ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

จากกรณีโศกนาฏกรรม เรือท่องเที่ยวจีน “ฟีนิกซ์” ฝ่าฝนตกหนักและคลื่นลมแรง ล่มกลางอ่าวภูเก็ตกลืนกินเกือบ50ชีวิต เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา  จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า เพราะเหตุใด เมื่อมีพายุมรสุมเข้าเช่นนี้ จึงกล้าขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่รัฐที่ห้ามออกเรือ  ดันทุรังเดินเรือออกทะเล จนเกิดเหตุสลดเช่นนี้  จนนำมาสู่การเร่งตรวจสอบว่าบริษัทดังกล่าวและพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับทัวร์ศูนย์เหรียญและมีคนไทยเป็นนอมินีอีกด้วย

 

โดยพบว่า บริษัทที่ประสบเหตุครั้งนี้มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “บริษัทท่าลี่” ซึ่งเคยถูกดำเนินคดีไปแล้ว รวมถึงการต่อเรือที่มีการประกอบไม่ได้มาตรฐาน ใช้วัตถุดิบที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายมาใช้ในการต่อเรือ เช่น เครื่องยนต์จากรถบรรทุก 10 ล้อ กระจกพลาสติก PVC กำแพงประกอบจากไม้อัด และระบบระบายน้ำขังที่มีเครื่องมือระบายน้ำขนาดเล็กกว่ามาตรฐานเกือบเท่าตัว ไม่มีการทรงตัวที่ดีทุกสัดส่วน ไม่สามารถนำออกทะเลได้ เมื่อน้ำเข้าเครื่องยนต์จะดับ เสื้อชูชีพไม่ได้มาตรฐาน มอก. 

จากการตรวจสอบพบว่า มีบริษัทที่เป็นนอมีนีจำนวน 11-12 แห่งในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งพังงา ภูเก็ต โดยมีข้อมูลยืนยันจากผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตได้ส่งเข้ามาให้กับทางเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมด้วย ซึ่งในวันที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นไม่มีผู้ประกอบการคนไทยรายใดออกเรือเลย แต่บริษัทนอมีนีกลับมีการออกเรือ เนื่องจากมีการสั่งการจากต่างประเทศ

 

สำหรับบริษัทท่าลี่ หลังจากที่ได้มีการดำเนินคดีไปแล้ว ศาลมีคำสั่งให้ยึดเงินไปจำนวน 200 กว่าล้านแล้ว รวมถึงเรือ 35 ลำ โรงแรมบนเกาะ 1 หลัง รถยนต์ 117 คัน โดยบริษัทท่าลี่มีบริษัทในเครือข่าย 15 บริษัท ซึ่งไม่รวมกับ 2 บริษัทที่เกิดเหตุขึ้นใหม่

 

ล่าสุด เมื่อวันที่14 ก.ค.ที่ผ่านมา บิ๊กโจ๊ก หรือ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและคณะได้เดินทางเข้าพบหารือกับกงศุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนและญาติของผู้บาดเจ็บเหตุเรือล่มภูเก็ต เพื่อหารือแนวทางการเยียวยาและอำนวยความสะดวก จากนั้นได้เดินทางไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เพื่อร่วมสอบปากคำ น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล กรรมการบริษัท ทีซี บลูดรีม จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต หลังได้เดินทางเข้ามอบตัว โดยแจ้งข้อหาว่า ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

 

เรือล่มภูเก็ต..สาวไส้ "ขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ" นอมินีข้ามชาติหากินในไทย ถ้าไม่ปราบวันนี้คนไทยจะไม่มีที่ยืน.!!!

 

พล.ต.ต. สุรเชษฐ์  ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการเยียวยาผู้เสียหายว่า ..

“ในช่วงวันแรกที่เกิดเหตุทางเจ้าของบริษัทฯ ได้รับปากว่า จะดูแลอย่างเต็มที่… แต่ขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน มีเพียงแต่บอกว่าจะให้ความช่วยเหลือ”

 

