ชัยชนะครั้งใหญ่ ของการปราบพ่อค้ายาเสพติด...!! ย้อนให้ดูกันกับปฎิบัติการ ปส. กวาดล้างเสพติด (รายละเอียด)

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม : www.tnews.co.th

ประเด็นร้อนทางสังคมในช่วงนี้ก็คงหนีไม่พ้นกรณีของคดีจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งเสาหลักก็คือ นายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาว สปป.ลาวและที่ฮือฮาที่สุดในตอนนี้ก็คือเรื่องที่นายอัครกิตติ์ หรือเบนซ์ เรซซิ่ง วรโรจน์เจริญเดช ซึ่งเป็นสามีของ ณปภา หรือแพท ตันตระกูล เข้าไปพัวพันในเครือข่ายนี้ด้วย (อ่านข่าวเพิ่มเติม >>>   ถึงช็อก!!! ผบช.ปส.แฉหลักฐานมัด "เบนซ์ เรสซิ่ง" ร่วมขบวนการฟอกเงินแก๊ง "ไซซะนะ" ทำหน้าที่นำรถยนต์หรูขายดารา เซเลบคนดัง ?? )

 

สำหรับครือข่ายของนายไซซะนะ จะใช้ถนนสายอีสานจาก จ.หนองคายลงมา และสายเหนือใช้เส้นทางจาก จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.แพร่ และ จ.น่าน ลำเลียงยาเสพติดเพราะว่าเส้นทางดังกล่าวอยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ขนส่งโดยใช้รถบรรทุก แต่ละคันจะซุกซ่อนยาเสพติดมาครั้งละเป็นล้านเม็ด

 

สำหรับนายไซซะนะเป็นผู้ต้องหารายสำคัญระดับใหญ่กว่านายเล่าต๋า แสนลี่ ทางการสืบสวนเชื่อว่าอยู่ในเครือข่ายเดียวกับนายอุสมาน สะแลแมง กลุ่มยาเสพติดรายใหญ่ของภาคใต้ คาดว่าเป็นแม่ข่ายระดับเดียวกัน ทั้งคู่ไม่ใช่นายใหญ่ที่สุด แต่มีผู้ต้องหาคนสำคัญเป็นคนสั่งการอีกที

 

การกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดของนายไซซะนะครั้งนี้ ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ต่อขบวนการยาเสพติดของเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งตั้งแต่รัฐบาลประยุทธ์เข้ามานั้นนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้มีการทลายยาเสพติดครั้งใหญ่

 

เมื่อวันที่ 14 กันยายน จ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด บุกจับกุมงานเลี้ยงสัมมนางานหนึ่งที่จัดขึ้นภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังได้รับรายงานว่าเป็นงานเลี้ยงขอบคุณเหล่าบรรดาเอเย่นต์ยาเสพติดทั้งรายย่อยและรายใหญ่ที่ทำยอดขายได้ดี โดยขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมมีคนร้ายบางส่วนไหวตัวทันพยายามขับรถหลบหนี โดยคนร้ายมีการยิงตอบโต้กันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเหตุให้ พ.ต.ท. ทิวาพงษ์ พูลโต สารวัตรกลุ่มงานข่าว กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ถูกยิงเข้าที่หน้าอกและแก้มได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายที่ขับรถหลบหนีถูกวิสามัญ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสุรศักดิ์ บุญทับ อายุ 24 ปี

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมบรรดาพ่อค้ายาเสพติดได้ทั้งหมด 31 ราย และสามารถหลบหนีไปได้ 4 ราย ซึ่งทั้งหมดมีหมายจับติดตัวอยู่ทุกราย

ต่อมา 16 กันยายน 2559 พล.ต.ท. เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการแถลงข่าวจับกุมแก๊งผู้ค้ายาทั้งหมด พร้อมของกลางเป็นยาบ้า 172,000 เม็ด ยาไอซ์ 6 กิโลกรัม ยาอี 1,450 เม็ด เงินสด 33 ล้านบาท ตู้เซฟ 2 ตู้ (ยังไม่สามารถเปิดได้) ที่ดิน รถยนต์ พระเครื่อง ทองรูปพรรณ อาวุธปืน และอื่น ๆ ซึ่งรวมมูลค่าแล้วไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า,ไอซ์,ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันมียาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภที่ 2 (เคตามีน) ไว้ในครวามครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะได้มีการสมคบกันร่วมกันฟอกเงิน

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2559  เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด สนธิกำลังทหาร และเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง เข้าจับกุมนายเล่าต๋า แสนลี่ นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ภาคเหนือ พร้อมครอบครัวและพวก 14 คน ใน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ หลังใช้เงินในการล่อซื้อ 11 ล้านบาท ทำการล่อซื้อยาไอซ์น้ำหนักกว่า 20 กิโลกรัม

 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่านายเล่าต๋า เคยถูกจับในข้อหาค้ายาเสพติดเมื่อปี 2546 และถูกปล่อยตัวเมื่อปี 2550 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่านายเล่าต๋ายังคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่ และก่อนหน้านี้ได้ทำการล่อซื้อเพื่อขอออกหมายจับ ก่อนจะล่อซื้อในครั้งนี้เพื่อเข้าจับกุมโดยมีพยานหลักฐานชัดเจน

พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด กล่าวถึงกรณีมีข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีหลักฐานและคาดว่าจะตามมาดำเนินคดีต่อไป ถ้าทางนายเล่าต๋า และนายวิจารย์ แสนลี่ สองพ่อลูกที่ทำการค้ายาเสพติดมานานนั้น เพราะมีข้าราชการบางกลุ่มที่เอื้อประโยชน์ และมีนายใหญ่หนุนหลังครอบครัวนี้อยู่ แต่ขอเวลาในการสอบสวนก่อนว่าซัดทอดถึงใคร ก็เตรียมตัวรับโทษตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ ทางกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดยังจะต้องดำเนินการตรวจยึดทรัพย์ทั้งหมด ที่เป็นทรัพย์สมบัติของตระกูลเล่าต๋า แสนลี่ ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดทั้งหมดต่อไป

 

เรียบเรียงโดย : วัสดา สำนักข่าวทีนิวส์