ท่านงามด้วยหัวใจ อาลัย "รศ.นพ.สภา" ยามอยู่รักษาคนไข้ 5 บาท ยามสิ้นอุทิศให้ทั้งร่างกาย

รศ.นพ.สภา ลิมพาณิชย์การ หรือ หมอห้าบาท เสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ ท่านได้อุทิศร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ เพื่อศึกษากายวิภาค

 

    นับว่าเป็นการสูญเสียบุคลากรผู้มีความรู้ทำคุณประโยชน์แก่วงการแพทย์อย่างล้นเหลือ กับ รศ.นพ.สภา ลิมพาณิชย์การ หรือ หมอห้าบาท ได้สิ้นใจอย่างสงบเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2559  ขณะรักษาตัวอยู่ โรงพยาบาลศิริราช ทั้งนี้ท่านได้บริจาคร่างกายเพื่อให้นักศึกษาแพทย์ได้ใช้เป็นอาจารย์ใหญ่ ศึกษาหาความรู้ ทาง "กายวิภาค" โดยญาติได้นำเส้นผมกับเล็บมาประกอบพิธีทางศาสนาแทนร่างกาย พร้อมกับคุณจิตรา ลิมพาณิชย์การ ภรรยา ของ รศ.นพ.สภา ลิมพาณิชย์การ มีกำหนดพระราชทานเพลิงศพ ในวันอาทิตย์ ที่ 23 ก.ย. 2561 นี้ ณ วัดเจ้าอาม บางขุนนนท์  กรุงเทพมหานคร ในวันนี้ทางสำนักข่าวทีนิวส์ขอนำทุกท่านย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นประวัติการทำงานและอุดมการณ์อันแรงกลายของ รศ.นพ.สภา ลิมพาณิชย์การ จนชาวบ้านตั้งฉายาให้ว่า "หมอห้าบาท"

 

ท่านงามด้วยหัวใจ อาลัย "รศ.นพ.สภา" ยามอยู่รักษาคนไข้ 5 บาท ยามสิ้นอุทิศให้ทั้งร่างกาย

 

      รศ.นพ.สภา จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนเซ็นต์คาเบรียล เมื่อปี พ.ศ. 2494 ต่อมาได้เข้าศึกษายังแพทยศาสตร์บัณฑิต  มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2502 จนมาได้รับประกาศนียบัตร Art as Applied to Medicine, The Johns Hopkins Hospital ประกาศนียบัตรนักประชาสัมพันธ์ฝ่ายอำนวยการ รุ่นที่ 7 เมื่อปี พ.ศ. 2507 หลังจากจบการศึกษาได้เข้าดำรงตำแหน่งอาจารย์โท ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ พ.ศ. 2503 อาจารย์เอก ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ พ.ศ. 2511 ผู้ช่วยศาสตราจารย์  พ.ศ. 2516 รองศาสตราจารย์ พ.ศ. 2530 และอื่นๆ ตามลำดับ
 

ท่านงามด้วยหัวใจ อาลัย "รศ.นพ.สภา" ยามอยู่รักษาคนไข้ 5 บาท ยามสิ้นอุทิศให้ทั้งร่างกาย

 

      ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2507 รศ.นพ.สภา ได้ตั้งใจเปิดคลินิกรักษาโรคทั่วไปจากคำชักชวนของเพื่อนเมื่อ 43 ปีก่อน แต่ภายหลังเพื่อน รศ.นพ.สภา ได้ขอถอนตัว รศ.นพ.สภา ลิมพาณิชย์การ ยังได้ตั้งเป้าหมายว่าจะเก็บเฉพาะค่ายาและเวชภัณฑ์ เท่านั้น โดยไม่คิดค่าวินิจฉัยโรค ถ้าหากคนไข้ไม่มีเงินจริงๆ ก็จะไม่คิดเงินสักบาท หรือหากมีแต่ไม่มากก็แล้วแต่กำลังของคนไข้จะให้ไว้เป็นค่ายา ซื้อเก็บให้ผู้ป่วยรายอื่นต่อไป รศ.นพ.สภา จะเดินทางมาทำงานที่โรงพยาบาลศิริราช วันจันทร์ - ศุกร์ กลับ เวลา 17.00น  เพื่อไปเปิดคลินิกต่อที่ซอยระนอง 1 ถนนพระราม 5 ในเวลา 18.00น - 20.00 น โดยจะเปิดให้บริการเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น และจะทำการหยุดช่วงเสาร์ - อาทิตย์ ส่วนอัตราค่ารักษา เก็บตั้งแต่  5 บาทไปจนถึงแพงสุด 70 บาท เท่านั้น 

