เพ้อเจ้อ!!วัฒนาบอกประยุทธ์สร้างหนี้ทำเศรษฐกิจตกต่ำ สงสัยลืมยุคยิ่งลักษณ์สร้างหนี้จำนำข้าว 5 แสนล้าน ขณะช่วงทักษิณประชานิยมรวยกระจุก จนกระจาย

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

วันนี้ (29 ม.ค.) นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความเรื่อง รัฏฐาธิปัตย์ชื่อ “ประยุทธ์” วิจารณ์เกี่ยวกับปัญหาการแก้ไขเรื่องความโปร่งใสของรัฐบาล ระบุว่า

“รัฐบาลนี้เน้นการปราบปรามการทุจริตเป็นผลงาน เพราะงานด้านอื่นจับต้องยากและต้องใช้สติปัญญา โฆษณาเป็นรัฐบาลที่โปร่งใสปลอดการโกงมากที่สุด แม้แต่รัฐธรรมนูญยังเรียกฉบับปราบโกง แต่ล่าสุดองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Independent Watchdog Transparency International) ออกมาประจานความล้มเหลวโดยจัดอันดับความโปร่งใสของไทยในปี 2559 อยู่ลำดับที่ 101 จาก 176 ประเทศ ได้คะแนน 35 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยที่ 45 คะแนน ต่ำกว่าในปี 2558 ที่ได้ 38 คะแนนและถูกจัดอยู่อันดับที่ 76 จาก 168 ประเทศ เป็นการจัดอันดับในขณะไม่มีนักการเมืองที่พลเอกประยุทธ์ชอบโยนความผิดให้บริหารประเทศแม้แต่คนเดียว

พลเอกประยุทธ์อ้างเหตุในการยึดอำนาจ ปรากฏตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 1/2557 ว่า “ต้องการให้สถานการณ์ความไม่สงบกลับคืนสู่ความปกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรักความสามัคคี ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทุกพวก ทุกฝ่าย” แต่ตลอดเวลาที่อยู่ในอำนาจ คสช. ได้ทำความเสียหายให้กับประเทศอย่างมโหฬาร แค่ด้านเศรษฐกิจเพียงไม่ถึง 3 ปีที่อยู่ในอำนาจ รัฐบาลต้องจัดงบประมาณแบบขาดดุลถึง 2.3 ล้านล้านบาท โดยปี 2560 ต้องใช้เงินกู้สูงถึง 5.5 แสนล้านบาท ถือเป็นรัฐบาลที่สร้างหนี้ให้ประเทศมากที่สุด แต่เศรษฐกิจกลับตกต่ำมากที่สุดเช่นกัน

ผมเชื่อว่าประชาชนอยากเห็นพลเอกประยุทธ์ทำตามภารกิจที่อ้างเป็นเหตุในการยึดอำนาจ คือทำให้บ้านเมืองสงบเกิดความปรองดอง ยิ่งได้อำนาจมาโดยไม่ชอบยิ่งต้องนอบน้อมถ่อมตน แต่พลเอกประยุทธ์มักพูดจาแบบไม่เห็นหัวใคร ต้นเหตุคือมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่บัญญัติให้พลเอกประยุทธ์เป็นรัฏฐาธิปัตย์ที่ยิ่งใหญ่ แม้รัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติมีผลบังคับใช้แล้วก็ยังมีอำนาจเหนือทุกคนและทุกองค์กร สามารถกำหนดชะตากรรมของทุกคนในประเทศนี้ได้ หาไม่แล้วคำพูดอย่างอหังกาที่ว่า “ถึงต้องการเลือกตั้งก็เลือกไม่ได้ เพราะยังไม่ให้เลือก ถึงเวลาแล้วค่อยเลือก” คงไม่หลุดออกมา ก่อนออกเสียงประชามติทุกคนรู้เรื่องนี้แล้วหรือไม่”

