ศึกสายเลือด? "สุริยะ" รับไม่ได้-พ้อ"หลานกระฎุมพี-ธนาธร" กล่าวหาใฝ่เผด็จการ บอกเด็กสบายเกิดมาตอนพ่อ-แม่รวยแล้ว

รับไม่ได้? "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" แกนนำกลุ่มสามมิตร พ้อ "หลานในใส้กระฎุมพี-ธนาธร" กล่าวหาฝักใฝ่เผด็จการ บอกเด็กเกิดมาตอนพ่อ-แม่รวยแล้ว ไม่ต้องปากกัดตีนถีบหากิน

 

รับไม่ได้? "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" แกนนำกลุ่มสามมิตร พ้อ "หลานในใส้กระฎุมพี-ธนาธร" กล่าวหาฝักใฝ่เผด็จการ บอกเด็กเกิดมาตอนพ่อ-แม่รวยแล้ว ไม่ต้องปากกัดตีนถีบหากิน

 

วันนี้ "นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" แกนนำกลุ่มสามมิตร ให้สัมภาษณ์ผ่านทาง "สถานีสปริงนิวส์" โดยกล่าวถึง "นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หลานชายแท้ ๆ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มักจะออกมาสร้างประเด็นทางการเมืองว่า นายธนาธรเกิดมา พ่อแม่ทำบุญไว้เยอะ ปกติตอนคนเราเป็นเด็กอายุวัยเรียน ทุกคนต้องการเห็นภาพโลกสมบูรณ์แบบ สมัยตนตอนเรียนอยู่ ม.มหิดล มีเพื่อนร่วมรุ่นคือหมอมิ้ง (นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตรองนายกฯ รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร) อยากเห็นโลก ทิศทางประเทศยึดอุดมการณ์เป็นหลัก ตอนเรียนเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา มีการประท้วงทำให้เศรษฐกิจแย่ในช่วงนั้น พ่อแม่พี่ชายตนก็บอกว่าไปประท้วงแล้วเดี๋ยวธุรกิจไปไม่ได้ใครจะส่งตนเรียน เราก็ไม่สน เห็นว่าบ้านเมืองต้องเป็นประชาธิปไตยก็ไปประท้วง แต่พอหลังจากเราพ้นวัยนี้แล้วมาอยู่ในวัยธุรกิจ เราเห็นประท้วงก็ใจตุ๊มต่อมไม่น่าจะดี คนทั่วไปก็จะเป็นแบบนี้

 

“พ่อแม่พี่ชายผมก็บอกว่า ไปประท้วงแล้วเดี๋ยวธุรกิจไปไม่ได้ใครจะส่งผมเรียน เราก็ไม่สน เห็นว่าบ้านเมืองต้องเป็นประชาธิปไตยก็ไปประท้วง แต่พอหลังจากเราพ้นวัยนี้แล้ว มาอยู่ในวัยธุรกิจ เราเห็นประท้วงก็ใจตุ๊มต่อมไม่น่าจะดี คนทั่วไปก็จะเป็นแบบนี้ คุณธนาธรเกิดมาพอดีทางบ้านมีฐานะดีอยู่แล้ว ช่วงที่เขาเป็นนักศึกษายังไงเค้าก็เห็นแก่ประเทศชาติ มีความเป็นประชาธิปไตยเต็มที่ ตอนที่ผมอยู่กับท่านนายกฯ ทักษิณ คุณธนาธรไปที่ธรรมศาสตร์ขึ้นเวทีวิจารณ์ท่านนายกฯ ทักษิณ คุณแม่เขา คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปขึ้นเวทีไทยรักไทย นี่เรื่องจริงเลยนะครับ แล้วก็ท่านทักษิณก็มาถามว่าทำไมคุณคุมหลานคุณไม่ได้ ผมบอกคุณแม่เขายังคุมไม่ได้เลยครับ” นายสุริยะ กล่าว 

 

นายสุริยะ กล่าวว่า ตนสรุปว่า คนซึ่งเป็นวัยหนุ่มอยากจะเห็นบ้านเมืองดี แต่พออายุเยอะขึ้น ทางพ่อแม่ทำธุรกิจไว้ก็สบายเหมือนเดิมไม่ต้องต่อสู้ จึงยืนหยัดในหลักการได้ นายธนาธรตอนที่พ่อไม่สบายไปรักษาที่อเมริกาตนก็ไป นายธนาธรก็ไป นายธนาธรก็ต่อว่าตนเสียเละว่าไปทำโครงการวางท่อแก๊ส ปตท.ภาคใต้ ทำลายสิ่งแวดล้อม มันเป็นเหรียญสองด้าน เรื่องสิ่งแวดล้อมมันกระทบแน่นอน แต่ประโยชน์ที่ได้รับจากท่อแก๊สมันมหาศาล ถ้ามองมุมเดียวก็ลำบาก ตนรู้เลยว่าถ้าพ่อเขาไม่เสีย เขาจะไปเดินสายเอ็นจีโอ ซึ่งช่วงนั้นประเทศไหนมีต่อต้านที่ไหนนายธนาธรไปหมด อยากจะเห็นโลกสมบูรณ์แบบ สรุปว่านายธนาธรเป็นคนดี 

 

ถามว่า คนดีอย่างธนาธรจะไปรวมกับพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งได้หรือไม่ นายสุริยะ ตอบว่า ตอนนี้นายธนาธร ชี้ให้เห็นว่าประชาชนต้องเลือกระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย ให้เลือกข้างเรา ตนขอชี้แจงว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ใช่การเลือกข้าง แต่เป็นพรรคพลังประชารัฐหาทางออกให้ประเทศ จะเลือกก้าวพ้นการเมืองสองขั้วที่ทำให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจการเมืองมาตลอดสิบปีนี้ เป็นทางเลือกว่าจะก้าวข้ามรึเปล่า การเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ใช่เป็นการเลือกระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ 

 

 

“ผมปวดใจมากที่หลานผมเอง ไปโยงผมว่า เป็นนักการเมือง แต่ปรากฏว่า ไปสนับสนุนเผด็จการ ตัวผมจะไปสนับสนุนเผด็จการได้ยังไง ในเมื่อตัวผมเองต้องหลุดจากตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม ต่อเนื่องเป็นตำแหน่งรองนายกฯ ด้วย หลังจากหลุดตำแหน่งยังไม่พอ ทางด้านของคณะปฏิวัติตั้งคณะกรรมการตรวจสอบมาตรวจสอบในโครงการต่างๆ ที่ผมทำ” นายสุริยะ ระบุ