แทบกระอักเลือด ย้อนเส้นทางการต่อสู้ของ "ลุงจรูญ" ก่อนจบมหากาพย์หวย 30 ล้าน

เป็นอีกหนึ่งคดีที่ผู้คนในสังคมต่างให้ความสนใจและติดตามกันอย่างใกล้ชิดกับ กรณีหวย 30ล้าน ที่ก่อนหน้านี้ส่อเค้าลางถึงความไม่ชอบมาพากล

กลายเป็นมหากาพย์ที่ไม่รู้ว่าบทสรุปจะลงเอยอย่างไร แต่แล้วที่สุด 20 ส.ค. 2561 เพจเฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ ในคดีหวย 30 ล้านได้โพสต์ข้อความว่า “ครูปรีชา คู่กรณีของลุงจรูญรับสารภาพแล้ว!! คลิปคนก้มเก็บหวยได้ไม่ใช่ลุงจรูญ ใครก็ไม่รู้เป็นเงาตะคุ่มๆ ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร เลยไม่ขอยื่นเป็นพยานหลักฐานในศาล ส่วนคลิปที่เคยกล่าวหาว่าลุงจรูญรับสารภาพที่สภ.เมืองกาญจนบุรี ในวันที่ 28 พ.ย. 2560 ก็ไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยินมาก่อน” เป็นอันว่าน่าจะใกล้ถึงเวลาที่จะปิดฉากคดียืดเยื้อมากว่า 10 เดือนเสียที

 

จากคดีที่แสนจะซับซ้อนและอิรุงตุงนัง ทำให้ทั้งตำรวจและประชาชนที่ติดตามคดีนี้ต้องปวดเศียรเวียนเกล้าไปตามๆ กัน ในวันนี้สำนักข่าวทีนิวส์จะพาทุกท่านย้อนรอยสู่มหากาพย์คดีหวย 30 ล้าน โดยเริ่มจากการต่อสู่ทางคดีความของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ อดีตตำรวจเกษียณอายุราชการ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อลุงจรูญถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2560 เป็นเงินรางวัลจำนวน 30 ล้านบาท ภายหลังได้นำสลากไปขึ้นรางวัลได้นำเงินรางวัลจำนวน 5 ล้านบาทไปชำระปิดค่าบ้านและค่ารถยนต์

แทบกระอักเลือด ย้อนเส้นทางการต่อสู้ของ "ลุงจรูญ" ก่อนจบมหากาพย์หวย 30 ล้าน

ต่อมาในวันที่ 5 ธ.ค. 2560 ครูปรีชาได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่า สลากกินแบ่งรัฐบาล เลข 533726 จำนวน 5 คู่ งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2560 ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 หายไป คดีเริ่มซับซ้อนมากขึ้นเมื่อมีแม่ค้าผู้หนึ่งอ้างว่าตนเป็นผู้ขายสลากให้ครูปรีชา และสลากเป็นของครูปรีชาแน่นนอน

กลับมาทางฝั่งลุงจรูญเมื่อทราบว่า ตนนั้นโดนแจ้งข้อหาในวันที่ 12 ธ.ค. 2560 ลุงจรูญและทนายความจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เอาผิดแม่ค้าขายสลาก พร้อมแจ้งดำเนินคดีครูปรีชา ฐานแจ้งความเท็จ และเข้าทำการร้องทุกข์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตรวจสอบนายตำรวจระดับสูง โดยระบุว่ามีการเรียกเข้าไปเจรจาแบ่งเงินฝ่ายละ 15 ล้านบาท 

 

การหาหลักฐานเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของทางฝั่งลุงจรูญเริ่มต้นขึ้น โดยการเข้าพบ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเก็บตัวอย่างดีเอ็นดีและลายนิ้วมือแฝงเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับสลาก ต่อมาในวันที่ 19 ม.ค. 2561 สถาบันนิติวิทยาศาสตร์แถลงผลภายหลังตรวจสอบลายนิ้วมือของลุงจรูญกับสลากฯ ว่า พบเพียงลายนิ้วมือแฝงของลุงจรูญส่วนดีเอ็นเอนั้นไม่สามารถพิสูจน์ได้ พร้อมกันนั้นทางฝั่งครูปรีชาก็ได้ต่อสู้ทางคดีความ ว่าสลากฯ ที่ถูกรางวัลเป็นของตนเช่นกัน พร้อมกับกล่าวว่าตนนั้นมีหลักฐานเด็ด แต่ทางคณะคลี่คลายคดีก็ยังสรุปไม่ได้ว่าสลากฯ นั้นเป็นของใคร และจำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ เพื่อส่งให้ศาลพิจารณา

 

