- 20 ก.ย. 2561
แม่ใจเด็ดลากคอลูกชายส่งตำรวจด้วยตัวเองหลังโทรสารภาพยิงคนเสียชีวิต ลั่นลูกทำผิดก็ต้องรับโทษอีกฝ่ายจะฟ้องร้องอย่างไรก็จะยอมรับไม่สู้เพราะผิดจริง
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 19 ก.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สน.หนองแขม คุมตัวผู้ต้องหาจาก สภ.เมืองเพชรบุรี มายัง สน.หนองแขม เข้าไปยังห้องสืบสวน ซึ่งผู้ต้องหายังคงอยู่ในอาการมึนเมา หลังก่อเหตุยิงผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย
ผู้ต้องหา“นายทนงศักดิ์ สมัยใหม่” อายุ 33 ปี (หรือนายโย) เปิดเผยในขณะที่มีอาการมึนเมาว่า “ตนเคยไปที่โต๊ะสนุกจำนวนสองครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ขณะกำลังแทงสนุ๊กอยู่นั้นเกิดเหตุทะเลาะวิวาท ระหว่างตนและกลุ่มคู่กรณี ซึ่งฝั่งของตนมาเพียง 2 คน และคู่กรณียกพวกมากว่า 20-30 คน
ในจังหวะเดียวกันผู้ตายและน้องชายเข้าไปมีเรื่องชกต่อยกับคนภายในโต๊ะสนุ๊ก ตนจึงตัดสินใจเข้าไปไกล่เกลี่ยพร้อมบอกกับผู้ตายและน้องชายว่า “อย่ารุมทำร้ายคนอื่น!” ก่อนจะถูกน้องของผู้ตาย ใช้ไม้สนุ๊กฟาดเข้าที่แขน นอกจากนี้ผู้ต้องหายังอ้างว่า ตนได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาจนเกิดบันดาลโทสะ และก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ขณะเดียวกันมีการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม โดยมี พ.ต.ท.สมชาย จิรวรรค รองผกก.สส.สน.หนองแขม สอบปากคำด้วยตนเอง
ด้านของนางกัลยา สมัยใหม่ (แม่ผู้ของผู้ต้องหา) เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาจาก จ.สุพรรณบุรี ภายหลังจากทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่จะมีการคุมตัวผู้ต้องหามายังสน.หนองแขม ซึ่งก่อนหน้าที่ตนได้รับการติดต่อจากลูกชายว่า “ก่อเหตุฆ่าคนตาย” และกำลังหลบหนีไปยัง จ.เพชรบุรี ตนจึงบอกกับลูกชายให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและห้ามไม่ให้หลบหนี
โดยนางกัลยาฯ ต่อว่า ลูกชายบอกกับตนว่าโดนรุมจึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น และยังบอกอีกว่าก่อนเดินทางมายัง สน. หนองแขม ตนได้เข้าไปพบกับครอบครัวของผู้ตายที่วัดที่มีการตั้งศพ เพื่อมอบเงินจำนวน 20,000 บาท เพื่อช่วยงานสวดอภิธรรมศพ และตั้งใจว่าหลังจากนี้ทุกวันตนจะเดินทางไปร่วมงานศพผู้ตายจนถึงวันฌาปณกิจศพ
นางกัลยาเล่านิสัยของผู้ต้องหาอีกว่ามักจะมีอาการเหมือนเป็นอาการทางจิต ชอบคิดว่าภรรยานอกใจทั้งๆที่ไม่เคยมีเรื่องเกิดขึ้น ยืนยันว่าลูกทำผิด การยิงคนตายอย่างไรก็เป็นความผิดถึงแม้เรื่องราวจะเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับ เขาจะฟ้องร้องให้ถึงที่สุดอย่างไรก็ไม่สู้ เพราะลูกผิดจริงๆ
เบื้องต้นในขณะนี้ยังไม่ได้เตรียมทนาย หรือหลักทรัพย์ประกันตัวแต่อย่างใด พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่มีการต่อสู้คดี เพราะลูกชายทำผิดก็ต้องรับผิด และปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย
ด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิต (นายแป๊ะ) เปิดเผยว่า ตอนนี้พยายามทำใจอยู่ ซึ่งผู้เสียชีวิตนี้เป็นคนดีและเป็นเสาหลักของครอบครัว เพิ่งได้รับบรรจุเป็นลูกจ้างประจำหน้าที่การงานกำลังดีขึ้นแต่ต้องมาจบชีวิตลง ส่วนน้องชายผู้เสียชีวิตเองก็เสียใจมาก หลังทราบข่าวว่าตำรวจจับตัวคนก่อเหตุได้แล้วนั้น ตนก็รู้สึกดีใจ และอยากให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายและอยากให้พาผู้ต้องหามาขอขมาศพ ยอมรับว่าแค้นใจแต่ก็ต้องให้อภัยเพื่อให้ลูกชายจากไปอย่างสงบ
และยังเล่าอีกว่าแม่ของผู้ต้องหาได้มายังงานศพลูกชายพร้อมเอ่ยขอโทษและขอให้ยกโทษให้ แต่ตนก็มองว่าผู้ต้องหานั้นโหดเหี้ยมมาก เมื่อยิงมาครั้งแรกแล้วยังจะตามมายิงซ้ำอีก