ท่าจะคุกยาว-ท่านมหาเถรฯ! ฟ้อง 10 เจ้าคุณ-ศิษย์โกงเงินวัด แถมชวดประกัน ศาลฯ ชี้งาบเป็นขบวนการ-แบ่งงานกันทำ-ทำลายพระพุทธศาสนา

ท่าจะนอนคุกยาวกระมัง-ท่านมหาเถรฯ! อัยการยื่นฟ้อง 10 ท่านเจ้าคุณ และลูกศิษย์โกงเงินวัด แถมชวดประกัน โดยศาลฯ ระบุโกงกันเป็นขบวนการ-แบ่งหน้าที่กันทำ มีผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา และเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

 

ท่าจะนอนคุกยาวกระมัง-ท่านมหาเถรฯ! อัยการยื่นฟ้อง 10 ท่านเจ้าคุณ และลูกศิษย์โกงเงินวัด แถมชวดประกัน โดยศาลฯ ระบุโกงกันเป็นขบวนการ-แบ่งหน้าที่กันทำ มีผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา และเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

 

วันนี้ (16 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี กรุงเทพฯ พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปราบการทุจริต 1 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง "นายเอื้อน กลิ่นสาลี" อดีตพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และอดีตเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และ "นายสมทรง อรรถกฤษณ์" อดีตพระอรรถกิจโสภณ อดีตเลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพ วัดสามพระยา เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตเพื่อให้ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานฯ, ร่วมกันฟอกเงินอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 กรณีที่พวกจำเลยร่วมกันฟอกเงิน จากการทุจริตเงินทอนวัดในส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม


 

ทั้งนี้ อดีตพระเถระทั้ง 2 ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างการฝากขัง ซึ่งการยื่นฟ้องวันนี้ ก็อยู่ในช่วงฝากขังผัดสุดท้าย ซึ่งอัยการไม่ได้คัดค้านการประกันตัว แต่ให้เป็นดุลยพินิจของศาล

 

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง "นายธงชัย สุขโข" อดีตพระพรหมสิทธิ หรือ "ธงชัย สุขญาโณ" อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร,นายบุญทวี คำมา อดีตพระศรีคุณาภรณ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ, นายสมจิตร จันทร์ศรี อดีตพระครูสิริวิหารการ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ, นายเทอด วงศ์ชอุ่ม อดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์หรือเจ้าคุณเทอด อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ, นายสังคม สังฆะพัฒน์ อดีตพระเมธีสุทธิกร และอดีตพระราชอุปเสณาภรณ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ, น.ส.นุชรา สิทธินอก แม่บ้าน ร่วมรับโอนเงิน 25 ล้านบาท,นายทวิช สังข์อยู่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บริษัท ดีดีทวีคูณ ที่รับผลิตสื่อให้กับวัดสระเกศ, น.ส.ฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา มารดาของ ร.ท.ฐิติทัศน์ เป็นจำเลยที่ 1-8 ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (5), มาตรา 5 (1)(2)(3)ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, มาตรา 91 กรณีร่วมกันฟอกเงิน การทุจริตเงินทอนวัดในส่วนโครงการศูนย์กลางเผยแพร่พระพุทธศาสนา

 

โดยทั้ง 8 ราย ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างการฝากขังและไม่ได้รับการประกันตัวเช่นกัน ศาลได้รับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อท.197/2561

 

ทั้งนี้ จำเลยทั้ง 8 ราย ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฟ้องคดีนี้ ซึ่งศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของจำเลยทั้ง 8 ราย โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพฤติการณ์กระทำความผิดของจำเลยกับพวกมีลักษณะร่วมกันกระทำความผิด เป็นขบวนการโดยแบ่งหน้าที่กันทำ ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเป็นเงินงบประมาณแผ่นดิน ความเสียหายก็เป็นเงินจำนวนสูง อีกทั้งยังเป็นการกระทบกระเทือนต่อพระพุทธศาสนา พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรงและความผิดตามฟ้อง มีอัตราโทษสูง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวก็มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า จำเลยกับพวกจะหลบหนี

 

อย่างไรก็ดี สำหรับความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินทุจริตนั้น มีการฟ้องคดีเข้าสู่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง แล้วเพียง 1 สำนวน คือ พระครูกิตติ พัชรคุณ หรือ นายสมเกียรติ ขันทอง เจ้าคณะ อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และเจ้าอาวาสวัดลาดแค ที่อัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมาเป็นคดีดำหมายเลข อท.38/2561 กรณีที่ร่วม กับ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) อายุ 59 ปี (ยังหลบหนีคดี) สมคบฟอกเงินทอนวัด ต่างๆในเขต จ.เพชรบูรณ์,นครสวรรค์, ตากและชุมพร ราว 28 ล้านบาท ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

 

โดยในชั้นฝากขัง พระครูกิตติ พัชรคุณ ไม่ได้รับการประกันตัว แต่ก็เพิ่งจะได้ประกันตัวชั้นพิจารณาคดี ด้วยหลักทรัพย์ที่ศาลตีราคาประกัน 1.5 ล้านบาท โดยมีการกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรด้วย เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และให้เก็บรักษาหนังสือเดินทางของจำเลยไว้ด้วย ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการรอไต่สวนพยานในชั้นศาล