 

ท่านงามด้วยหัวใจ อาลัย "รศ.นพ.สภา" ยามอยู่รักษาคนไข้ 5 บาท ยามสิ้นอุทิศให้ทั้งร่างกาย

 

     แต่ที่ทำให้ผู้ได้ยินเรื่องราวของ รศ.นพ.สภา ต้องยกย่องนั้นเป็นเพราะการไม่หวังผลกำไร คิดค่ารักษาเพื่อให้คนจนเข้าถึงมือแพทย์ได้อย่างไม่ลำบากถึงขนาดยอมถอนเงินบำนาญส่วนตัวมาเป็นเงินจับจ่ายซื้อยาให้คนไข้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเพราะส่วนหนึ่งในความคิดตลอดมาของรศ.นพ.สภา คิดอยู่เสมอว่าคนไข้บางรายนั้นมีความเคยชินตามแบบฉบับของคนไทย ที่นิยมซื้อยาทานแทนการเดินทางไปพบแพทย์ ซึ่งร้านขายยาบางเจ้าในตอนนั้นยังไม่เคร่งเรื่องการจ่ายยาโดยเภสัชกรเท่าที่ควร เป็นเรื่องเสี่ยงหากคนไข้ไปซื้อยาโดยไม่ไม่มีใบสั่งแพทย์ ส่วนผลเสียอีกทางคือผู้ป่วยจะไม่รู้ว่าตนนั้นแพ้ยาชนิดไหนหรือดื้อยาอะไร จึงยอมเสียสละ โดยเรื่องนี้ รศ.นพ.สภา เคยกล่าวไว้ว่า...
     
"ผมจะแนะนำคนไข้ว่า ควรปฏิบัติตัวอย่างไรบ้างถึงจะหายป่วย บางทีก็ต้องบังคับให้คนไข้เชื่อฟัง เพราะจับได้ว่ากินยาไม่ครบ เลยต้องกำชับให้กินตามคำสั่ง ที่ผ่านมายังไม่มีผู้ป่วยได้ยาจากผมแล้วมีอาการดื้อยาหรือแพ้ยา และจะให้ยากินไป 2 วันเท่านั้น เพราะไม่ต้องการให้เอายาไปทิ้งขว้าง เวลาจ่ายยาจะถามก่อนว่า มียาอะไรเหลืออยู่ที่บ้าน จะได้ไม่ให้ยาซ้ำกัน"

 

     รศ.นพ.สภายังเคยกล่าวถึงเรื่องทำดีไว้ด้วยว่า  "เมื่อเราเกิดมาก็สามารถทำดีได้ตลอดเวลาจนกระทั่งไม่มีเรี่ยวแรงจะทำ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไป ก็ทำให้ผู้คนในสังคมนึกถึงตัวเองมากขึ้น การช่วยเหลือกันน้อยลงมุ่งแต่จะเอาตัวเองให้รอดก่อน สภาพแวดล้อมและสถานการณ์ต่างๆ ก็มีส่วนทำให้คนเห็นแก่ตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย"

 

ท่านงามด้วยหัวใจ อาลัย "รศ.นพ.สภา" ยามอยู่รักษาคนไข้ 5 บาท ยามสิ้นอุทิศให้ทั้งร่างกาย

ท่านงามด้วยหัวใจ อาลัย "รศ.นพ.สภา" ยามอยู่รักษาคนไข้ 5 บาท ยามสิ้นอุทิศให้ทั้งร่างกาย

     ทั้งนี้น้อยคนนักจะทราบว่า รศ.นพ.สภา ในวัยเด็กเคยไม่สบายหนักจนคุณแม่ต้องพาไปรักษายังโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง จนเสียเงินหลายบาท นั่นคือจุดเริ่มตอนสำคัญที่ทำให้  รศ.นพ.สภา คิดอยากช่วยคนที่ไม่มีทุนทรัพย์ในการรักษาตัวให้มีสุขภาพดีเทียบเท่ากับคนมีทุนทรัพย์

 

