ย้อนรำลึกวันมรณภาพ ครบรอบ ๖ปี “หลวงตามหาบัว” เมื่อหลวงตามาลาหลวงปู่จันทร์ศรีไปนิพพานในเช้าวันที่ ๓๐ มค.๒๕๕๔

                   พระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป) มีความคุ้นเคยนับถือกันกับหลวงตามหาบัว ตั้งแต่คราวไปพักที่วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ตามพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๒-๘๓ สมัยนั้นหลวงตามหาบัว ไปเรียนนักธรรมเอก และบาลีประโยค ๓ ที่วัดเจดีย์หลวง วันหนึ่งได้ขึ้นไปกุฏิหลังพระเทพโมลี (พิมพ์ ธมฺมธโร) ต่อมาได้รับโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็น สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ แล้วก็เห็นพระบัว นอนอยู่ ไม่มีมุ้งกลด ต้องนอนตากยุง  หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโปได้ถวายมุ้งหลังหนึ่ง ก็รู้จักมักคุ้นกันมาแต่นั้น หลวงตามหาบัว เป็นผู้ที่มีความตั้งมั่นในการศึกษาพระปริยัติธรรม จะเอาเพียงนักธรรมเอกและประโยค ๓ ต่อจากนั้นก็จะไปออกปฏิบัติกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งไปอยู่ศึกษาอบรมกับหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ๘ ปี จนได้หลักจิตหลักใจ แล้วมาตั้งวัดป่าบ้านตาด แนะนำสั่งสอนพระเณรและประชาชน จนมีลูกศิษย์ลูกหาเป็นที่เคารพนับถือเลื่อมใสของประชาชนทั่วประเทศ แม้แต่อาตมภาพขณะใดจิตไม่สงบดับจากกิเลส ก็มาปรึกษาหารือกับหลวงตามมหาบัว ท่านก็แนะนำ  อันนี้เนื่องจากบุญเก่าได้บันดาลให้มาพบกัน

ปลายปีที่แล้ว(๒๕๕๓)ในระยะหลวงตาอาพาธ “หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป” ได้แวะไปเยี่ยมหลายครั้ง และในวันที่หลวงตามหาบัวจะละสังขาร อาตมภาพขณะพักจำวัดหลับเคลิ้มไป ก็ปรากฏว่าหลวงตามหาบัวแวะมาหากราบ ๓ ครั้ง  ก็พูดว่า “เจ้าคุณฯ ผมมาลานะ” หลวงปู่จันทร์ศรีก็ถามว่า “จะลาไปไหน?” หลวงตามหาบัวบอกว่า “ไปที่ไม่เกิดอีก เพราะชาติสุดท้ายของผม ให้หลวงปู่จันทร์ศรีอยู่ต่อไป ให้ลูกหลานได้กราบไหว้” แล้วหายไป

ตื่นขึ้นก็จำความฝันได้ชัดเจน เวลาประมาณตี ๔ นาฬิกา ก็ยังนึกอยู่ว่า หลวงตามหาบัวคงไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว ตอนเช้าก็รับทราบว่าท่านมรณภาพแล้ว รู้สึกใจหายและรู้สึกอาลัยในการจากไปของหลวงตาเป็นที่สุด ซึ่งอาตมภาพมั่นใจว่า “ท่านไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว” ท่านได้วางแบบอย่างอันงดงามไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ดำเนินรอยตาม ขอให้ลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนได้สืบแนวปฏิปทาต่อไป

จาก...หนังสือญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์

ข่าวโดย : กิตติทีนิวส์  / สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ/ ทีมข่าวปัญญาญาณ – ทีนิวส์