รำลึก ๘๖ ปี วันคล้ายวันละสังขาร ๑๙ กรกฎาคม "ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)"เดินจงกรมเรียกฝน จนเหล่าพญานาคช่วยกันพ่นน้ำ..

ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(หลวงปู่จันทร์ สิริจันโท) เป็นพระเถระอาวุโสที่ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ให้ความเคารพเลื่อมใส ดังคำเทศนาที่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน กล่าวไว้คือ.. “หลวงปู่มั่น เคารพท่านมากนะ เคารพท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ท่านพูดด้วยความเคารพเลื่อมใส ด้วยความเทิดทูนจริงๆ.."

วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๑ เป็นวันคล้ายวันละสังขารของท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(หลวงปู่จันทร์ สิริจันโท) รำลึก ๘๖ ปี พระอริยเจ้าบูรพาจารย์ผู้ทรงคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาสราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ เป็นนักปราชญ์เมืองอุบลฯ หนึ่งในสัทธิวิหาริกของ ท่านเทวธัมมี ม้าว ผู้สืบสายการปฏิบัติวงศ์ธรรมยุตินิกายทางภาคอีสานให้แพร่หลาย ท่านเจ้าคุณฯชำนาญทั้งฝ่ายคันธาถุระ และวิปัสสนาธุระ ท่านเป็นผู้ชักชวนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ให้ขึ้นไปเผยแผ่ธรรมทางภาคเหนือ จนได้ลูกศิษย์ทางภาคเหนือเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยัง ยังผลทำให้หลวงปู่มั่น ได้ไปบรรลุธรรมอรหัตผล ณ ถ้ำดอกคำ อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย

 

 

รำลึก ๘๖ ปี วันคล้ายวันละสังขาร ๑๙ กรกฎาคม "ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)"เดินจงกรมเรียกฝน จนเหล่าพญานาคช่วยกันพ่นน้ำ..

ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)

 

 

บูรพาจารย์ผู้เป็นที่ยกย่องของหลวงปู่มั่น

ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(หลวงปู่จันทร์ สิริจันโท) เป็นพระเถระอาวุโสที่ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ให้ความเคารพเลื่อมใส ดังคำเทศนาที่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน กล่าวไว้คือ.. “หลวงปู่มั่น เคารพท่านมากนะ เคารพท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ พูดคำไหนๆ แย็บออก รู้ทันที ท่านพูดด้วยความเคารพเลื่อมใส ด้วยความเทิดทูนจริงๆ คือท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ท่านหนักทั้งปฏิบัติด้วย ทั้งปริยัติด้วย ท่านเป็นแบบฉบับได้ เฉพาะอย่างยิ่งทางด้านปริยัตินำกัมมัฏฐาน คือ หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์”

และท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ก็ได้กล่าวยกย่องท่านพระอาจารย์มั่น ไว้ในที่ประชุมสงฆ์ว่า “ท่านมั่นเป็นกัลยาณมิตรควรสมาคม”

 

 

รำลึก ๘๖ ปี วันคล้ายวันละสังขาร ๑๙ กรกฎาคม "ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)"เดินจงกรมเรียกฝน จนเหล่าพญานาคช่วยกันพ่นน้ำ..

ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)

 

 

ชาติภูมิ

ท่านจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ ท่านถือกำเนิด เมื่อวันศุกร์ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะโรง พ.ศ.๒๓๙๙ ณ บ้านหนองไหล อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เมื่ออายุได้ ๑๓ ปี บรรพชาเป็นสามเณร ศึกษาพระปริยัติธรรมอยู่ในสำนักเจ้าอธิการม้าว เทวธัมมี วัดศรีทอง (วัดศรีอุบลรัตนาราม) ต.ในเมือ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ถึงรัชกาลที่ ๕ อายุ ๑๙ ปี ลาสิกขาจากสามเณรมาอยู่กับบิดามารดา ๓ ปีท่านจึงอุปสมบท ตรงกับวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖ ปีฉลู พ.ศ.๒๔๒๐ ณ วัดศรีทอง(วัดศรีอุบลรัตนาราม) จ.อุบลราชธานี โดยมี ท่านเทวธัมมี ม้าว เป็นพระอุปัชฌาย์

 

 

รำลึก ๘๖ ปี วันคล้ายวันละสังขาร ๑๙ กรกฎาคม "ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)"เดินจงกรมเรียกฝน จนเหล่าพญานาคช่วยกันพ่นน้ำ..

พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

 

 

เดินจงกรมเรียกฝน

ครั้นสมัยท่านเจ้าคุณฯอยู่ปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ตอนนั้น เชียงใหม่น้ำแล้งมาก ท่านเจ้าคุณฯต้องการเดินจงกรมเรียกฝน จึงสั่งให้หลวงปู่แหวนผู้เป็นศิษย์ ได้ทำทางจงกรมถวายท่านเจ้าคุณฯเดินบริกรรมอิติปิโส แล้วต่อด้วยพระคาถา...“อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มหิทธิกา ปุญญัง โน อนุโมทันตุ รักขันตุ โน สะทา” แล้วตั้งสัจจาธิษฐานเรียกฟ้าฝนให้มาตกที่เชียงใหม่ ครั้นนั้นหลวงปู่มั่น ได้กำหนดดู เหนือขึ้นไปบนดอยสุเทพฯก็ดี ดอยบวกห้าก็ดี เห็นมีพญานาคจำนวนล้านจำนวนโกฏิมิใช่จำนวนแสน จำนวนหมื่น พากันพ่นน้ำอยู่เต็มดอยทั้งสองจนหาที่ว่างไม่ได้อย่างไม่เคย ปรากฏมาก่อน...” นี่คือความอัศจรรย์ !!อัศจรรย์ใจจากพระมหาเถระนาม พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท)

 

 

• ได้รับอาราธนาให้มาปกครองอยู่วัดบรมนิวาส

ถึงปีกุน พ.ศ.๒๔๔๒ ทรงตั้งเป็นพระราชาคณะที่พระญาณรักขิต แล้วโปรดให้เป็นเจ้าคณะมณฑลอีสาน จึงกลับไปอยู่วัดสุปัฏน์ จังหวัดอุบลราชธานี ๕ พรรษา ภายหลังขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต กลับเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ อยู่ที่วัดเทพศิรินทร์บ้าง ไปธุดงค์บ้าง จนถึงปีมะโรง พ.ศ.๒๔๔๗ จึงโปรดให้อาราธนาไปครองวัดบรมนิวาส

 

 

รำลึก ๘๖ ปี วันคล้ายวันละสังขาร ๑๙ กรกฎาคม "ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)"เดินจงกรมเรียกฝน จนเหล่าพญานาคช่วยกันพ่นน้ำ..

ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)

 

 

ถึงปีระกา พ.ศ.๒๔๕๒ โปรดให้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ ที่พระราชกวี

ถึงรัชกาลที่ ๖ เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๕๗ ทรงโปรดให้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระเทพโมลี ต่อมาถึง พ.ศ.๒๔๕๘ ได้แต่งหนังสือ เทศน์ เห็นเป็นอันไม่ต้องด้วยรัฐประศาสนโยบายบางประการ อันเกี่ยวกับการป้องกันพระราชอาณาจักร จึงถูกถอดจากสมณศักดิ์ คราวหนึ่ง

ครั้นถึงวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ.๒๔๕๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กลับตั้งให้เป็นพระราชาคณะ ที่พระธรรมธีรราชมหามุนี มีสมณศักดิ์เสมอชั้นเทพ และโปรดให้ครองวัดบรมนิวาสตามเดิม

ถึงปี พ.ศ.๒๔๖๖ โปรดให้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระโพธิวงศาจารย์ เสมอตำแหน่งชั้นธรรม

 

 

รำลึก ๘๖ ปี วันคล้ายวันละสังขาร ๑๙ กรกฎาคม "ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)"เดินจงกรมเรียกฝน จนเหล่าพญานาคช่วยกันพ่นน้ำ..

ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)

 

 

ครั้นถึง พ.ศ.๒๔๖๘ ทรงพระกรุณาโปรดให้เลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ ตำแหน่งเจ้าคณะรองฝ่ายอรัญญวาสี มีนามในสัญญาบัตรว่า "พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ญาณวิสุทธจริยาปรินายก ตรีปิฏกคุณาลังการ นานาสถานราชคมนีย์ สาธุการีธรรมาดร สุนทรศีลาทิขันธ์"

ท่านได้เคยรับราชการทางคณะสงฆ์ ในหน้าที่สำคัญๆ หลายตำแหน่งคือ เป็นเจ้าคณะใหญ่ เมืองนครจำปาศักดิ์ เป็นเจ้าคณะมณฑลอีสาน มณฑลจันทบุรี มณฑลราชบุรี และ มณฑลกรุงเทพฯ

 

 

รำลึก ๘๖ ปี วันคล้ายวันละสังขาร ๑๙ กรกฎาคม "ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)"เดินจงกรมเรียกฝน จนเหล่าพญานาคช่วยกันพ่นน้ำ..

ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)

 

 

• ผู้มีขันติบารมีสูง

ครั้งหนึ่งที่แสดงถึงความมีขันติอดทนต่อเวทนาสูง คือ เมื่อช่วงบั้นปลายชีวิต ท่านเจ้าคุณฯขึ้นเทศน์ธรรมะโปรดพุทธศาสนิกชน ขณะขึ้นธรรมมาสน์ หัวเข่าไปกระแทกขอบธรรมมาสน์เข้าจนลูกสะบ้าหัวเข่าหลุด ท่านก็สู้อดทนอดกลั้น แสดงธรรมไปด้วยอาการปรกติไปจนจบ พอแสดงธรรมจบท่านจึงได้บอกกับโยมว่าหัวเข่าอาตมาหลุด โยมได้ยินแล้วก็พากันตกใจ ช่วยกันพยุงท่านออกจากธรรมาสน์ แล้วพาหมอมาดูอาการท่านฯ

 

 

• เป็นสมณะผู้สมควรแก่การสักการะยิ่ง

ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ เป็นผู้ยินดีในสัมมาปฏิบัติ สันโดษมักน้อยใฝ่ใจในสัลเลขปฏิบัติ ประกอบด้วยธุดงควัตรเที่ยวรุกขมูล รักษาขนบธรรมเนียมของสมณะที่ดีไว้มั่นคง มีสติสัมปชัญญคุณทุกเมื่อ มีความเยือกเย็นอาจหาญอดกลั้นทนทานต่อสถานการณ์ต่างๆ แม้ในยามอาพาธสุดท้ายพิษของโรครุนแรงด้วยทุกขเวทนายิ่งนัก ท่านยังได้ให้โอวาทแก่ผู้มาเยี่ยมเยือนว่า “เราเป็นนักรบ ได้ฝึกหัดวิธีรบไว้ก็ไม่เสียที ได้ผจญต่อพยาธิธรรมและมรณธรรมจริงๆ ก็อาจหาญอดกลั้นทนทานไม่สะทกสะท้าน มีสติสัมปชัญญคุณรอบคอบไม่หลงใหลไม่ฟั่นเฟือน ไม่กระวนกระวาย หากถึงกาลแตกดับ ก็ไปด้วยความสงบเงียบหายดุจหลับไป" จึงได้ชื่อว่า ท่านเป็นผู้ปฏิบัติได้ผลโดยควรแก่ภาวะโดยแท้

 

 

• มรณกาล

ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๗๕ ณ กุฏิหอเขียว วัดบรมนิวาส กรุงเทพมหานคร สิริอายุ ๗๖ ปี ๓ เดือน พรรษา ๕๕ ตลอดชีวิตสมณใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ของท่านเจ้าคุณอุบาลีฯนี้ ท่านทำคุณประโยชน์ให้กับบวรพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก

 

 

รำลึก ๘๖ ปี วันคล้ายวันละสังขาร ๑๙ กรกฎาคม "ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)"เดินจงกรมเรียกฝน จนเหล่าพญานาคช่วยกันพ่นน้ำ..

ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)

 

 

• โอวาทธรรมคำสอน

“..ลูกศิษย์ของเราพึงตั้งใจดำเนินตาม ความดีเหล่านี้เป็นของกลาง ใครเอาไปไหนไม่ได้ ใครเกิดขึ้น มาปฏิบัติได้ ก็จักได้รับผล คือความดีอยู่อย่างนี้ตลอดกัปป์ตลอดกัลป์..”