ในส่วนของการดำเนินคดีทั้งหมด บุคคลที่เข้ามอบตัวเป็นเจ้าของบริษัทตัวจริงหรือไม่ คาดว่าจะรู้ความจริงในเร็วๆ นี้ ซึ่งได้เตือนแล้ว กรณีเอาบุคคลภายนอกที่ไม่มีความรู้ อายุประมาณ 23 – 28 ปี มาเป็นเจ้าของบริษัท ที่มีมูลค่าการลงทุนร้อยล้านพันล้านบาท เหล่านี้คือนอมินี ซึ่งขณะนี้ไม่ได้ตำหนิว่าใครเป็นนอมินี แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นไม่สามารถแก้ปัญหาได้ รับผิดชอบไม่ไหว สอบถามกับทางเจ้าของบริษัทฯ ซึ่งก็ยังตอบไม่ได้ว่าจะช่วยเหลืออะไร อย่างไร สิ่งที่คนจีนรออยู่ขณะนี้ คือการเยียวยา .. พล.ต.ต. สุรเชษฐ์  กล่าว

 

เรือล่มภูเก็ต..สาวไส้ "ขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ" นอมินีข้ามชาติหากินในไทย ถ้าไม่ปราบวันนี้คนไทยจะไม่มีที่ยืน.!!!

 

เรือล่มภูเก็ต..สาวไส้ "ขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ" นอมินีข้ามชาติหากินในไทย ถ้าไม่ปราบวันนี้คนไทยจะไม่มีที่ยืน.!!!

อย่างไรก็ตามสำหรับขบวนการ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ที่เกิดขึ้นมานั้น อย่าเข้าใจผิดว่า นักท่องเที่ยวจีนจ่ายเงินศูนย์เหรียญ เพื่อมาท่องเที่ยวประเทศไทย แต่อันที่จริงแล้วนักท่องเที่ยวจีนได้จ่ายเงินให้บริษัททัวร์ในประเทศจีน แล้วบริษัททัวร์จีนถึงค่อยส่งกรุ๊ปทัวร์ให้เครือข่ายในไทย โดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากทัวร์ เข้าประเทศไทยศูนย์เหรียญ หรือศูนย์บาท หรือแปลง่ายๆคือ ไม่จ่ายเลย.. 

 

ที่ร้ายไปกว่านั้น นายทุนตัวจริง ยังใช้วิธีสร้างเครือข่ายกินรวบ ตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง ลักลอบฝ่าฝืนกฎหมายไทย และรวมไปถึงการฟอกเงิน หรือแม้แต่การประกอบกิจการต้องห้ามสำหรับคนต่างชาติ อาทิ กิจการทัวร์ โรงแรม ฯลฯ บางส่วนมีการใช้นอมินีหุ่นเชิด เป็นคนไทย!! หรือแม้แต่การสวมบัตรประชาชนคนตายโดยที่เจ้าของตัวจริงเป็นคนจีน

 

เรียกว่า สร้างเครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญขึ้นมาในประเทศไทย ไล่ตั้งแต่นักท่องเที่ยวจีน จ่ายเงินให้บริษัททัวร์จีน จากนั้นส่งให้บริษัททัวร์ในไทย แต่เจ้าของตัวจริงก็คือคนจีน แล้วใช้โรงแรมรีสอร์ทของเครือข่ายตนเอง ร้านค้า สถานบันเทิง ร้านจิวเวลรี่ รถบัส เรือท่องเที่ยว ฯลฯ

 

เรือล่มภูเก็ต..สาวไส้ "ขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ" นอมินีข้ามชาติหากินในไทย ถ้าไม่ปราบวันนี้คนไทยจะไม่มีที่ยืน.!!!

 

 

ท้ายที่สุดการหยั่งรากลึกของทัวร์ศูนย์เหรียญในเมืองไทย ได้สร้างความเสียหายให้กับชาติบ้านเมืองเป็นอย่างมาก  แม้การซื้อขายที่เกิดขึ้นจริงได้ของจริง แต่ไปจ่ายเงินกันที่ประเทศจีน ชำระผ่านระบอบของจีนเอง โดยตามหลักของกฎหมายการซื้อขายจึงไม่เกิดในประเทศไทย ภาษีการซื้อขายที่รัฐควรจะได้จึงไม่มี ดังนั้นขอสนับสนุนให้ตำรวจจัดการให้เด็ดขาด   ดังคำกล่าวของ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.ต.สุรเชษฐ์...

 

“นอมินีข้ามชาติเหล่านี้เข้ามาใช้ทรัพยากรในประเทศไทย แต่รายได้ไม่เข้าประเทศไทย เข้ามาแย่งอาชีพคนไทย ถ้าไม่ปราบวันนี้คนไทยจะไม่มีที่ยืน..”