- 19 ก.ค. 2561
จากกรณีนาง ลีนา จังจรรจา หรือ ลีน่า จัง ได้โพสต์คลิปวีดีโอผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ขณะเจ้าตัวและเยาวชนอีก 8 คน ยืนอยู่หน้าถ้ำ และตะโกนว่า “ติดถ้ำ อยากดัง อยากไปดูบอลโลก สื่อจ๋าช่วยไปทำข่าวหน่อยจ้า”
จากกรณีนาง ลีนา จังจรรจา หรือ ลีน่า จัง ได้โพสต์คลิปวีดีโอผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ขณะเจ้าตัวและเยาวชนอีก 8 คน ยืนอยู่หน้าถ้ำ และตะโกนว่า “ติดถ้ำ อยากดัง อยากไปดูบอลโลก สื่อจ๋าช่วยไปทำข่าวหน่อยจ้า”
ต่อมา เมื่อวานนี้ (18 ก.ค.) นายรุ่งโรจน์ อัศวกุลธารินท์ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มอบหมายให้นายเอกฤทธิ์ ดวงมาลา นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสามร้อยยอด ให้ดำเนินคดีนางลีนา จังจรรจา อดีตผู้สมัคร ส.ว. และผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504
โดยเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบพบว่าไม่มีการขออนุญาตในการถ่ายทำ ประกอบกับมีการส่งเสียงดังอื้อฉาว พิจารณาแล้วกรณีดังกล่าวเป็นการกระทำผิดตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16(13) มาตรา 16(17) มาตรา 18 และระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติฯ ว่าด้วยการเข้าไปถ่ายทำภาพยนต์ในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2552 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จึงเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ เปิดเผยกับทีมข่าวรายการทุบโต๊ะข่าวว่า หลังจากทราบข่าวว่า ลีน่า จัง รู้สึกเห็นใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมนี้และหากเป็นไปได้ไม่ควรให้เกิดขึ้นอีก และหากดูตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 จะพบว่าการดำเนินคดีไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด โดยมาตรา 16 อนุ 13 ระบุว่า การเข้าไปถ่ายทำภายในอุทยานแห่งชาติโดยจะทำเป็นคลิปเผยแพร่ต้องมีการขออนุญาตเจ้าหน้าที่ หากไม่ขออนุญาตจะต้องถูกปรับไม่เกิน 500 บาท แต่ถ้าถ่ายไว้เก็บดูส่วนตัวนั้นไม่ต้องขออนุญาต
ส่วนอีกกรณีหนึ่งคือคุณลีน่าไปส่งเสียงดังภายในถ้ำพระยานคร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามมาตรา 16 อนุ 17 ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับเด็กที่ปรากฎในคลิปหากมีตะโกนโวยวายก็จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ เรื่องการส่งเสียงดังภายในถ้ำเช่นกัน
ขอบคุณ รายการทุบโต๊ะข่าว อัมรินทร์ทีวี HD34