รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์   http://www.tnews.co.th


สุดยอดวิชากรรมฐาน!!! เผยตำราเก่าแก่ของประเทศไทยถูกเก็บรักษาไว้ที่ “วัดพลับ” นี่เอง สันนิษฐานว่า  พระเจ้าตากสินและสมเด็จโต ใช้ตำรานี้  

 

            นับเป็นเรื่องที่เป็นปริศนา คลุมเครือในประวัติศาสตร์เพราะแทบไม่มีใครรู้ว่าท่านทำกรรมฐานแบบไหน จากหลักฐานในพระราชประวัติของสมเด็จพระเจ้าตากสินมีอยู่เพียงไม่กี่บบรทัด เกี่ยวกับการทำกรรมฐานของพระองค์โดยมีใจความว่าพระองค์ทรงเพ่งจิตไปยังกึ่ง กลางหน้าผากโดยเชื่อว่าเป็นเหตุให้เกิดตาทิพย์ จากข้อความเพียงเท่านี้จึงเป็นสิ่งที่น่าสืบค้นว่าพระเจ้าตากสินทรงทำ กรรมฐานตามแนวไหนอย่างไร

สุดยอดวิชากรรมฐาน!!! เผยตำราเก่าแก่ของประเทศไทยถูกเก็บรักษาไว้ที่ “วัดพลับ” นี่เอง สันนิษฐานว่า  พระเจ้าตากสินและสมเด็จโต ใช้ตำรานี้  

 

           การสืบค้นการทำกรรมฐานของสมเด็จพระเจ้าตากสินนั้นจึงต้องค้นหารากฐานที่มาของการ ทำกรรมฐานในยุคกรุงศรีอยุธยา ซึ่งในวันนี้ทีมงานของเราได้มาสืบค้นแนวทางการทำกรรมฐานของพระเจ้าตากที่คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม โดยวัดแห่งนี้ในปัจจุบันเป็นเพียงที่เดียวที่ยังคงกรรมฐานแบบครั้งกรุงเก่า ได้อย่างครบถ้วนที่สุด
พระอาจารย์วีระ ฐานวีโร เจ้าคณะ ๕ วัดราชสิทธารามได้เล่าถึงสมเด็จพระเจ้าตากสินไว้ว่า
“พระองค์ทรงมีความสนพระทัยในการศาสนา ทรงรวบรวมพระไตรปิฎกตลอดจนทำนุบำรุงวัดวาอาราม ที่สำคัญคือพระองค์สนใจในการทำกรรมฐาน ทั้งนี้พระองค์เองก็ได้ฝึกกรรมฐานมาแต่ครั้งกรุงเก่า โดยกรรมฐานที่พระองค์ผ่านการร่ำเรียนมาเรียกกันว่า “กรรมฐาน มัชฌิมา” โดยลำดับนั่นเองและเชื่อได้ว่าพระองค์คงมีความชำนาญไม่น้อย เพราะวิชากรรมฐานแบบมัชฌิมานั้นเป็นพื้นฐานของวิชาในพิชัยสงครามด้วย"
           “กรรมฐาน มัชฌิมา” ถือว่าเป็นแนวทางการทำสมาธิที่เก่าแก่ที่สุดที่มีมาแต่สมัยสุโขทัยและแพร่ หลายอย่างยิ่งในยุคกรุงศรีอโยธยา โดยถือแบบเรียนกรรมฐานนี้เป็นหนึ่งเดียวกันหมด
           ดังนั้นจึงสรุปได้ชัดเจนว่ากรรมฐานที่พระเจ้าตากสินปฏิบัติก็คือ “กรรมฐาน มัชฌิมา” นี่เอง
         พระอาจารย์วีระ ฐานวีโร ได้สรุปไว้ว่า
         "พระเจ้าตากสินผ่านการทำกรรมฐานมาจนน่าจะบรรลุธรรมชั้นสูง เชื่อว่าคงบรรลุเป็นพระโสดาบันเป็นอย่างน้อย ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า พระองค์ไม่ได้วิปลาสดั่งที่ใครต่อใครเข้าใจกันอย่างแน่นอน"

สุดยอดวิชากรรมฐาน!!! เผยตำราเก่าแก่ของประเทศไทยถูกเก็บรักษาไว้ที่ “วัดพลับ” นี่เอง สันนิษฐานว่า  พระเจ้าตากสินและสมเด็จโต ใช้ตำรานี้  


พระกรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับ ของสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร(สุก ไก่เถื่อน)
พระกรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับ ของสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร(สุก ไก่เถื่อน) ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของพระมหากษัตริย์ไทย ถึง ๔ พระองค์ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ คือรัชกาลที่๑ - ๔ รวมถึงเป็นพระอาจารย์ของสมเด็จฯโต พระองค์ท่านได้สืบทอดแนวการปฏิบัติพระกรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับ ต่อเนื่องมาจากสมัยสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยา โดยไม่ขาดสาย 
ขณะนี้มีเพียงที่วัดราชสิทธาราม ซ.อิสรภาพ ๒๓ ธนบุรี เพียงแห่งเดียว ที่คงรักษาแนวทางเดิมไว้จนถึงทุกวันนี้ 
เป็นแนวทางปฏิบัติอย่างเป็นขั้นตอนตามลำดับการเรียนรู้ ตรงตามพระไตรปิฎก  ขจัดอุปาทานและความหลงของจิตได้ 
เหตุที่เรียก พระกรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับ เพราะเป็นพระกรรมฐานที่ไม่เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ในพระสมถกรรมฐานทั้ง ๔๐ กอง และเรียนเป็นลำดับไปจนครบ ๔๐ กอง เป็นการรวบรวมเอาพระสมถะกรรมฐานทั้ง ๔๐ กอง และวิปัสสนาทั้งมวลไว้ในที่เดียวกัน เพื่อไม่ให้พระสมถะกรรมฐาน ๔๐กอง และพระวิปัสสนาทั้งมวล แตกกระจายสูญหายไปในทางปฏิบัติ (คือไม่เหลือ แต่ตำรา) อีกทั้งไม่ให้ความสำคัญกับพระกรรมฐานกองใด กองหนึ่ง 
พระกรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับ อันเป็นของ พระผู้เป็นเอตทัคคะ เป็นเลิศในทาง  เป็นผู้ใคร่ในการศึกษา ศีล สมาธิ ปัญญา คือ พระราหุลเถระเจ้า 
พระกรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับ จึงถือได้ว่าสืบสายพระกัมมัฏฐานของพระพุทธองค์ที่มีมาแต่ครั้งพุทธกาล โดยพระราหุลเถระ เป็นองค์ต้นสาย สืบมายังพระโสณะและพระอุตระจากลังกาวงศ์ธรรมทูตแห่งศรีธรรมาโศกราช สู่สุวรรณภูมิ 
พระกรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับเป็นกัมมัฏฐานที่ พระเถระอย่างสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) เจ้าประคุณสมเด็จโตพรหมรังสี และ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ฯ ได้เคยปฏิบัติจนบรรลุภูมิธรรมมาแล้วทั้งสิ้น การสืบธรรมสายนี้เสมือนหนึ่งร่วมรักษาพระพุทธศาสนามรดกธรรมของมนุษยชาติให้คงอยู่ จนสิ้นอายุพระศาสนา 
ที่มา www.payakorn.com  และ Jaruvat Chanposri