภัยทั้ง 13 คน โดยทางรัฐบาลไทยจัดกิจกรรมเพื่อตอบแทนความมีน้ำใจของพวกเขา จึงได้พาไปท่องเที่ยววัดร่องขุ่นใน จ.เชียงราย และพบกับอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ซึ่งได้จัดทำภาพพิเศษเป็นที่ระลึกมอบให้กับทีมนักดำน้ำชาวอังกฤษด้วย รวมทั้งยังพาไปทานอาหารพื้นเมือง และไปนวดสปา เปิดห้องให้พักผ่อน พร้อมจัดเลี้ยงอาหารอิตาเลียนในมื้อเย็น ก่อนที่สมาชิกทีมดำน้ำจะเดินทางไปยังสนามบินเชียงราย และเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ
ขณะที่อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ได้ให้การต้อนรับทีมนักดำน้ำอย่างอบอุ่น พร้อมทั้งพาเที่ยวชมวัดร่องขุ่น และก่อนที่นักดำน้ำชาวอังกฤษจะเดินทางกลับ อาจารย์เฉลิมชัยก็ได้มอบของที่ระลึก เล็กๆ น้อยๆ ขอบคุณในน้ำใจที่ยิ่งใหญ่ โดยมีคลิปเผยแพร่ให้เห็นนาทีที่อาจารย์เฉลิมชัยมอบของที่ระลึก และนักดำน้ำต่างยินดีอย่างยิ่ง ทั้งยิ้ม และจับมืออาจารย์เฉลิมชัย นอกจากนี้ยังถ่ายรูปด้วยกันที่หน้าวัดร่องขุ่น ก่อนจะเดินทางกลับประเทศอังกฤษอีกด้วย
นอกจากนี้อาจารย์เฉลิมชัย ได้เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 ก.ค. 2561 นี้ ศิลปินชาวจังหวัดเชียงรายที่มีกว่า 300 คน จะร่วมใจกันที่จะสร้างสรรค์ผลงานเพื่อบันทึกประวัติศาสตร์กรณีการติดภายในถ้ำหลวงของ 13 คน ทีมหมู่ป่าอะคาเดมีแม่สาย ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ลงบนพื้นผ้ากว้าง 3 เมตร ยาว 13 เมตร และสร้างปฏิมากรรมอนุสาวรีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์เทิดทูนเกียรติประวัติของจ่าเอกสมาน กุนัน หรือ จ่าแซม นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการกองทัพเรือ ที่เสียชีวิตจากปฏิบัติการช่วยเหลือดังกล่าว
ขณะนี้ภาพวาดดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนของการสเก็ตช์รูป จะเริ่มดำเนินการวาดในช่วงเช้าของวันที่ 14 ก.ค. โดยจะมีการโชว์ภาพสเก็ตช์ทั้งภาพวาด ภาพสเก็ตช์อนุสาวรีย์ตลอดจนอาคารสำหรับโชว์ผลงาน ส่วนช่วงบ่ายจะเริ่มลงมือ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 วันผลงานจะแล้วเสร็จ เบื้องต้นจะโชว์ไว้ที่ขัวศิลปะหรือวัดร่องขุ่นก่อน เพื่อรอการสร้างศาลาโชว์ผลงานเสร็จก็จะไปติดตั้งให้ถาวร สำหรับอนุสาวรีย์จะมีขนาดประมาณ 2 เท่าของคนจริงจะปั้นที่ภายในวัดร่องขุ่นแล้วส่งไปโรงหล่อที่กรุงเทพมหานครต่อไป
ส่วนงบประมาณทั้งหมด ตนจะเป็นผู้ออกเอง หากประชาชนคนไหนที่มีน้ำใจอยากช่วยเหลือ ต้องขอขอบคุณ แต่ขอไว้โอกาสหน้าหากใช้งบประมาณมากกว่านี้ เพราะครั้งนี้ใช้เงินเพียง 10 ล้านบาท ตนออกเองได้สบายๆ อยู่แล้ว โดยภาพวาดที่จะสร้างทั้งหมดเป็นเรื่องราวเหมือนถ้ำ และมีเรื่องราวของคนที่ช่วยเหลือหมูป่าทั้ง 13 ตัว ของทุกหน่วยงานที่เข้าไปปฎิบัติภารกิจทั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ชาวต่างชาติ ท่อน้ำซิ่ง ชุดดำน้ำหน่วยชีล หน่วยปีนเขา หน่วยรังนก เป็นต้น จะรวบรวมให้ได้มากที่สุด ด้านบนจะเป็นรูปดอยนางนอน อาจจะมีความเชื่อหรือคติโบราณเหมือนฝันอยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นเรื่องจริงแล้วนำไปสู่ความสำเร็จ จากมืดไปสู่สว่าง
รูปเขียนดังกล่าวจะเป็นรูปเขียนที่ใหญ่มาก ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวที่จะเดินไปถ้ำหลวงในช่วงปีใหม่หรือในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ก็จะได้เห็นและรำลึกถึงเหตุการณ์ที่ทุกภาคส่วน และนานาประเทศร่วมด้วยช่วยกัน ตอนนี้ศิลปินเชียงรายจะสับเปลี่ยนกันคราวละประมาณ 100 คน เข้าไปทำผลงานนี้ทั้งกลางวันกลางคืน ตามความถนัดของตนเอง โดยมีตนเป็นผู้ควบคุมและอาจารย์สุวิทย์ ใจป้อม เป็นผู้ออกแบบ ผลงานศิลปินเหล่านี้ตนและเหล่าศิลปินถือเป็นเรื่องใหญ่ที่อยากทำขึ้นเพื่อบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญนี้ให้อยู่ได้เป็นพันปี ไม่ใช่แค่ 100-200 ปี แม้สถาปัตยกรรมหรือพื้นที่เปลี่ยนแต่รูปเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ เพราะจะหล่อเป็นบอร์นคุณภาพคงทนสามารถอยู่ได้ 2-3 พันปี และเป็นความงามทางศิลปะด้วย