นายกสมาคมมัธยมศึกษาอุดรหนองบัวลำภูแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยปฏิญญามหาสารคามเป็นเพียงแค่คนกลุ่มเล็กๆที่ทำให้ครูส่วนใหญ่เสียหาย

     เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2561  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัดหนองบัวลำภู (สกสค.จ.หนองบัวลำภู) ภายในศูนย์ราชการจังหวัดหนองบัวลำภู นายคำพันธ์ พระเอก นายกสมาคมชาวมัธยมศึกษาอาวุโสแห่งอุดรธานีและหนองบัวลำภู (สมออน.จ.อุดรธานี-หนองบัวลำภู) พร้อมคณะเดินทางเข้าพบ ดร.สุเทพ บุญเติม ผอ.สกสค.จ.หนองบัวลำภู พร้อมยื่นแถลงการณ์ของกรณีมีครูในจังหวัดมหาสารคาม ประกาศปฏิญญามหาสารคาม ไม่ยอมจ่ายหนี้ ช.พ.ค. และช.พ.ส. โดยอ้างว่าเงินกู้ดอกเบี้ยโหด เนื่องจากส่งไปแล้ว 7 ปี แต่เงินต้นลดเพียงแสนเดียว สร้างภาระหนี้สินทับซ้อนนั้น

 

นายคำพันธ์ พระเอก นายกสมาคมชาวมัธยมศึกษาอาวุโสแห่งอุดรธานีและหนองบัวลำภู  กล่าวว่าจากกรณีดังกล่าวตนเองได้เดินทางมาพบ ผอ.สกสค.จ.หนองบัวลำภู เพื่อคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับประกาศปฏิญญามหาสารคาม สรุปใจความจากปฏิญญามหาสารคามว่า  ขอให้รัฐบาลและธนาคารออมสินพักหนี้ในโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.ทุกโครงการให้แก่ครูผู้เป็นลูกหนี้ ตั้งแต่วันที่ 1  ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป และในขณะเดียวกันก็ได้แถลงว่าจะงดส่งเงินชำระหนี้ให้แก่ธนาคารออมสินตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป จากปฏิญญามหาสารคาม ดังกล่าว ก่อให้เกิดกระแสสังคมไม่เห็นด้วยอย่างแรง ในมุมมองของจรรยาบรรณครูซึ่งในส่วนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งในระบบและข้าราชการบำนาญของจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดหนองบัวลำภู ที่เป็นลูกหนี้ของโครงการดังกล่าวมองว่าเราเป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติ เป็นต้นแบบของสังคมในการบอกสอนลูกศิษย์ให้ทำดีทำในสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อเป็นหนี้จะต้องชดใช้หนี้ตามกฎหมายที่กำหนด  ด้วยเหตุนี้ นายคำพันธ์ พระเอก นายกสมาคมชาวมัธยมศึกษาอาวุโสแห่งอุดรธานีและหนองบัวลำภู จึงได้ออกแถลงการณ์ด้วยกัน 4 ข้อ คือ 1.ไม่เห็นด้วยกับปฏิญญามหาสารคามโดยชิ้นเชิง  2 .ปฏิญญาฯนี้นำมาซึ่งความเสื่อมเสียซึ่งศักดิ์ศรีและจรรยาบรรณของความเป็นครู ผู้ที่สังคมยอมรับยกย่องให้เป็นปูชนียบุคคล อย่างยิ่ง  3.ปฏิญญาฯนี้ เป็นเพียงข้อเรียกร้องของคณะครูจำนวนหนึ่งในจังหวัดมหาสารคามเท่านั้น ไม่ใช่ของคณะครูทั่วประเทศแต่อย่างใด  4.ขอเรียกร้องให้คณะครูทุกคนรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไปภายใต้เกียรติยศและศักดิ์ศรีของความเป็นครูอย่างแท้จริง

 

นายคำพันธ์ พระเอก นายกสมาคมชาวมัธยมศึกษาอาวุโสแห่งอุดรธานีและหนองบัวลำภู  กล่าวว่าจากกรณีดังกล่าวตนเองได้เดินทางมาพบ ผอ.สกสค.จ.หนองบัวลำภู เพื่อคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับประกาศปฏิญญามหาสารคาม สรุปใจความจากปฏิญญามหาสารคามว่า  ขอให้รัฐบาลและธนาคารออมสินพักหนี้ในโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.ทุกโครงการให้แก่ครูผู้เป็นลูกหนี้ ตั้งแต่วันที่ 1  ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป และในขณะเดียวกันก็ได้แถลงว่าจะงดส่งเงินชำระหนี้ให้แก่ธนาคารออมสินตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป จากปฏิญญามหาสารคาม ดังกล่าว ก่อให้เกิดกระแสสังคมไม่เห็นด้วยอย่างแรง ในมุมมองของจรรยาบรรณครูซึ่งในส่วนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งในระบบและข้าราชการบำนาญของจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดหนองบัวลำภู ที่เป็นลูกหนี้ของโครงการดังกล่าวมองว่าเราเป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติ เป็นต้นแบบของสังคมในการบอกสอนลูกศิษย์ให้ทำดีทำในสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อเป็นหนี้จะต้องชดใช้หนี้ตามกฎหมายที่กำหนด  ด้วยเหตุนี้ นายคำพันธ์ พระเอก นายกสมาคมชาวมัธยมศึกษาอาวุโสแห่งอุดรธานีและหนองบัวลำภู จึงได้ออกแถลงการณ์ด้วยกัน 4 ข้อ คือ 1.ไม่เห็นด้วยกับปฏิญญามหาสารคามโดยชิ้นเชิง  2 .ปฏิญญาฯนี้นำมาซึ่งความเสื่อมเสียซึ่งศักดิ์ศรีและจรรยาบรรณของความเป็นครู ผู้ที่สังคมยอมรับยกย่องให้เป็นปูชนียบุคคล อย่างยิ่ง  3.ปฏิญญาฯนี้ เป็นเพียงข้อเรียกร้องของคณะครูจำนวนหนึ่งในจังหวัดมหาสารคามเท่านั้น ไม่ใช่ของคณะครูทั่วประเทศแต่อย่างใด  4.ขอเรียกร้องให้คณะครูทุกคนรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไปภายใต้เกียรติยศและศักดิ์ศรีของความเป็นครูอย่างแท้จริง

 

 

ภาพ/ข่าว วรรธนะ ทองดี  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์  จ.หนองบัวลำภู