วันที่ 22 ม.ค. 2560 ภายหลังสถาบันนิติศาสตร์แถลงผลได้ไม่กี่วัน คณะทำงานสืบสวนคลี่คลายคดี ก็ได้ประชุมเพื่อสรุปผล แต่ยังไม่แจ้งความคืบหน้าแต่อย่างใด ส่วนด้านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ที่รับผิดชอบคดีนี้ ก็พร้อมลงพื้นที่ และสอบสวนพยานทั้ง 37 ปากเพิ่มเติม แต้มต่อกลับกลายเป็นของครูปรีชาทันที เพราะในวันที่  31 ม.ค. 2561 พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แถลงผลการพิสูจน์หลักฐาน ยืนยันว่าสลากที่ถูกรางวัลเป็นของครูปรีชา พร้อมกับเรียกลุงจรูญรับทราบข้อกล่าวหา “ยักยอกทรัพย์”

 

 

แทบกระอักเลือด ย้อนเส้นทางการต่อสู้ของ "ลุงจรูญ" ก่อนจบมหากาพย์หวย 30 ล้าน

 

 

เมื่อลุงจรูญทราบดีว่าตนเป็นรองทางกฎหมาย แต่ก็พร้อมจะยืนยันความบริสุทธิ์ของตนให้ได้และเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนที่ติดตามคดีนี้กลับมาฝั่งตนอีกครั้ง จึงท้าครูปรีชา แม่ค้า พยานทุกปาก และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องไปสาบาน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจที่ศาลหลักเมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมกล่าวต่อหน้าศาลหลักเมือง หากลักขโมยหวยใครมาขอให้เกิดความวิบัติ แต่ไม่มีใครกล้ารับคำท้าสาบานสักคน

ราวกับสวรรค์มีตา ฟ้าเป็นใจ หรืออาจเพราะบุญกุศลที่ลุงจรูญทำไว้แต่ปางก่อน ที่ทำให้คดีนี้ถูกโอนสำนวนคดีการสอบสวนไปยังกองปราบปรามฯ โดยคำสั่งของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 5 ก.พ. 2561 เมื่อโชคชะตาเข้าข้าง วันที่ 6 ก.พ. 2561 ภายหลังโอนสำนวนคดีไปยังกองปราบ ลุงจรูญจึงรีบเดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีไม่มั่นใจในชุดสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7

 

 

แทบกระอักเลือด ย้อนเส้นทางการต่อสู้ของ "ลุงจรูญ" ก่อนจบมหากาพย์หวย 30 ล้าน

 

 

ทางด้านกองปราบฯ เริ่มดำเนินการคลี่คล่ายคดีต่อโดยไม่รอช้า แกะรอยกู้ไฟล์คลิปเสียงสนทนา ระหว่างครูปรีชา และนางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ แม่ค้าขายสลากที่อ้างว่าขายสลากเจ้าปัญหาให้ครูปรีชา พบคลิปเสียงแม่ค้าโทรศัพท์ไปยินดีกับครูปรีชาที่ถูกรางวัลที่ 1 แต่ครูปรีชาบอกว่าไม่ใช่เลขที่ซื้อ และมีอีกคลิปเสียงที่มีลักษณะคล้ายกับคลิปแรก และครูปรีชาก็ปฏิเสธว่าไม่ถูกรางวัลเช่นกัน พร้อมกับย้ำถึงหมายเลขสลากที่ตนซื้อมาแต่ไม่ถูกรางวัล ต่อมาเพื่อความโปร่งใสในคดีหวย 30 ล้าน และป้องกันข้อครหาจากคนในสังคม ทางด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้มีคำสั่งย้าย พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค รองผู้กำกับ (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ไปปฏิบัติราชการที่ กองบังคับการปราบปราม เป็นการชั่วคราว 

 

และในวันที่ 1 พ.ค. 2561 ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ พร้อมครอบครัวได้เดินทางไปฟังคำสั่งศาล จังหวัดกาญจนบุรี และได้รับข้อชี้แจงว่า ศาลมีความเห็นว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวกับคดีอาญา ดังนั้นจึงต้องรอฟังข้อเท็จจริงจากคดีอาญาให้ถึงที่สุด และค่อยพิจารณาคดีแพ่งต่อไป ระหว่างรอผลในคดีอาญา ศาลจึงมีความเห็นว่าให้จำหน่ายคดีชั่วคราว และนัดอีกครั้งในวันที่ 12 ก.ย. 2561 เวลา 9.00 ก่อนที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความของลุงจรูญ จะกล่าวถึงการรับสารภาพของครูปรีชาคู่กรณี ในโพสต์ดังกล่าว

 

และในฉบับต่อไป สำนักข่าวทีนิวส์ จะพาทุกท่านไปพบกับ วีรกรรมโกหกคำโต ของครูปรีชา มหากาพย์คดีหวย 30 ล้าน