ทั้งนี้ นาย วัฒนา คงลืมไปว่า การจ่ายเงินในโครงการจำนำข้าวรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่สิ้นสุดลงเมื่อ 17 มิ.ย. 2557 หลังจากโครงการของปี 2556/57 ค้างจ่ายเงินชาวนามากว่า 7 เดือน โดยเป็นการจ่ายเงินที่เร็วกว่าเดิมที่กำหนดไว้วันที่ 22 มิ.ย.หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจ 22 พ.ค.ได้สั่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ่ายเงินให้ชาวนาทันที

การจ่ายเงินก้อนสุดท้าย เป็นการปิดฉากโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่จ่ายเงินจำนำในราคาสูง โดยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำโครงการจำนำ 5 รอบการผลิตจ่ายเงินไปทั้งสิ้นกว่า 8 แสนล้านบาท โดยเริ่มปี 2554/55 นาปีมีผลผลิตเข้าโครงการ 6.95 ล้านตัน จ่ายเงินออกไป 1.18 แสนล้านบาท, นาปรัง 55 ผลผลิตเข้าโครงการ 14.70 ล้านตันจ่ายเงินออกไป 2.18 แสนล้านบาท, ปี 2555/56 ครั้งที่ 1 ข้าวเข้าโครงการ 14.62 ล้านตันจ่ายเงินไป 2.34 แสนล้านบาท.ครั้งที่ 2 ข้าวเข้าโครงการ 7.87 ล้านตัน จ่ายเงินไป 1.17 แสนล้านบาทและข้าวนาปี 2556/57 ปริมาณข้าวเปลือก 11.88 ล้านตัน คิดเป็นเงิน จำนวน 1.95 แสนล้านบาท โดยระบายข้าวใช้เงินคืน ธ.ก.ส.ทั้งสิ้น 1.82 แสนล้านบาท

เป็นภาระที่ต้องตั้งงบประมาณใช้จ่ายคืน สำหรับเงินในโครงการโดยหักลบรายจ่ายกับรายได้ขายข้าวคงเป็นภาระทั้งสิ้น 6.93 แสนล้าน ไม่รวมกับมูลค่าข้าวในสต็อกคงเหลือที่ประเมินกันว่าก่อนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยุบสภามีปริมาณสต็อกข้าว 16.5 ล้านตัน

แหล่งข่าวในวงการข้าวตั้งข้อสังเกตว่า การจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จะขาดทุนมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการขายข้าวในสต็อก หากที่เหลือ 16.5 ล้านตันขายได้ 2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการประเมินราคาให้สูงสุดที่ตันละกว่าหมื่นบาท จะขาดทุนจากการจำนำ 5 รอบการผลิตที่ 5 แสนล้านบาท แต่โดยข้อเท็จจริงข้าวไทยราคาอยู่ที่ 300 ดอลลาร์/ตัน ประมาณ 1 หมื่นบาทเท่านั้น ไม่หักค่าเสื่อมและค่าบริหารจัดการ แต่ที่สำคัญ คือ สต็อกข้าวคงเหลือที่ 16.5 ล้านตันหรือไม่ หรือน้อยกว่าที่คาดการณ์ หากเป็นเช่นนั้นตัวเลขขาดทุนเฉพาะรายรับ-จ่ายจะสูงกว่า 5 แสนล้านบาททันที

"ทั้งหมดเป็นภาระของ คสช. ที่กำลังถูกจับตามองว่า จะจัดการกับปัญหาอย่างไร หลังจากโครงการนี้ถูกตำหนิ มาตลอดว่าใช้งบประมาณสูงสิ้นเปลืองและทำให้กลไกตลาดข้าวพังลง เงิน 8-9 แสนล้าน เสียหายโดยตรงกว่า 5 แสนล้านเป็นเม็ดเงินไม่ใช่น้อยๆ"

 

 

เรียบเรียง บุญชัย ทีนิวส์