- 21 ก.ค. 2561
"บิ๊กตู่" ยิ้มร่า "ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ เอดีบี" ปรับตัวเลขเศรษฐกิจไทยใหม่-ขยายตัวดีขึ้น จะขยายตัวถึงร้อยละ 4.2 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เพียงร้อยละ 4.0
"บิ๊กตู่" ยิ้มร่า "ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ เอดีบี" ปรับตัวเลขเศรษฐกิจไทยใหม่-ขยายตัวดีขึ้น จะขยายตัวถึงร้อยละ 4.2 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เพียงร้อยละ 4.0
วันนี้ (21 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยว่า "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี รู้สึกยินดีเมื่อรับทราบผลการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยของ "ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย" หรือ "เอดีบี" ที่ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2561 จะขยายตัวถึงร้อยละ 4.2 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เพียงร้อยละ 4.0 เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคอาเซียนที่เอดีบีปรับตัวเลขเพิ่มขึ้น
“นายกฯ เน้นย้ำว่า ปัจจัยที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ เป็นเพราะไทยเรามีการส่งออกที่แข็งแกร่ง โดยปรับตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ 5 ในช่วงไตรมาสแรกของปี เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชนและการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น” โฆษกรัฐบาล ระบุ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้รับรายงานว่า ขณะนี้ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐยังไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจเอเชียและประเทศไทย โดยเอดีบียังคงคาดการณ์การขยายตัวของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียในปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 6
และหากพิจารณาย้อนหลังไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยขยายตัวถึงร้อยละ 6-7 แต่ตกต่ำที่สุดในช่วงที่มีวิกฤตการณ์ทางการเมืองจนเหลือเพียงร้อยละ 0.8 และเมื่อรัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศได้ทำให้เศรษฐกิจค่อย ๆ ขยายตัวขึ้นถึงร้อยละ 4.0 และมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอาจจะเห็นว่าตัวเลขการขยายตัวสูงกว่าไทย แต่ความจริงแล้ว ขนาดเศรษฐกิจของเราโตกว่าเวียดนาม 12 เท่า โตกว่าเมียนมา 7 – 8 เท่า โตกว่ากัมพูชา 20 เท่า และโตกว่า สปป.ลาว 30 เท่า ดังนั้น เมื่อมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการผลิตของประเทศเหล่านี้ขยายตัวเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ตัวเลขการขยายตัวขยับขึ้นทันที
“มูลค่าการผลิตโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมของประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ รองเท้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งประเทศไทยผ่านจุดนั้นมาแล้ว วันนี้เรากำลังจะเปลี่ยนประเทศให้ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่จะช่วยให้ไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางอย่างยั่งยืน” พล.ท.สรรเสริญ กล่าวทิ้งท้าย