อานุภาพโลกโซเชียล!!! นักสืบเน็ตค้นละเอียดยิบอาวุธปืน "ลุงวิศวกร" อาจเป็นคำตอบได้ในชั้นต่อสู้คดีเจตนาฆ่าหรือป้องกันตัว ????

โลกโซเชียลยังคงร้อนระอุเลย หลังจากมีการเปิดหลักฐานชิ้นสำคัญกรณี วิศวกรยิงเด็กวัยรุ่นดับ 1 ราย ปมทะเลาะเรื่องจอดรถขวางที่สะพานปลา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 โดยคลิปที่ถูกปล่อยออกมานั้นถือเป็นจุดไคลแม็กซ์ เพราะก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายยังให้การขัดแย้งกัน โดยลุงวิศวกรให้การว่า ถูกซ้อมก่อนจะยิงเพื่อป้องกันตัว ส่วนทางฝั่งกลุ่มวัยรุ่น ก็ยืนยันว่า ลุงวิศวกรพยายามขับรถจี้ และบอกด้วยว่า ตอนลงไปไม่ได้ต่อยก่อน แค่ต้องการไปเจรจา

(คลิกอ่าน : ย้อนฟังคำพูด "แม่โจ๋ ม.4" ไล่ลุงวิศวะไปตรวจจิต VS หลักฐานเด็ดแฉภาพจากกล้องหน้ารถ ทำเอาเงิบ)

 

 

 

 

 

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีชาวเน็ตกลุ่มหนึ่งตั้งข้อสังเกตุของปืนที่ลุงวิศวกรที่ใช้ยิงเด็กม.4 ว่าทำไมถึงพกอาวุธร้ายเเรงเเบบนั้นในที่สาธารณะ  ทำไมลุงวิศวกรถึงไม่ยิงปืนขึ้นฟ้า ลุงวิศวกรใช้ปืนประเภทไหนกันเเน่ ???  ล่าสุดเฟซบุ๊ก Wasu Khamhom ได้ออกมาเฉลยกรณีที่มาที่ไปของปืนเจ้าปัญหานี้เเล้ว โดยระบุข้อความดังนี้ " รู้สึกรำคาญพวกโง่เรื่องอาวุธปืน ไปหาว่าลุงวิศวะ พกปืนเป็นอาวุธร้ายแรงไว้ฆ่าคน โดยไม่ได้ดูเลยว่าลุงแกใช้ปืนประเภทไหน เป็นกระสุนแบบใด แค่พวกดัดจริตโลกสวย ยิงปืนไม่เป็น ไม่รู้เรื่องปืนรังเกียจความรุนแรงก็ด่าไว้ก่อน เลยจะขอสงเคราะห์ความรู้เรื่องขนาดกระสุนให้เอาบุญหน่อย จะได้รู้ว่าลุงแกพกปืนไว้ป้องกันตัวไม่ได้คิดจะ ไปหาเรื่องใคร

 

 

ปืนที่ลุงวิศวะใช้เป็นปืนพกขนาดเล็กสำหรับผู้หญิงไว้ป้องกันตัว (คลิกอ่าน : ทำความรู้จักปืน"ลุงวิศวกร"ยิง"เด็กม.4") ใช้กระสุนขนาด .380 ACP อย่าไปจำสับสนกับ .38 Special ที่เป็นปืนลูกโม่ของตำรวจนะมันเป็นกระสุนคนละขนาดกันเลย เพราะ .380 ACP กระสุนจะมีขนาดแค่ 9x17mm ซึงถือว่ามีขนาดเล็กกว่า กระสุน 9x19mm มาตรฐานกระสุนปืนพกของ NATO เสียอีก ซึ่งกระสุน .380 นี้ถือว่ามีอำนาจการหยุดยั้งน้อย (Low Stopping Power) และมีระยะหวังผลไม่เกิน 10 เมตรเท่านั้น เรียกว่าเป็นกระสุนปืนขนาดเล็กที่ใช้สำหรับปืนพกทีมีขนาดกระทัดรัด มีจุดประสงค์ในการพกพาได้สะดวก และใช้เพียงเพื่อการป้องกันตัวเท่านั้น 

 

 

 

 

 เพราะกระสุน .380 ACP มันต่างจากกระสุน .38 และ 9 มม. ที่คนนิยม เพราะคนที่ถูกยิงด้วย .380 จะไม่ล้มลง หรือโดนแรงช๊อคจากกระแทกของกระสุนมากนัก มันจึงถูกจัดว่าเป็นกระสุนที่ใช้ในปืนพกขนาดเล็กไว้ยิงป้องกันตัว ไม่ได้หวังผลด้านการสังหาร (กระสุน.380 ก็ไม่มีหัวแบบ Hollow Point ของ 9 มม. หรือ .45 ที่ยิงเข้าเป้าแล้วแผลภายในที่กระสุนผ่านจะบานออกทำลายอวัยวะภายในด้วย ซึ่งกระสุนแบบนี้เค้าถือว่าเป็นกระสุนสังหาร ยิงหวังผลให้คนบาดเจ็บสาหัสหรือตาย)

 

สรุปอาวุธปืนที่ลุงวิศวะคนนี้ใช้ จึงเป็นอาวุธปืนสำหรับป้องกันตัวในระยะประชิด ไม่ได้เป็นปืนสังหาร หรือปืนซ้อมยิงในสนามด้วยซ้ำ เทียบกับนักเล่นปืนทั่วไปส่วนใหญ่จะชอบพกปืนขนาด 9mm กันทั้งนั้น เพราะมีหัวกระสุนให้เลือกทั้ง Full Metal Jacket และ Hollow Point ที่เลือกได้ว่าจะใช้ยิงเป้าสิ่งของ หรือยิงคน ซึ่งถ้าลุงคนนี้ มีนิสัยเป็นพวกกร่าง บ้าปืน กะมีเรื่องกับคนอื่น ผมว่าแกคงไม่พกปืนลักษณะนี้หรอก เพราะมันยิงคนแทบจะไม่ล้ม หรือไม่ตายเลย เว้นแต่กระสุนฟลุ๊คเข้าจุดสำคัญจริงๆ ซึ่งไอ้เด็กเวรที่โดนยิงนี่ ก็โดนเข้าจุดสำคัญตรงหน้าอก แล้วดันวิ่งหนี แถมเพื่อนมันเสือกไม่ช่วยพาไปส่งรพ. ให้ทันเลยเสียชีวิต ลุงแกไม่ได้ตั้งใจฆ่าแน่นอน แต่มันเป็นความซวยของเด็กสันดานนักเลง ที่เสือกเอาหน้าอกไปรับลูกปืนเอง เพราะตอนแกยิงไม่ได้เล็งด้วยซ้ำ

 

 

 

 

ปล. ส่วนตัวผมยังเคยพก Glock ที่ใช้กระสุน 9มม. เลย นักเลงปืนบางคนพก Colt .45 หรือ 11 มม. ด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าเป็นกระสุนพวกนี้บอกเลยว่า ยิงทีไส้แตก แผลเหวอะหวะ 

ถ้าเข้าอกนี่ตายคาที่ไม่ต้องส่งรพ. หรอก "The .380 ACP round is marginally suitable for self-defense situations as a choice for concealed carry pistols. "

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณที่มา : เฟซบุ๊ก Wasu Khamhom

 

 

 

เรียบเรียง : มนันยา สนข.ทีนิวส์