มาตามนัด?! "เต้น" รับลูก"นคร"งัด"ทฤษฏีสมคบคิด"ขย่มซ้ำ ปชป. ขณะพรรคฯ สีฟ้าฮึ่ม ฟ้องคนพูดแน่ "ป้ายสีพรรค-เอาใจนายใหญ่"  

มาตามนัด?! "เสี่ยเต้น ณ นปช." รับลูก "นคร มาฉิม" หลังออกมาถล่มพรรคเก่าที่เคยสังกัด โดยแกนนำแดงเออออตามแบบนัดกันมา และงัด "ทฤษฏีสมคบคิด" มาอ้างว่า...นี่แหล่ะคือการรวมหัวล้มทักษิณ...เจ้านายของเขา ขณะนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองเลขาฯ ปชป.จ่อฟ้อง "นคร" ป้ายสีพรรค-เอาใจนายใหญ่ ยันกำลังให้ฝ่ายกฎหมายดูประเด็นไหนที่ที่บิดเบือนความจริง ทำให้พรรคเสียหาย

 

มาตามนัด?! "เสี่ยเต้น ณ นปช." รับลูก "นคร มาฉิม" หลังออกมาถล่มพรรคเก่าที่เคยสังกัด โดยแกนนำแดงเออออตามแบบนัดกันมา และงัด "ทฤษฏีสมคบคิด" มาอ้างว่า...นี่แหล่ะคือการรวมหัวล้มทักษิณ...เจ้านายของเขา ขณะนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองเลขาฯ ปชป.จ่อฟ้อง "นคร" ป้ายสีพรรค-เอาใจนายใหญ่ ยันกำลังให้ฝ่ายกฎหมายดูประเด็นไหนที่ที่บิดเบือนความจริง ทำให้พรรคเสียหาย


วันนี้ (28 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" แกนนำเสื้อแดง ได้ออกมาแสดงความเห็นกรณี "นายนคร มาฉิม" ออกมาถล่มพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งกำลังเป็นประเด็นทางการเมืองขณะนี้ว่า หากมองย้อนตั้งแต่ปี 2548 ตอนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)  เริ่มชุมนุมขับไล่รัฐบาลทักษิณจนถึงปัจจุบันอย่างยอมรับความจริงจะเห็นว่า สิ่งที่นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์พูดคือ คำอธิบายที่ตรงไปตรงมาถึงทฤษฎีสมคบคิดทางการเมืองที่ นปช. และอีกหลายคนพูดมาตลอด เมื่อยืนยันโดยอดีต ส.ส. หลายสมัยของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ทำให้เรื่องนี้ชัดเจนมากขึ้น บทบาทของพรรคประชาธิปัตย์ต่อการยึดอำนาจทั้ง 2 ครั้งเป็นแบบเดียวกันคือ ร่วมมือกับกลุ่มจัดตั้งเพื่อชุมนุมขับไล่รัฐบาล บอยคอตการเลือกตั้ง เดินเกมเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และรอรับดอกผลจากการเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งด้วยกติกาของฝ่ายยึดอำนาจ 

 

"เพียงแต่คราวนี้ คสช. บอกว่า คมช. ทำเสียของจึงกำหนดให้มีนายกฯ คนนอกได้ และมีแนวโน้มว่า ผู้มีอำนาจจะไปต่อ สถานะของพรรคประชาธิปัตย์จึงเปลี่ยนจากชิ้นส่วนหลักเป็นเพียงอะไหล่ แกนนำหลักอย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งออกตัวมาไกลจึงต้องแปลงสภาพตัวเอง เป็นหุ้นส่วนอำนาจกับคณะรัฐประหาร ซึ่งถือเป็นความอัปยศอย่างยิ่ง ที่นักการเมืองที่ถือกำเนิดจากวิถีทางประชาธิปไตยเป็นไส้ศึกทำลายประชาธิปไตยเสียเอง" แกนนำเสื้อแดง กล่าว พร้อมระบุด้วยว่า

 

ตนมองว่า นอกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว กลุ่มพลังฝ่ายอนุรักษ์นิยมทั้งหลายที่ถูกพูดถึง ก็ควรทบทวนตัวเอง การใช้อำนาจบิดเบือนหลักการต้องยุติ ถ้าวิธีนี้ดีจริงบ้านเมืองคงเจริญไปแล้ว มาตรฐานแบบชื่นชมการเลือกตั้งในมาเลเซีย แต่ประนามคนอยากเลือกตั้งในไทย ไม่ได้อธิบายว่า คนฐานะดี การศึกษาสูง จะมีสำนึกเรื่องประชาธิปไตยมากกว่าชาวบ้านคนธรรมดา ความเชื่อว่า คนเท่ากันและเคารพในความเป็นมนุษย์ต่อกันต่างหาก คือ อนาคตที่งดงามของสังคมไทย

 

อย่างไรก็ตาม ต่อกรณีดังกล่าว "นายนราพัฒน์ แก้วทอง" รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมากล่าวถึงกรณีเดียวกันนี้ว่า ไม่ได้มีเหตุการณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์หรือตุลาการ ร่วมมือกันล้มรัฐบาลทักษิณตามที่นายนครอ้าง ซึ่งตนก็อยู่พรรคประชาธิปัตย์มานาน ผ่านการเมืองมาตลอดไม่เคยมีเรื่องนี้ ดังนั้นเรื่องนี้คงจะต้องให้ประชาชนใช้พิจารณาว่าสิ่งที่นายนครพูดออกมาเจตนาพูดเพื่ออะไร


"อยากจะบอกนายนครว่าอย่ายกเรื่องที่ไม่เป็นความจริงมาพูด เพื่อจะเอาใจ เพื่อทำให้ตัวเองมีบทบาทหรือเอาใจอดีตนายกรัฐมนตรี อยากให้พิจารณาคำพูดของตัวเองและจะต้องออกมารับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้ทางพรรคเองคงจะต้องให้ทีมฝ่ายกฎหมายดูว่าประเด็นไหนที่นายนครพูดออกมาบิดเบือนความจริง จะต้องมีการฟ้องร้องเพราะทำให้พรรคเสียหาย ซึ่งที่ผ่านมาพรรค เองไม่ได้ให้ความสำคัญกับนายนครอยู่แล้วหลังจากไปอยู่พรรคอื่น" รองเลขาฯ ปชป. ระบุ ทั้งยืนยันด้วยว่า


การที่นายนครออกมาพูดแบบนี้เพื่อหวังตำแหน่งทางการเมือง แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับอำนาจวาสนาว่าจะได้หรือไม่ ผมมองว่าความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย ต้องรอดูกันยาวๆ โดยนายนคร เป็นเพียงอดีต ส.ส.ปชป. และออกจากพรรคไปแล้วเพื่อไปอยู่พรรคชาติพัฒนา หลังจากนั้นนายนครก็ถูกดูดไปอยู่พรรคเพื่อไทย