ย้อนรอยมหากาพย์คดี เณรคำ สู่โทษจำคุก 114 ปี

   เรียกว่าเป็นคดีที่หลายคนต่างเฝ้ารอลุ้นผลสรุปมากที่สุดอีกคดีหนึ่งกับกรณี นายวิรพล  สุขผล หรือฉัตติโก เป็นที่รู้จักในชื่อ เณรคำ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าขันติธรรม โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 61 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษา

 

     เรียกว่าเป็นคดีที่หลายคนต่างเฝ้ารอลุ้นผลสรุปมากที่สุดอีกคดีหนึ่งกับกรณี นายวิรพล  สุขผล หรือฉัตติโก เป็นที่รู้จักในชื่อ เณรคำ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าขันติธรรม โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 61 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง เณรคำ ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2552 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน จนมีผู้เสียหาย 29 ราย โดยการชักชวนให้ประชาชน นำเงินทองและทรัพย์สินอื่นๆ ให้กับเณรคำ ที่วัดป่าขันติธรรม รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 28,649,553 บาท ยังได้มีการโอนเงิน 1,130,000 บาท ไปซื้อรถยนต์ 1 คัน  รถปอร์เช่ รวมรถที่ซื้อทั้งหมด 10 คัน

     ทั้งยังมีการหลอกให้ประชาชนนั้นหลงเชื่อในเรื่องของศรัทธาบริจาคเงินนำไปสร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ ต้องใช้หยกเขียวแท้จากอิตาลีเท่านั้น พร้อมก่อสร้างเสาแก้วมรกต 199 ต้น เฉลี่ยเป็นเงินต้นละ 3 แสนบาท รูปหล่อพระทองคำ สร้างวัดที่ จ.สุพรรณบุรี และขยายวัดสร้างสาขาเพิ่มอีก 1 สาขา ที่ จ.อุบลราชธานี ทั้งยังนำเงินที่ประชาชนบริจาคไปซื้อเรือจากสหรัฐ โดยทั้งหมดนั้น เณรคำได้มีการหลอกประชาชนว่านิมิตเห็นพระอินทร์

 

ย้อนรอยมหากาพย์คดี เณรคำ สู่โทษจำคุก 114 ปี

ย้อนรอยมหากาพย์คดี เณรคำ สู่โทษจำคุก 114 ปี

 

      หลังศาลพิจารณาความผิดของเณรคำ หรือนายวิรพล  สุขผล ได้ข้อสรุปจากความผิดทั้งหมด สั่งจำคุกทั้งสิ้น 114 ปี มีข้อหาดังนี้ ฉ้อโกงประชาชน รวม 29 กระทงๆ ละ 3 ปี ราว 87 ปี , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 3 ปี , ฟอกเงิน  12 กระทงๆ ละ 2 ปี จำคุก 24 ปี รวมทั้งหมด 114 ปี แต่ตามกฎหมายเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว จำคุกสูงสุดตาม ม.91(2) ได้ 20 ปี  และให้ชดใช้เงินกับผู้เสียหายทั้ง 29 ราย ตามจำนวน 

 

     หากเราย้อนไปในปี 2556 เณรคำเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากสื่อสังคมออนไลน์ จากปรากฏคลิปของพระรูปหนึ่งขณะนั่งอยู่บนเครื่องบินเจ็ท ทำให้เป็นข่าวดังและหลายคนตั้งคำถามว่าเหมาะสมแล้วหรือกับพฤติกรรมที่ยังครองอยู่ในผ้าเหลือง ต่อมาทาง DSI ได้ตามสืบค้นข้อมูล ของพระรูปดังกล่าวและพบว่าเป็นการผิดวินัยสงฆ์ขั้นรุนแรง ถึงขั้นต้องอาบัติปาราชิก พร้อมทั้งต้องอายัดทรัพย์สินเมื่อ DSI ตรวจพบว่ามีเงินฝากถึง 21 บัญชี ด้วยวงเงินกว่า 200 ล้านบาท เมื่อยิ่งสืบลงลึกจึงได้พบว่าพระรูปนี้มีชื่อว่าฉัตติโก หรือเณรคำ อย่างที่เราเรียกจนติดปาก ต่อมาสื่อโซเชียลและคนใกล้ชิดของเณรคำได้ขุดถึงพฤติกรรมของเณรคำ ว่ามีพฤติกรรมที่อื้อฉาวมากมาย ทั้งนี้ DSI ได้ตั้งข้อหา ถึง 5 ข้อ

1. พรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี 
2. กระทำชำเราเด็กหญิง 
3. ฉ้อโกงประชาชน 
4. ความผิดฐานฟอกเงิน และ 
5. ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานอวดอุตริมนุสธรร

 

ย้อนรอยมหากาพย์คดี เณรคำ สู่โทษจำคุก 114 ปี

 

     แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ DSI แจ้งข้อหาไปนั้นตัวเณรคำ หรือ นายวิรพล ได้อยู่ต่างประเทศ จึงถึอโอกาสหลบหนี และไม่กลับมาประเทศไทยอีก จนกระทั่งในปี 2559 ทางการสหรัฐอเมริกา ได้เข้าจับกุมตัว เณรคำ ในฐานะผู้ร้ายหลบหนีเข้าประเทศกับข้อหาฉ้อโกงและพราพผู้เยาว์ โดยทางการสหรัฐ ได้นำตัวเณรคำ ไปขึ้นศาลต้นคดีอาญารัฐบาลกลาง แขวงมณฑลริเวอร์ไซด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย และถูกตัดสินให้จำคุกอยู่ในเรือนจำเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 60 ศาลแคลิฟฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้มีคำสั่งส่งตัว เณรคำ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย
ตามที่กรมสอบสวนพิเศษ หรือ DSI ได้ประสานตัวและติดตามมานานถึง 4 ปี 
  
     18 ก.ค. 60  เณรคำ ได้ถูกควบคุมตัวมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย จากนั้นได้ถูกส่งตัวไปยังกรมสอบสวนพิเศษ ทันที ใช้เวลา 1-2 วันสรุปสำนวนให้อัยการส่งฟ้องศาล เณรคำ ได้ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมขอสู้คดีให้ถึงศาลชั้นสูง

    9 ส.ค. 61 ศาลอาญา ถ.รัชดาถิเษก ได้อ่านคำพิพากษ ของคดี เณรคำ ตัดสินให้จำคุก 114 ปี จำคุกตามจริง 20 ปี พร้อมคืนเงินให้ผู้เสียหาย 29 รายที่ฉ้อโกงมา คดีเณรคำถือเป็นอีกหนึ่งคดี ที่ DSI ประสบความสำเร็จ ในการติดตามตัวและส่งผู้ร้ายข้ามแดน และถือเป็นคดีตัวอย่างให้วงการสงฆ์ได้ตระหนักถึงคนที่อาจใช้ผ้าเหลืองในการเข้ามาทำผิดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เณรคำ 2 ตามมา

 

ย้อนรอยมหากาพย์คดี เณรคำ สู่โทษจำคุก 114 ปี