โดนแซวหนัก "ซินแสเป็นหนึ่ง" เคลื่อนไหวแล้ว จะเอาไงดี หลังผลักตัวเองไปเป็นเหยื่อให้ "หนุ่มพีท" หลอก

เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่หลายคนให้การติดตามอย่างต่อเนื่อง กรณี นายธนวรรธน์ หรือ พีท คำแหงพล อายุ 35 ปี พ่อค้าแผงลอตเตอรี่ภายในปั้มน้ำมันปตท. ถนนเอกชัย ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สุมทรสาคร ให้โชคกับลูกค้าชาวแม่กลอง ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หมายเลข 734510 เป็นเงินรางวัลมูลค่า 90 ล้านบาท แต่แล้วในเวลาต่อมาก็เกิดกระแสวิจารณ์ขึ้นเมื่อมีผู้สงสัยเรื่องรางวัลดังกล่าว และคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นน่าจะเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมา และไม่ได้มีคนถูกรางวัลดังกล่าวจริงแต่อย่างใด

 

 

 

 

โดย ในเวลาต่อมา นายธนวรรธน์ ได้ออกมารับสารภาพแล้วว่า เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง ไม่มีลูกค้าที่ถูกหวย 90 ล้าน เรื่องเกิดจากการที่ถ่ายรูปเล่นกันในปั๊มน้ำมัน เนื่องจากมีลอตเตอรี่ที่ขายไม่หมดและใกล้เคียงรางวัลที่ 1 จึงนำมาตัดต่อเลขตัวหน้าเป็นเลข 7 แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำไปแชร์จนเป็นข่าวโด่งดัง ทั้งนี้ต้องขอโทษสังคมด้วย พร้อมยอมรับไม่ว่าหลังจากนี้อะไรจะเกิดขึ้น ส่วนแฟนสาวและครอบครัวไม่มีใครรู้เรื่องด้วย

 

 

และที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เห็นจะเป็นประเด็นที่ก่อนหน้านั้น อาจารย์เป็นหนึ่ง ซินแสชื่อดัง ที่คนในวงการบันเทิงจะรู้จักดีมีลูกศิษย์ที่เป็นดาราเยอะ เชี่ยวชาญด้านดวงชะตา, ลายเซ็นและฮวงจุ้ย ได้เดินทางมามอบแผ่นป้ายคำว่า "รวย" ให้กับ นายธนวรรธน์ คำแหงพล หรือ พีท พ่อค้าขายลอตเตอรี่ชื่อดัง และดูฮวงจุ้ยร้านว่าอยู่ในที่ที่ดีนั้น แต่ปรากฏว่า นายพีท ได้รับสารภาพว่า กุเรื่องเก็บหวย 90 ล้าน ยอมรับว่า ได้ตัดต่อเลข 7 หยอกเล่นกับเพื่อนในกลุ่ม ทำให้ต่อมามีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นในเพจเฟซบุ๊กของซินแสเป็นหนึ่ง จำนวนมาก ทั้งเห็นใจและวิจารณ์ความไม่เช็คข้อมูลดีๆ ของซินแสเป็นหนึ่ง ก่อนจะมีการเปิดเผยจากฝ่ายซินแสเป็นหนึ่ง เตรียมแถลงข่าวในประเด็นดังกล่าว เวลา 15.00 น. ที่บ้านพักส่วนตัวย่านซาฟารีเวิร์ด

 

 

 

 

 

ล่าสุด เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว ซินแสเป็นหนึ่ง ได้แถลงข่าวถึงประเด็นการมอบป้ายมอบแผ่นป้ายคำว่า "รวย" ให้กับ นายธนวรรธน์ คำแหงพล หรือ พีท พ่อค้าขายลอตเตอรี่ชื่อดัง และดูฮวงจุ้ยร้านว่าอยู่ในที่ที่ดีนั้น แต่ปรากฏว่านายพีท ได้รับสารภาพว่ากุเรื่องเก็บหวย 90 ล้าน จนโซเชียลต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงเจ้าตัวว่า ตนและนายพีท ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่นายพีทนั้นติดตามตนจากในเฟซบุ๊ก ตนจึงอยากจะฝากว่าเรื่องนี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ซึ่งตัวนายพีทก็คงมีบทเรียนแล้ว และหลังจากนี้ไปเขาคงกลับตัวเป็นคนดี

 

 

ส่วนตัวอาจารย์ ในฐานะของครูบาอาจารย์ก็คงต้องขออโหสิทุกคน ทุกๆ สิ่ง ทุกๆ ทาง เราต้องไม่ยึดติด ที่สำคัญตนเลือกลูกศิษย์ไม่ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไรหรือรูปแบบไหน เรามีหน้าที่เป็นผู้ให้ ก็ต้องให้ตลอดเวลา และเราก็จะไม่หยุดทำความดี

 

ส่วนประเด็นที่มีชาวเน็ตมาคอมเมนต์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ซินแสเป็นหนึ่ง บอกว่า ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ และมันก็เป็นเรื่องยากมากที่อาจารย์จะไปอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้หมดถึงเจตนาต่างๆ แต่อาจารย์เชื่อว่าด้วยความดีในสิ่งต่างๆ คงจะเป็นสิ่งที่กรองให้อะไรหลายอย่างดีขึ้น ส่วนป้ายที่มอบให้ไปนั้น ก็ไม่รู้ว่าล่องลอยไปที่ไหนแล้วหรือเปล่า ซึ่งก็มีลูกศิษย์หลายคนถามหาให้และแนะนำให้ตนมอบให้กับพวกเขา ป้ายดังกล่าวตนไม่เคยขาย ตนจัดทำขึ้นมาเพื่อการกุศล คงไม่ตามไปเอากลับคืนมา ก็คงปล่อยผ่าน ถามว่าเครียดหรือไม่ แอบเครียดเล็กน้อย แต่สิ่งที่ทำให้ดีขึ้นก็คือกำลังใจจากทุกๆ คน  หากสิ่งที่อาจารย์ทำเผลอไปกระทบจิตใจใครหรือไม่สบายใจ อาจารย์ไม่มีอะไรจริงๆ จากนี้ก็คงต้องระวังมากขึ้น

 

 

ซินแสเป็นหนึ่ง ยังฝากคำพูดถึงนายพีท หากเจ้าตัวจะเข้ามาขอโทษด้วยว่า อาจารย์ขออโหสิให้พีทตรงนี้ ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ โดยเจ้าตัวก็ไม่ได้มีติดต่อมา เงียบหายไปเลยตั้งแต่วันนั้น

 

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นดังกล่าว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว หัวหน้าชุด ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ยื่นเรื่องออกหมายจับ นายพีท เบื้องต้นเจอ 3 ข้อหา ตัดต่อ ปลอมแปลงเอกสาร, ฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และได้ประสานผกก.สภ.โคกขามแล้ว ถ้าเข้ามอบตัวให้เข้ามอบตัวเลย แต่ถ้าไม่ ชุดทำงานของ ศปอส.ตร.ก็เตรียมพร้อมจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง.