แทบกระอักเลือด!! "กนก" เหน็บแรง "ไอ้ขาเน่า" กลายเป็นหมอน หลังบุกวัดพระธรรมกาย ไม่เจอแม้เงาพระธัมมชโย!!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

จากกรณีเจ้าหน้าที่ DSI  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมฝูงชนและสุนัขตำรวจเข้าตรวจค้น ภายในวัดพระธรรมกายต่อเนื่อง และจนถึงขณะนี้ยังไม่พบพระธัมมชโยแต่อย่างใด จึงได้นำกำลังตรวจค้นเพิ่มเติมตามจุดเป้าหมายพร้อมให้พระภิกษุสงฆ์และเจ้าหน้าที่วัดพาเดินตรวจค้นพร้อมให้อธิบายถึงการใช้งานอาคารสถานที่ของวัดนั้น กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้เดินเข้ามาตรวจพบห้องซึ่งคาดว่าเป็นห้องที่พระธัมมชโยใช่นอนรักษาอาการอาพาธนั้น กลับเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมายเนื่องจากในห้องพบว่ามีเครื่องมือการแพทย์ hyperbaric chamber อยู่ด้วยซึ่งมีมูลค่าหลายสิบล้านบาท และเป็นเครื่องที่ผู้ป่วยต้องใช้งานอย่างต่อเนื่องแต่กลับไม่พบพระธัมมชโยอยู่ในวัด  

(คลิกอ่าน : มุสาไม่ผิดแค่ศีลแต่ตายตกนรกด้วย!!!พระธรรมกายอ้างน้ำมันหลายแสนลิตรเก็บไว้เติมรถวัด-โยม แต่DSIจับโกหกพบเป็นการกักตุนผิดกม.แจ้งข้อหาอายัดแล้ว??)

ต่อมาเฟซบุ๊ก Kanok Ratwongsakul Fan Page ของนายกนก รัตน์วงศ์สกุล ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องดังกล่าวระบุว่า  ไอ้ขาเน่า กลายเป็นหมอน ปาฏิหาริย์มีจริง!


เมื่อวานมีโล่นห่มเหลืองคนหนึ่งในแหล่งซ่องสุมธรรมกาย บอกว่า "...ไม่รู้ ธัมมชโย ยังอยู่ในวัดหรือไม่ เพราะไม่เจอมา 7-8 เดือนแล้ว" แต่เมื่อปีที่แล้ว โล้นหัวเดียวกันนี้บอกว่า .. "ยืนยันว่าพระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย และยังมีอาการอาพาธหนักด้วยกัน 8 โรค และรักษาตัวโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่ภายในวัดพระธรรมกายตามที่เคยให้ข่าวกับ สื่อมวลชน และท่านยังไม่ได้หลบหนีไปไหน.."


ต่อไปนี้คือข้อมูลจากเฟซบุ๊ค คุณ วิรังรอง ทัพพะรังสี Wirangrong Dabbaransi ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเครื่องอัพผิวหนังให้เต่งตึง เช็คดูได้ว่า เครื่องนี้ถูกใช้ล่าสุดเมื่อไหร่ และเครื่องนี้หนักเป็นตัน เคลื่อนย้ายลำบาก ถ้ารูที่กบดานอยู่ตอนนี้ ไม่มีเจ้าเครื่องนี้อยู่ด้วย อีธัมมี่จะต้องเหี่ยวลงในไม่ช้า.. ทนไหวหรือจ๊ะ
ข้อมูล

...มี hyperbaric chamber ด้วย ขนาดโรงพยาบาลหลายแห่ง ยังไม่มีใช้เลยค่ะ เป็นออกซิเจนแรงดันสูง ออกซิเจนในกระแสเลือดจะเข้มข้นกว่าแบบสูดดมธรรมดา ต้องมีหมอพยาบาล โดยเฉพาะ และมีบริษัทเดียวที่ขายในไทย ที่เห็นในรูปเป็นแบบ monoplace เข้าไปได้คนเดียว ใช้รักษาแผลเรื้องรังที่เท้า และช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ดูอ่อนกว่าวัย โรงพยาบาลความงามบางแห่งจึงนำมาใช้เพื่อชลอความแก่ ราคาอย่างต่ำๆ ก็สิบห้าล้านขึ้นไป ถ้าเปิดคอมพิวเตอร์ดูการ run เครื่อง ก็พอจะบอกได้ว่า ใช้งานครั้งหลังสุดเมื่อไร คงใช้ส่วนตัวเพื่อรักษาแผลที่เท้า ไม่ได้ใช้ร่วมกับคนไข้คนอื่น