"..ที่ว่าร่างกายจิตใจเป็นแก้วสารพัดนึกนั้น พึงพิเคราะห์ดู เรามีตา นึกจะดูอะไรก็ดูได้เรามีหู นึกจะฟังอะไรก็ฟังได้ เรามีจมูก อยากจะรู้กลิ่นอะไรก็รู้ได้ เรามีปาก มีลิ้น นึกอยากจะรู้รสอะไรก็รู้ได้ นึกอยากจะกินอะไรก็กินได้ เรามีมือ นึกอยากจะทำอะไรก็ทำได้ เรามีเท้านึกอยากเดินไปไหนก็ไปได้ เรามีจิตมีใจ นึกอยากจะน้อมนึกตรึกตรองอะไร ก็ได้สมประสงค์ ผู้รู้ตนว่า เป็นของวิเศษอย่างนี้ ย่อมเป็นเหตุให้ได้ความสุข คือ ใช้ตามหน้าที่ ไม่ให้วัตถุเหล่านั้นเป็นข้าศึกแก่ตน คือ เกิดปฏิฆะโทมนัสยินดี ยินร้ายเพราะวัตถุของตน นิสัยของผู้ฉลาด ย่อมไม่ให้วัตถุวิเศษของตนเป็นข้าศึกแก่ตน อารมณ์ที่ผ่านไปผ่านมา เลือกเอาแต่ส่วนที่เป็นประโยชน์ ส่วนที่จักเป็นโทษ จงปล่อยผ่านไปเสีย ไม่รับไม่เก็บเข้ามาไว้ คือ หัดชำระวัตถุภายในนี้ ให้ผ่องใส สมกับที่ว่า เป็นแก้วสารพัดนึกอยู่ทุกเมื่อ อาศัยความหัด บ่อยๆ สติก็แก่ขึ้น วัตถุภายในก็ปราศจากโทษ คือ ไม่เป็นข้าศึกแก่ตน ให้ความสุขแก่ตนทุกอิริยาบถ จึงสมกับพุทธโอวาท ที่ทรงสั่งสอนว่า

อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนแล เป็นที่พึ่งแห่งตน

 

 

รำลึก ๘๖ ปี วันคล้ายวันละสังขาร ๑๙ กรกฎาคม "ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)"เดินจงกรมเรียกฝน จนเหล่าพญานาคช่วยกันพ่นน้ำ..

ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)

 

 

ถ้าว่าโดยสมมติ สกลกายนี้เองเป็นตน ถ้าว่าโดยสกลกายนี้เองเป็นธรรม ที่ว่า อตฺตสรณา ธมฺมสรณา ให้มีตนเป็นที่ระลึกนี้ คือ ให้เห็นว่า ตนเป็นธรรม ธรรมเป็นตน ความรู้ธรรมเป็นพุทธะ สกลกายที่ทรงคุณความดีไว้เป็นธรรมะ ความประพฤติให้คุณความดี มีขึ้นในตนเป็นสังฆะ ผู้ที่มีพุทธะ ธรรมะ สังฆะในตนอย่างนี้ ชื่อว่า ผู้ถึงไตรสรณคมน์ในชาตินี้

 

 

รำลึก ๘๖ ปี วันคล้ายวันละสังขาร ๑๙ กรกฎาคม "ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)"เดินจงกรมเรียกฝน จนเหล่าพญานาคช่วยกันพ่นน้ำ..

ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)

 

 

ตลอดชาติชั้นศีล ชั้นสมาธิ ชั้นปัญญา ชั้นวิมุตติ ชั้นวิมุตติญาณทัสสนะ สุดแท้แต่วาสนาของใครจะถึงได้ในชั้นใด จะต้องได้รับผล คือ ความสุขตามชั้นตามภูมิของตนทั้งนั้น อย่าเป็นคนสงสัย ลังเลยึดให้มั่นคั้นให้ตาย อย่างมงายเชื่อเกจิอาจารย์ที่สอน นอกรีตนอกทาง อย่าพากันหลงใหลไปตามเขา เพราะพระนิพพานของ พระพุทธเจ้า ที่เรียกว่า นิพพานสมบัติ คือ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขา และ โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ มีสติปัฏฐาน เป็นต้น มีอัฏฐังคิกมรรค เป็นที่สุด เหล่านี้เป็นนิพพานสมบัติ อย่างอื่นๆ ถ้าไม่เป็นไปตามนี้เป็นอวิชชาทั้งนั้น

พวกเราเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ต้องประพฤติตนให้มั่งมีเหมือนพระพุทธเจ้า ทั้งสมบัติภายนอกแลสมบัติภายใน.."

 

 

อ่านเพิ่มเติม...  ๓ คาถาเด็ด..ครอบคลุมทุกประการ "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต"

 

 

ขอขอบพระคุณท่่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาข้อมูล

ท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐาน

เพื่อเผยแผ่เป็นสังฆบูชา