"ตอน 4 ขวบเป็นโรคคอตีบ โตขึ้นเป็นโรคไทฟอยด์ ต่อมาก็ปอดบวม คุณแม่จึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ เห็นท่านเสียเงินค่ารักษาเยอะจึงสอนให้รู้จักประหยัดอดออม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เมื่อมาเปิดร้านคลินิกจึงคิดค่ารักษาแพงๆ ไม่ลง"  รศ.นพ.สภา กล่าว

 

ท่านงามด้วยหัวใจ อาลัย "รศ.นพ.สภา" ยามอยู่รักษาคนไข้ 5 บาท ยามสิ้นอุทิศให้ทั้งร่างกาย

 

    นอกจากนี้ รศ.นพ.สภา ยังแสดงความคิดเห็นต่อบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ ที่กำลังจะก้าวเข้ามาทดแทนคลื่นลูกเก่าว่า การทำความดีไม่สามารถบอกให้ทำกันได้ว่าทำอย่างไร แต่เราสามารถเริ่มต้นกระทำให้ดูเป็นตัวอย่างได้ ดังนั้น นักศึกษาแพทย์ควรเรียนรู้จิตใจและวิถีปฏิบัติของคุณหมอท่านนี้ ไว้เป็นต้นแบบของผู้กระทำประโยชน์ต่อสังคม โดยไม่หวังผลตอบแทน

 

ด้านรางวัลและผลงานเด่นที่ รศ.นพ.สภา เคยได้รับมีดังนี้

1. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชทานโล่เกียรติคุณ รางวัล "น้ำใจงาม" ด้านการสงเคราะห์ และพัฒนาคุณภาพชีวิต อันดับที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2547 รายการคัดเลือกของผู้ชมรายการ "ฟ้าใส น้ำใจงาม"

2. โรตารี่ ธนบุรี  พ.ศ. 2518

3. ทีวีอาสา

4. โรตารี่ สีลม พ.ศ. 2550

5. โรตารี่ เจริญนคร พ.ศ. 2551 – 2552

6. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มอบโล่เชิดชูเกียรติ ผู้นำคุณประโยชน์ดีเด่น แก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก ประจำปี 2550

7. ศิษย์เก่าดีเด่นและศิษย์เก่าดียอดเยี่ยม พ.ศ. 2543 โดยสมาคมศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียล โดยได้รับพระราชทานเข็มที่ระลึกเพื่อเชิดชูเกียรติจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พ.ศ. 2544

8. ศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชดีเด่น พ.ศ. 2546 สาขาการบริการชุมชนทั้งหมดได้จากการทำงานที่สำนักงานแพทย์ตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปี โดยเฉพาะการเรียกขานจากสื่อว่า "หมอ 5 บาท"

9. ที่ปรึกษาและสอนถ่ายภาพระบบร่างกาย

     รศ.นพ.สภา เคยให้ข้อสังเกตแก่สังคมไทยเมื่อครั้งตอนมีชีวิตอยู่ว่าอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า จะขาดแคลนบุคลากรที่เป็นอาจารย์แพทย์เพราะปัจจุบันมีแพทย์ที่สนใจจะทำงานในสถาบันศึกษาน้อยลงเพราะการเป็นอาจารย์ต้องเสียสละเวลา ที่จะถ่ายทอดความรู้ เอาใจใส่ในการสอนมุ่งมั่นที่จะศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นอาจารย์สอนได้ ขึ้นอยู่กับทักษะการถ่ายทอดความรู้ให้นักศึกษา รวมทั้งความรักในอาชีพแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งยังไม่มีเวลาเปิดคลินิกส่วนตัว หารายได้มากเท่ากับแพทย์เฉพาะทาง

 

    รศ.นพ.สภา จากไปอย่างสงบ เมื่อวันที่  9 พ.ย. 2559  เวลา 21.57 น. ขณะเข้ารักษาตัวยังโรงพยาบาลศิริราช เหลือไว้แต่ความดีที่สะสมไว้แม้สังขารจะดับสลายไปแต่คุณงามความดีที่ได้สร้างไว้นั้นยังคงอยู่จากเกียรติประวัติที่สะสม ทำให้นักศึกษาแพทย์รุ่นต่อรุ่นได้ศึกษาและยึด รศ.นพ.สภา เป็นแบบอย่างในการมีจรรยาบรรณต่อวิชาชีพ เพื่อบริการรักษาอาการป่วยแก่ประชาชนอย่างเสมอภาคไม่มุ่งหวังแต่เพียงผลกำไร

 

ขอบคุณข้อมูล thaifstt  , kapook