ห้องที่อยู่ในภาพนี้ น่าจะเป็นห้องที่ธัมมชโยใช้จริง เพราะ hyperbaric chamber หนักเป็นตัน เคลื่อนย้ายลำบาก ห้องที่ไว้ hyperbaric chamber นี้ ไม่น่าจะใช้เป็นห้องนอน แค่มาครั้งคราวตอนเข้า chamber เพราะคงไม่มีใครเอา hyperbaric chamber มาวางในห้องนอนแน่ แสดงว่า ห้องนี้แค่รักษาเฉยๆ ธัมมชโยต้องนอนที่อื่น ดีเอสไอจึงต้องค้นหาต่อไป
ส่วนห้องปลอดเชื้อที่องอาจเคยพาไปดู ดูจากผนังห้องและหน้าต่าง อาจจะไม่ใช่ห้องนี้.... แล้วก็เอาเครื่องช่วยหายใจ เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจไปวางไว้ทำไมในห้องนั้น.... ยังไม่ตายซักหน่อย
ฝากข้อความให้ดีเอสไอยึดเครื่องนี้ไปตรวจการขออนุญาตนำเข้า เพราะเป็นคลินิก ไม่ใช่ รพ. นำเข้ามาได้อย่างไร ใครเป็นคนขออนุญาตนำเข้า แล้วเอามาไว้ที่วัดได้อย่างไร ถ้าพอเครื่องนี้ถูกยึด คราวนี้บางคนที่หน้าเต่งตึงใส จะเหี่ยวแน่ๆ

 

แทบกระอักเลือด!! "กนก" เหน็บแรง "ไอ้ขาเน่า" กลายเป็นหมอน หลังบุกวัดพระธรรมกาย ไม่เจอแม้เงาพระธัมมชโย!!

จึงขอฝากข้อความด่วนถึงดีเอสไอว่า เมื่อตรวจพบเครื่อง hyperbaric chamber ควรยึดทันที ถ้าขนออกมาตรวจสอบไม่ได้ก็ต้องมีการปิดห้องมีคนเฝ้าไว้ ห้ามคนเข้าออก ห้ามใช้เครื่องอีก เครื่งนี้ธัมมชโยน่าจะใช้เป็นประจำ ทำให้เปอร์เซนต์ความน่าจะเป็นไปได้ว่าธัมมชโยยังอยู่ภายในวัดธรรมกาย มีสูงขึ้น.....


เครื่องนี้อันตรายตอนเข้า และตอนออกเพราะมันออกไม่ได้ทันทีต้องใช้เวลาประมาณ ๑๕ นาทีถึงออกมาได้ถ้าเกิดหัวใจวายตายในนั้นเลย ตอนเข้าก็เหมือนขึ้นเครื่องบินหูอื้อ ต้องมีเจ้าหน้าที่คุมเครื่องตลอดตามไปถามเจ้าหน้าที่ หมอ พยาบาลที่ทำให้ น่าจะได้เรื่องแน่นอนค่ะ
Chamber ถ้าเข้าแล้วต้องเข้าตลอด ถ้าเว้นไปขาจะดำเพิ่ม ไม่เจอตัวธัมมชโยก็น่าจะตาม Chamber ไปแหละ....เจอตัวแน่ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลทางการแพทย์จากคุณหมอ- Tavatchai Kanchanarin 

 

แทบกระอักเลือด!! "กนก" เหน็บแรง "ไอ้ขาเน่า" กลายเป็นหมอน หลังบุกวัดพระธรรมกาย ไม่เจอแม้เงาพระธัมมชโย!!

 

แทบกระอักเลือด!! "กนก" เหน็บแรง "ไอ้ขาเน่า" กลายเป็นหมอน หลังบุกวัดพระธรรมกาย ไม่เจอแม้เงาพระธัมมชโย!!

(คลิกอ่าน : ดีเอสไอเงิบหนัก!! เจอน้ำมันหลายแสนลิตรภายในวัดธรรมกาย?? หลังภารกิจบุกค้น"วัดพระธรรมกาย" ใครเห็นภาพบอกได้คำเดียวว่าเอาเข้าไปได้ยังไง?)

ขอบคุณเฟซบุ๊ก Kanok Ratwongsakul Fan Page 

เรียบเรียง รัตติยา