คดีพลิก? จ่อยิง2ศพ ไม่ใช่คู่รัก! ด้าน แม่แฉ! "เสี่ยอ้วน" สุดชั่ว ชอบทำร้ายร่างกาย ติดพันลูกสาว โอนเงินให้ 1ล้านไว้ใช้ แต่ปฏิเสธ!!

แม่ ปลาย-ฟอส เผย ทั้ง 2 ไม่ใช่คู่รัก เป็นแค่เพื่อนสนิท แฉยับ วีรกรรมสุดชั่ว "เสี่ยอ้วน" ชอบทำร้ายร่างกาย ติดพันลูกสาว เคยโอนเงินให้ 1ล้านไว้ใช้ แต่ปฏิเสธ

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุอุกฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนยิง นายอนันตชัย หรือ ฟอส จริตรัมย์ อายุ 20 ปี และ น.ส.ปวีณา หรือ ปลาย นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี ชาวอำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้งสองยังเป็นคู่รักกันจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2561 ที่ลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งตำรวจได้จับทีมไล่ล่าคนร้ายที่คาดว่าเป็นเสี่ยใหญ่ที่จังหวัดภูเก็ต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

คดีพลิก? จ่อยิง2ศพ ไม่ใช่คู่รัก! ด้าน แม่แฉ! "เสี่ยอ้วน" สุดชั่ว ชอบทำร้ายร่างกาย ติดพันลูกสาว โอนเงินให้ 1ล้านไว้ใช้ แต่ปฏิเสธ!!

คดีพลิก? จ่อยิง2ศพ ไม่ใช่คู่รัก! ด้าน แม่แฉ! "เสี่ยอ้วน" สุดชั่ว ชอบทำร้ายร่างกาย ติดพันลูกสาว โอนเงินให้ 1ล้านไว้ใช้ แต่ปฏิเสธ!!

โดยล่าสุดจากเรื่องดังกล่าวนั้น นางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ แม่ของน้องปลายได้เปิดเผยเรื่องดังกล่าวว่า ปลายและฟอส เป็นเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ซึ่งที่ผ่านมาก็จะเรียนอยู่ที่โรงเรียนประจำอำเภอ และได้ไปเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานีประมาณ 1 เทอมแล้วลาออก เพราะต้องการที่จะหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัวด้วยการไปทำงานตามสถานบันเทิง โดยเฉพาะที่ จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ต้นปี 2559 เพราะพี่สาวที่รู้จักกันในหมู่บ้านทำงานที่นั่นบอกได้เงินดี และที่ผ่านมาก็ส่งเงินกลับบ้านเดือนละ 2-3 หมื่นบาท ที่แรกก็ตกใจจึงได้แอบไปดูลูกเพราะกลัวว่าจะไปขายตัว แต่ลูกก็ยืนยันว่าในชีวิตไม่เคยคิดที่จะขายตัวจึงปล่อยให้ลูกทำงาน และลูกบอกว่ามีเสี่ยอ้วนมาติดพันและบอกว่าต้องการที่จะได้น้องปลายเป็นเมีย แต่ตนให้ไม่ได้เพราะหากต้องการก็จะต้องมาสู่ขอ แต่ปรากฏว่าเมื่อถามลูกสาวเค้าก็ไม่ยอมรับเพราะเสี่ยอ้วนเป็นคนอารมณ์รุนแรงมีอิทธิพลในจังหวัดภูเก็ต

“ความรุนแรงเริ่มเกิดขึ้นในช่วง ปลายปี 2559 ลูกสาวได้โทรมาเล่าให้ฟังตลอดว่าทุกครั้งที่ “เสี่ยอ้วน” เห็นลูกสาวไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนก็จะเดินเข้าไปฉุดกระชาก บางครั้งก็จะเดินเข้าไปบีบคอ ทำร้ายร่างกาย ปลายปี 2560 จึงได้ไปทำงานที่ จังหวัดนครปฐม แต่เสี่ยอ้วนก็ยังคงติดตามหา จนในช่วงต้นปี 2561 ตนกับลูกสาวมีความคิดที่จะซื้อรถลูกสาวก็ได้บอกว่าจะโอนเงินมา และเสี่ยอ้วน ก็รู้ว่าจะซื้อรถ และบอกว่าจะโอนเงินให้ไปซื้อรถ 1 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้นครอบครัวปฏิเสธ แต่แล้วก็มีเงินเข้ามาในบัญชีถึง 1 ล้านบาท ซึ่งเสี่ยอ้วนก็โทรมาบอกว่าให้พ่อกับแม่ไปซื้อรถ” นางวันเพ็ญ กล่าว
 

โดย นางวันเพ็ญ นาเมือรักษ์ แม่น้องปลาย ยืนยันว่า ครอบครัวและน้องปลายไม่เคยคิดที่จะไปปอกลอกเลย แต่เสี่ยอ้วนแม้แต่หยิบยืนเงินให้ทั้งที่น้องปลายปฏิเสธเหมือนกับเป็นการจะใช้เงินซื้อลูกสาว แต่ลูกสาวไม่ชอบเพราะเป็นผู้มีอิทธิพลจึงพยามออกห่าง แต่ก็ต้องมาเจอเช่นนี้ ขอให้ตำรวจจับคนร้ายมาให้ได้และให้เสี่ยอ้วนมารับกรรม ความเสียใจนั้น หากฆ่าคนไม่ผิดกฎหมายตนก็อยากจะฆ่ามันให้ตายเหมือนกันหากไม่ผิดกฏหมาย สิ่งที่ห่วงขณะนี้คือความยุติธรรมเพราะเสี่ยอ้วนเคยโทรมาขู่ว่าเป็นผู้มีอิทธิพล เงินสามารถซื้อได้ทุกเรื่องและเคยซื้อตำรวจมาแล้วเพราะก่อนหน้ายิงคนตายก็ไม่ติดคุก แต่ก็เชื่อว่ากฎหมายจะดำเนินคดีได้

 

ขอบคุณเนื้อหาจาก แนวหน้า 

 

 

ด้าน นางจอมศรี ชมพูพื้น อายุ 43 ปี แม่ฟอส กล่าวว่า ตั้งแต่รู้ข่าวว่าลูกชายถูกยิงตายไปกับน้องปลายรู้สึกเสียใจมาก และไม่เข้าใจว่ายิงลูกชายทำไม เพราะทั้งฟอสและปลาย ไม่ใช่คู่รักกัน เป็นเพื่อนสนิทเป็นญาติด้วยซ้ำไป เพราะพ่อของตนกับพ่อของน้องปลายเป็นพี่น้องกัน ซึ่งทั้งคู่ก็เติบโตมาด้วยกันอีกทั้งลูกชายจะมีนิสัยเป็นผู้หญิง และชอบแต่งหญิง เมื่อมีงานรำก็จะแต่งหญิงออกไปรำ เพราะอะไรที่ทำแล้วได้เงินลูกชายก็จะทำเพราะเค้ารักแม่

“ตนอยากถามว่ามายิงลูกของฉันทำไม เค้าไปทำอะไรให้ ไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย ลูกชายจะออกเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำทำไมถึงทำอย่างนี้ ขอให้ผู้ที่ได้ยินข่าวนี้ให้ช่วยติดตามจับตัวคนร้ายมาลงโทษให้ด้วย”