นายก"ประยุทธ" ช่วยด้วย!! ชาวบ้าน 2 ตำบล เดือดร้อนหนักระทมซ้ำสอง น้ำท่วมเจอแล้งฝนทิ้งช่วง ข้าวยืนต้นตายกว่า10,000ไร่ ปล่อยให้ฝูงวัว-ควายลงกิน

นายก"ประยุทธ" ช่วยด้วย!! ชาวบ้าน 2 ตำบล บ้านนาอิน บ้านนายาง เดือดร้อนหนัก ระทมซ้ำสอง จากน้ำท่วมเจอแล้งฝนทิ้งช่วง ข้าวยืนต้นตายกว่า 10,000 ไร่ ขาดน้ำเลี้ยง ผอมแห้ง แคะแกรน ต้องปล่อยให้ฝูงวัว-ควายลงกิน 

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 61 ที่บริเวณสำนัก งานสหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินนาอิน จำกัด มีชาวบ้านจากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ในพื้นที่ตำบลนาอินและตำบลนายาง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ จำนวน 400 ราย นำเอกสารภาพถ่ายต้นข้าวที่เกษตรกรได้รับพันธุ์ข้าวหอมปทุมธานี1 พระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมูลนิธิชัยพัฒนา นำแจกจ่ายให้กับเกษตรกรในพื้นที่ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ให้เกษตรกรประสบอุทกภัยน้ำท่วมพื้นที่นาข้าว เมื่อปี พ.ศ.2560 ได้รับความเสียหาย เป็นจำนวน 7336 ไร่ เกษตรกร จำนวน 557 ราย นำไปเพาะปลูกในปี 2561 ไร่ละ 15 กิโลกรัม เป็นจำนวนข้าวทั้งสิ้น 110,000 กิโลกรัม หลังได้รับเมล็ดพันธุ์ข้าวแล้ว เกษตรกรนำไปหว่านเพาะปลูกในนาข้าวของตนเองทันที 

หลังหว่านแล้ว ฝนไม่ตกลงมาเป็นเวลา 2 เดือน ทำให้ข้าวที่ปลูกในนาสูงเพียงแค่ 1 คืบ ยืนแคะแกรน ต้นลีบผอมแห้ง ไม่สามารถตั้งท้องเป็นเมล็ดข้าวได้ ต้นข้าวบางส่วนยืนใกล้ตายและตาย จำเป็นต้องปล่อยให้วัวควายลงไปกินแทน ส่งผลทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนไม่มีข้าวกิน และต้องหาซื้อข้าวในตลาดที่มีราคาสูง มากินแทนข้าวที่ปลูกไม่ได้ผล 

ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ต่างนำหลักฐานภาพถ่ายต้นข้าวยืนแห้งเหี่ยวขาดน้ำตาย นำมามอบให้กับ นายจีรพงษ์ แป้นเพ็ชร ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินนาอิน จำกัด เพื่อรวบรวมข้อมูลปัญหาที่กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้รับในครั้งนี้ แจ้งบอกกล่าวให้กับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาทางช่วยเหลือเกษตกรต่อไป 

 

ทั้งนี้ ทางกลุ่มเกษตรกรได้ลงทุนไปกับการปลูกพันธุ์ข้าวหอมปทุมธานี1 พระราชทาน อาทิ ค่าน้ำมัน ค่ายา ค่าปุ๋ยและค่าบำรุงดิน แต่ไม่ได้ผลผลิตตามที่ต้อง การ เนื่องจากฝนทิ้งช่วงหรือไม่ตกลงมา มีเกษตรกรบางรายได้รับความเสียหายตั้งแต่ 5 ไร่ ไปจนถึง 50 ไร่ เรียกร้องให้ นายเสฐียรพงศ์ มากศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ประกาศพื้นที่ตำบลนาอินและตำบลนายาง เป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ง เพื่อหน่วยงานภาครัฐ จะได้จัดสรรงบประมาณบางส่วนลงมาช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ประสบปัญหาภัยแล้งในครั้งนี้

นายจีรพงษ์  ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินนาอิน จำกัด กล่าวว่า ก่อนลงทำนาปีเกษตรกรได้รับพันธุ์ข้าวหอมปทุมธานี1 พระราชทาน โดยมูลนิธิชัยพัฒนา หลังได้รับเมล็ดพันธุ์ข้าวแล้ว เกษตรกรก็นำไปหว่านในนาข้าวเพื่อปลูกทันที เมื่อหว่านแล้วเกิดฝนทิ้งช่วงไม่ตกลงมาเป็นเวลา 2 เดือน ทำให้ข้าวที่ปลูกในนาต้นลีบผอมแห้งกรอบ แคะแกรน ไม่สามารถตั้งท้องเป็นเมล็ดข้าวได้ เกษตรกรไม่มีเงินทุนไปซื้อพันธุ์ข้าวมาหว่านใหม่อีกครั้ง อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบและหาทางช่วยเหลือเกษตรกร พร้อมประกาศพื้นที่ตำบลนาอินและตำบลนายางเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติแล้งเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และหาพันธุ์ข้าวให้ชาวบ้านได้นำไปปลูกใหม่เพื่อทำกินต่อไป

"เฉพาะวันนี้ที่ได้รับแจ้งจากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเพียงวันเดียวกว่า 400 ราย ต้นลีบผอมแห้งกรอบ แคะแกรน จำเป็นต้องปล่อยให้วัวควายลงไปกินแทน เพื่อเป็นประโยชน์แก่สัตว์เลี้ยง ถึงแม้ว่าอากาศจะมีเมฆคลึ้มฝนแต่ก็ไม่มีฝนตกลงมาเลย ส่งผลทำให้ดินแห้งแตกระแหงข้าวที่ปลูกยืนต้นตายเสียหายเกือบ 10000 ไร่"

ด้าน นางแป้ง ก้อนกลีบ เกษตรกรตำบลนาอิน กล่าวว่า ปลูกข้าวพันธุ์หอมปทุมธานี1 พระราชทาน จำนวน 2 แปลง/ 25 ไร่ รวม 50 ไร่ ปีที่แล้วเกษตรกรปลูกข้าวเจอปัญหาภาวะน้ำท่วม มาปีนี้เจอฝนแล้ง อยากให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาช่วยเหลือพันธุ์ข้าวเพื่อหว่านปลูกรอบใหม่ อยากให้ช่วยเหลือค่าน้ำมันรถไถ ค่าปลูกและค่ายา

ภาพ/ข่าว สมภพ สินพิพัฒนฤดี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ภาคเหนือ จังหวัดอุตรดิตถ์