จับโกหก!!! กิตติรัตน์อ้างถ้าไม่รัฐประหารข้าวรับจำนำขายหมด

     สวัสดีครับแฟนข่าวทีนิวส์ วันนี้ วันที่ 4 ก.พ. 2560 วันศุกร์นางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร จะต้องเดินทางไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ผิดตามมาตรา 157 กฎหมายอาญา ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ไม่ดูแลโครงการรับจำนำข้าว ปล่อยให้เกิดความเสียหายเหลือคณานับแก่ประเทศ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไปเป็นพยานให้กับจำเลย

 

 

 

 

 

 

     ซึ่งได้แถลงออกมาทั้งสิ้น 8 ประเด็นด้วยกันเพื่อจะชี้ให้เห็นว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ได้ละเลยหรือละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ ว่าโครงการรับจำนำข้าวนั้นมีความจำเป็นทางเศรษฐกิจ และสังคม สองหลักการสำคัญของการรับจำนำนั้นต้องการช่วยเหลือเกษตรกร สามก็ได้พิจารณาแล้วว่าโครงการไม่ได้มีขนาดใหญ่เกินไป การใช้เงินของโครงการก็เป็นไปอย่างเหมาะสม กรอบเงินทุนหมุนเวียนก็อยู่ในเกณฑ์ วิธีการบริหารจัดการทางด้านการเงิน การคลังของรัฐบาลก็เป็นไปด้วยดี ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจก็มีมากมาย ความใส่ใจเมื่อมีข้อเสนอแนะทักท้วงก็ได้ทำอย่างดียิ่ง

 

 

 

 

 

 

     สาระสำคัญนายกิตติรัตน์สรุปว่า ถ้าไม่มีการรัฐประหาร สามารถระบายข้าวในสต๊อกได้หมดอย่างแน่นอน ประเด็นตรงนี้สำคัญ ก็ต้องมาดูข้อเท็จจริงกันว่า คำกล่าวอ้างของนายกิตติรัตน์นั้นจริงหรือไม่ ในขณะที่คสช.เข้ามายึดอำนาจนั้นมีข้าวเหลืออยู่ในสต๊อก 18 ล้านตัน ในจำนวนนี้หลังจากที่ได้มีการตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่ามีข้าวคุณภาพดีเพียงสิบกว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ยังไม่รวมถึงข้าวที่หายไปจากโกดังซึ่งปรากฏหลักฐานอย่างชัดเจน ถามว่าระยะเวลาการรับจำนำข้าวหลายฤดูกาลทำไมรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ โดยความรับผิดชอบของนายกิตติรัตน์นี่แหละถึงระบายข้าวไม่หมด

 

     แน่นอนต้องย้อนกลับไปดูข้อเท็จจริง ก็คือการรับจำนำที่เกินราคาตลาดถึงตันละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท ในขณะที่ราคาตลาดจริงๆ อยู่ที่เก้าพันถึงหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งนี่ก็เป็นราคาที่สูง

 

 

 

     ก็ต้องกลับมาทบทวนว่า เมื่อรับจำนำราคาสูงขนาดนี้จึงทำให้ไม่สามารถที่จะระบายข้าวออกไปได้ เพราะถ้าจะระบายจริงๆ ก็ต้องระบายในราคาต่ำ ถ้าระบายราคาต่ำ นั่นก็จะทำให้ความจริงปรากฏว่าโครงการรับจำนำข้าวรับจำนำในราคาที่สูงเกินจริง ตัวเลขการขาดทุนจะปรากฏการระบายข้าวจึงไม่เกิดขึ้น แล้วต้องไปสร้างกลไกวิธีการอันแยบยล ไปทำว่าขายแบบจีทูจี ซึ่งท้ายสุดวันนี้ก็ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเป็นการหลอกลวง ต้มตุ๋น ตัวเลขปรากฏชัดคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ แค่นี้ก็จับโกหกว่าสิ่งที่นายกิตติรัตน์แถลงไม่เป็นความจริง

 

     รัฐบาลคสช.ได้มีการระบายข้าวในสต๊อกออกไปแล้วประมาณ 10 ล้านตัน เหลืออีกประมาณ 8 ล้านตัน ได้เงินมาประมาณหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาท คิดเป็นมูลค่าตันละหนึ่งหมื่นหนึ่งพันแปดร้อยบาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับราคาที่ใกล้เคียงปัจจุบัน แน่นอนข้าวจำนวนนี้เป็นข้าวเสื่อมสภาพ ความจริงมันจะยันความจริงเสมอ และทุกเรื่องก็จะผ่านการพิสูจน์กันในศาลยุติธรรม

 

 

 

 

เรียบเรียง : นิตติยา  สำนักข่าวทีนิวส์
ขอบคุณที่มา : แฟนข่าวทีนิวส์กับสนธิญาณ